อ้าง รธน.ชั่วคราว ไม่ได้ห้าม กมธ.ยกร่างฯ-สปช.-สนช.เข้ารับสรรหาเป็น คปก.

อ้างรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้ห้าม “กมธ.ยกร่างฯ-สปช.-สนช.” เข้ารับสรรหาเป็น คปก. “วิษณุ” ย้ำไม่ได้ห้ามคนร่างรัฐธรรมนูญ “ทำอะไรไม่ได้ตลอดชีวิต”

วันนี้ (13 พ.ค.) กรณีมีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บางรายได้ไปสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) แทนชุดเดิมที่จะหมดวาระลง ซึ่งตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในมาตรา 282 (3) ให้อำนาจหน้าที่ คปก.มีอำนาจเสนอให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายแล้วแต่กรณี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมว่าอาจจะเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง มีผลประโยชน์ทับซ้อน หนึ่งในนั้นมีชื่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเข้ารับการสรรหาด้วย แต่ต่อมานายบวรศักดิ์ระบุว่าตนได้ถอนใบสมัครแล้วเพื่อไม่ให้กระทบต่อรัฐธรรมนูญ และเพื่อไม่ให้นักการเมืองมาด่าตน และอาจจะตัดมาตรานี้ในร่างรัฐธรรมนูญทิ้งด้วย ส่วนกรณีที่มีสมาชิก สปช.บางคนลงสมัครด้วย ก็ถือเป็นสิทธิของเขาที่จะลงสมัครได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กลาวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 และร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่กำลังพิจารณากันอยู่ ไม่ได้กำหนดว่าเมื่อ กมธ.ยกร่างฯ พ้นจากตำแหน่ง 2 ปีแล้วจะเป็นอะไรไม่ได้เลย เพียงแต่เขียนห้ามว่า กมธ.ยกร่างฯ จะไปดำรงตำแหน่งในทางการเมืองไม่ได้ โดยตำแหน่งทางการเมือง คือ ส.ส., ส.ว.และรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งอื่นไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และ คปก.ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีอะไรห้าม

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายบวรศักดิ์เป็นประธาน กมธ.ยกร่างฯ อาจมีส่วนได้ส่วนเสียในการพิจารณากฎหมายนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะการสรรหา คปก.เป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย พ.ศ. 2553 ที่มีมาหลายปีแล้ว จนกระทั่งมาคณะกรรมการ คปก.ชุดนายคณิต ณ นคร มาครบวาระ จึงต้องสรรหาใหม่ตามกฎหมายเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้ออกประกาศอะไรใหม่ แต่ในอนาคตหากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำ คปก.รูปแบบใหม่ กรรมการ คปก.ที่กำลังสรรหากันอยู่ก็ต้องสิ้นสุดลง แล้วไปสรรหาใหม่ ดังนั้นจะได้เป็นหรือไม่ยังไม่รู้เลย

“เขาไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดห้ามว่าคนที่ทำรัฐธรรมนูญจะทำอะไรไม่ได้ตลอดชีวิต ไม่ใช่อย่างนั้น เข้าห้ามไว้แค่ 2 ปี และห้ามเฉพาะการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่เอา 36 กมธ.ยกร่างฯ ชุดนี้มาขึ้นเขียงรัฐธรรมนูญ จะผ่านหรือไม่ผ่านยังไม่รู้ แล้วยังจะบอกไม่ให้เป็นอะไรอีก” นายวิษณุกล่าว

นายไพฑูรย์ สว่างกมล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และ สนช.ชุดปัจจุบัน ในฐานะผู้สมัคร คปก.กล่าวว่า ตนแค่ลองสมัครลองดูเพราะเห็นเขาเปิดกว้างแต่ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ เพราะมีคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายสมัครด้วย แต่ถ้าได้ตนก็จะลาออกจากตำแหน่งรองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ ทั้งนี้ ตนคิดว่างาน คปก.สามารถทำอะไรได้เยอะกว่างานรองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพราะเป็นภาพรวมของกฎหมายทั้งหมด และตนก็มองในแง่งานบริหารกฎหมายเพราะกฎหมายเมืองไทยมีเป็นหมื่นฉบับ คงเป็นไปไม่ได้ที่ คปก.จะสามารถดูกฎหมายได้ทั้งหมด จึงคิดว่า คปก.ควรจะมีการพัฒนาหน่วยงานให้สามารถออกแบบกติกาให้คนอื่นทำตาม

ส่วนกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า สปช.และ สนช.หลายคนไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ด้วยนั้น นายไพฑูรย์กล่าวว่า ก็ถือเป็นสิทธิของเขาที่ทำได้ อาจจะเป็นทางเลือกของเขา เพราะถ้าได้รับเลือกเขาอาจจะลาออกจากตำแหน่ง สนช.และ สปช.ก็เป็นไปได้