xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชี้ กม.มีข้อจำกัดทำคนผิดไม่กลัว แนะแก้เพื่อจัดการโกงเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง(แฟ้มภาพ)
“บุญส่ง” แจงหลังถกพัฒนางานสืบสวน สรุปปัญหากฎหมายมีข้อจำกัด เป็นเหตุให้ผู้ทำผิดไม่กลัวกฎหมายเลือกตั้ง แนะแก้กฎหมายให้พนักงานมีอำนาจเรียก-จับกุม คดีเลือกตั้งให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด กกต.ยึดทรัพย์-แจกใบเหลือง แดง รับสั่งรวมข้อมูลหัวคะแนนที่ทำผิด เผยอบรมเครือข่ายแล้ว 50 จังหวัด

วันนี้ (12 พ.ค.) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการฝ่าย และพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรับฟังปัญหา และเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการป้องกันและปราบปรามการซื้อสิทธิขายเสียง และการดำเนินการสอบสวนในเชิงรุกว่า การพัฒนาระบบงานสืบสวนสอบสวนนั้น จากการประชุมทางวิชาการร่วมกันกับประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา และประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ ภาค 1-9 มีการสรุปถึงปัญหาข้อจำกัดในทางกฎหมายหลายเรื่อง เช่น อำนาจในการออกหมายเรียก หมายค้น หรือจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้า และการคุ้มครองพยานในคดีเลือกตั้ง รวมทั้งการดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญาต่อผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ต้องเริ่มดำเนินคดีในศาลชั้นต้นกว่าคดีจะถึงที่สุดต้องใช้เวลาหลายปี และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือกับพยานทำให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ทำให้ผู้กระทำผิดไม่กลัวกฎหมายเลือกตั้ง

ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเลือกตั้งให้มีผลเป็นรูปธรรมควรแก้ไขกฎหมาย 1. ให้พนักงานสืบสวนสอบสวนมีอำนาจออกหมายเรียก ค้น และจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้าในคดีเลือกตั้งรวมทั้งให้มีกฎหมายคุ้มครองพยาน 2. แก้ไขกฎหมายในการฟ้องคดีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง โดยในการดำเนินคดีอาญาของศาลอุทธรณ์ให้ใช้สำนวนสืบสวนสอบสวนของ สำนักงาน กกต.เป็นหลัก และในคดีอาญาผู้ถูกฟ้องสามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ แต่ในคดีเลือกตั้งและคดีแพ่งที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งถือว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด และให้อำนาจพนักงาน สำนักงาน กกต.มีอำนาจบังคับคดียึดทรัพย์ได้ และ 3. กกต.ควรมีอำนาจให้ใบเหลืองใบแดงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง และควรขยายเวลาประกาศผลการเลือกตั้งออกไปเป็น 60 วัน

นายบุญส่งกล่าวอีกว่า ตนได้มอบนโยบายด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยให้รวบรวมข้อมูลหัวคะแนนและผู้ที่เคยทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลใช้ประกอบสำนวนต่อไป ทั้งนี้ยังได้ฝึกอบรมผู้ประสานงานข่าวและสร้างเครือข่ายไว้ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 50 จังหวัด และ กกต.ยังได้ไปศึกษาดูงานด้านการปฏิบัติการข่าวของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อนำมาเป็นแนวทางการพัฒนาระบบงานข่าวรองรับมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งอย่างเข้มข้นต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น