xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ” ขู่ฟ้อง กมธ.ยกร่างฯ-สปช. ผลประโยชน์ทับซ้อน บี้ถอนสมัคร คปก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน (แฟ้มภาพ)
นายกสมาคมต้านโลกร้อน ชี้ ปธ.กมธ.ยกร่างฯ ถอนสมัคร คปก.แล้วถือว่าไม่ผิด ขู่ กมธ.-สปช.คนอื่นได้นั่ง คปก.เจอฟ้องศาลปกครองมีผลประโยชน์ทับซ้อน จี้ถอนตัวตาม ตัดเจตนาสืบทอดอำนาจ “บุญเลิศ” ลั่นไม่ถอนตัว แจงไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน สปช.แค่แสดงความเห็น รธน. ลงมติทั้งฉบับไม่ได้ ยันการทำงาน คปก.ไม่ทับซ้อน สปช. เตือน คกก.สรรหา-คัดไม่ดีต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (14 พ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน ในฐานะผู้สมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) เต็มเวลา กล่าวว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานยกร่างฯ ได้ถอนการสมัคร คปก.ไปแล้วถือว่าไม่มีความผิด แต่คนที่เป็น กมธ.ยกร่างฯ ที่เหลืออยู่ ได้แก่ นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ น.ส.สุภัทรา นาคะผิว และ สปช.ได้แก่ นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์, นายบุญเลิศ คชายุทธเดช และ พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ หากยังสมัครอยู่และสุดท้ายแล้วได้รับการสรรหาเป็น คปก.ตนจะไปร้องต่อศาลปกครองว่าการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 12 คนที่ประกอบด้วยตัวแทนจากข้าชการ 4 คน นักวิชาการ 4 คน และเอกชน 4 คน ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กมธ.ยกร่างฯ และ สปช.ที่เป็นผู้สมัคร คปก.นั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนขัดกันแห่งผลประโยชน์ อย่างเช่น กมธ.ยกร่างฯ นั้นมีส่วนโดยตรงที่เขียนร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 282 (3) ที่ให้อำนาจ คปก. และตัวเองก็มีเจตนาไปดำรงตำแหน่ง ขณะที่ สปช.นั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเป็นผู้เสนอแปรญัตติในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 36 วรรค 2 และต้องมีส่วนในการลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 37 วรรค 2 อีกทั้งยังผิดตามประมวลจริยธรรมอีกด้วย

“หากไม่อยากมีเรื่องเสื่อมเสียก็ให้เดินตามแนวทางเดียวกับนายบวรศักดิ์ เนื่องจากการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่ คปก.เป็นการแสดงเจตนาที่ชัดแจ้งว่าต้องการสืบทอดอำนาจ รวมทั้ง อีกหลายมาตราในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อย่างเช่น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศในมาตรา 279 อีกด้วยที่เป็นการสืบอำนาจชัดเจนโดยใช้การปฏิรูปประเทศและประชาชนบังหน้า” ผู้สมัครเข้ารับสรรหาเป็น คปก.เต็มเวลาระบุ

ด้านนายบุญเลิศ คชายุทธเดช สปช.ในฐานะผู้สมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ไม่เต็มเวลา กล่าวยืนยันว่ายังไม่ถอนจากการสมัคร คปก. และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญในมาตรา 282 (3) ที่ให้อำนาจแก่ คปก.ในการเสนอหรือยกเลิกกฎหมายต่อคณะสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะหน้าที่ของ สปช.ที่มาเกี่ยวข้องกับการเสนอคำแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก สปช.เป็นองค์หนึ่งเท่านั้นที่แสดงความเห็นควบคู่กับ ครม., คสช. รวมทั้งความเห็นของพรรคการเมืองและพี่น้องประชาชน และสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ กมธ.ยกร่างฯ จะปฏิบัติตามหรือไม่ หรือการลงมติรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 ส.ค. สปช.ก็ลงมติในภาพรวมทั้งฉบับไม่ได้ลงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในมาตรา 282 (3)เพียงมาตราเดียว ขณะที่หน้าที่การทำงานของสปช.ที่เกรงว่าจะไปทับซ้อนกับ คปก. หากได้รับเลือกยืนยันว่าตนสมัครแบบไม่เต็มเวลา และสามารถจัดสรรเวลาไปทำงานได้ โดยจะนำความรู้และประสบการณ์ของการเป็น สปช.ไปทำงานใน คปก.ให้ดีขึ้น

ส่วนจะได้รับการเลือกหรือไม่ ตนไม่ติดใจ และขอให้ติดตามการสรรหา คปก.ครั้งนี้ให้ดี เพราะมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเข้าไปสมัครกันมาก ดังนั้น หากหน้าตาของ คปก.ชุดใหม่ออกมาไม่ดีหรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และมีสิ่งที่เคลือบแคลงสงสัยว่าเขามาเป็นได้อย่างไร ผู้ที่ต้องร่วมรับผิดชอบคือคณะกรรมการสรรหาจำนวน 12 คน พร้อมผู้ได้รับเลือกเป็น คปก.11 คน ทั้งแบบเต็มเวลาและไม่เต็มเวลา


กำลังโหลดความคิดเห็น