รองนายกฯ สั่งสรุปความเห็นทุกกระทรวงส่ง 14 พ.ค. แนะดูกลไกที่เป็นอุปสรรคเพื่อ รบ.ข้างหน้า ไม่ติดใจ รธน.มีมาตรามาก เหตุมองที่เนื้อหา ชี้ตัดได้ 20-30 มาตรา แก้ไขหรือไม่อยู่ที่ สปช. รับ ครม.อาจเสนอแก้ภาคการเมือง ชงถก 19 พ.ค.
วันนี้ (29 เม.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของ ครม.ว่า กรรมาธิการเปิดโอกาสให้ยื่นคำขอแก้ไขภายใน 30 วัน ตั้งแต่ 26 เม.ย. - 25 พ.ค. จึงยังถือว่าขณะนี้มีเวลาอยู่ ตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายรัฐบาลได้สั่งให้ทุกกระทรวงส่วนความเห็นกลับมาภายในวันที่ 14 พ.ค. จากนั้นจะให้ทีมงานรวบรวมเป็นตัวร่างลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ ได้ให้ข้อสังเกตกับทุกกระทรวงว่าขอให้พิจารณาและเสนอว่าร่างรัฐธรรมนูญมีกลไกอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารของกระทรวงและรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ภายนอกเฉพาะเรื่องกลไกที่เป็นปัญหาต่อระบบการเมือง ซึ่งที่ให้ทางกระทรวงดูในเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลนี้ แต่เป็นการทำเพื่อรัฐบาลในวันข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบ้างที่บางกระทรวงส่งเข้ามาแล้ว และส่วนตัวก็เห็นว่ามีหลายมาตราที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล
นายวิษณุยังกล่าวอีกว่า ไม่ติดใจที่ร่างรัฐธรรมนูญมีจำนวนมาตรามากเพราะมองในเรื่องของเนื้อหาเป็นหลัก เท่าที่ดูเห็นว่าสามารถตัดออกได้ประมาณ 20-30 มาตรา มีทั้งที่เป็นการตัดบางวรรค หรือทั้งวรรค แต่ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ ส่วนในเรื่องกลไกทางการเมือง ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าร่างรัฐธรรมนูญอาจไม่ผ่านหากไม่มีการแก้ไข เช่น ที่มา ส.ส. ส.ว.และนายกฯ นั้น ตนเห็นว่าการแก้ไขหรือไม่ อยู่กรรมาธิการยกร่างฯ ถ้ากรรมาธิการยืนยัน เมื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็เป็นอำนาจของ สปช.ที่จะชั่งนำหนักได้เสียว่าจะยอมแก้ไขหรือไม่ และคุ้มหรือไม่ที่จะให้ผ่าน ยอมรับว่าในส่วนของ ครม.ก็อาจมีการเสนอแก้ไขในประเด็นภาคการเมือง และขณะนี้ยังไม่ได้ยุติ ต้องมีการพูดคุยในลายละเอียดก่อน เบื้องต้นตนได้ศึกษาและจะนำเสนอ ครม.ในวันที่ 19 พ.ค.
