รายงานการเมือง
แม้ช่อง PEACE TV สถานีโทรทัศน์เพื่อคนเสื้อแดง เพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มากหน้าหลายตาคอยสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นกล่อมมวลชนคนเสื้อแดง ให้อยู่ในคาถา จะโดนลงดาบจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. สั่งเพิกถอนใบอนุญาต
แต่แกนนำนปช.อย่าง “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ลดละยกธงขาวยอมแพ้ง่ายๆ พยายามหาช่องทางมานั่งหน้าสลอนออกทีวี เพราะรู้ว่าหากเสียพื้นที่หน้าจอไป ช่องทางการสื่อสารกับมวลชนคนเสื้อแดงจะน้อยลงทันที
เพราะอีกทางหนึ่งชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งขีดเส้นไม่ให้นักการเมืองลงพื้นที่พบปะกับประชาชน ปิดประตูนักการเมือง - นักเคลื่อนไหวค่ายแดง บางส่วนที่แอบใช้ช่วงจังหวะที่ คสช. เผลอลงพื้นที่พบประชาชนบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่อาศัยช่วงเสือหลับเดินสายเป็นว่าเล่นทั้งพื้นที่ภาคอีสาน - เหนือ - กลาง สั่งสมกำลังเครือข่ายไว้แน่นปึ้ก หวังส่งตัวเองขึ้นเป็น “นอมินี” ของ นช.แม้ว ในการศึกชิงอำนาจครั้งหน้า
เมื่อแกนนำ นปช. ลงพื้นที่ไม่ได้ แถม PEACE TV ถูกปิด ทีมงาน นปช. จึงต้องถอยมาตั้งหลักกันใหม่ เพื่อคิดกลอุบายหาช่องทางสื่อสารกับมวลชนให้ได้ โดยไม่เดือดร้อนช่องทางสื่อสารหลักช่องทางอื่น
มีบางคนเสนอให้แกนนำ นปช. ไปใช้พื้นที่ของช่อง TV 24 แต่คิดคาดการณ์กันว่าอาจจะโดน กสทช. มาลงดาบเพิกถอนใบอนุญาตอีก เพราะเมื่อไมโครโฟนจ่อปากไม่มีอะไรมาควบคุมหรือสั่งการให้ แกนนำ นปช. พูดเหน็บแนม คสช. หรือพูดปลุกระดมมวลชนได้ ขึ้นชื่อว่าแกนนำ นปช. ปากพาซวยเกือบทุกคน
หากใช้ TV 24 เป็นช่องทางการสื่อสารใหม่ มีหวังซวยซ้ำซวยซ้อน โดนเพิกถอนใบอนุญาตขึ้นมา จะเสียพันธมิตรสถานีเครือข่าย ที่แม้จะไม่มีพาว์เวอร์มากพอ แต่ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ เรียกแขกได้ในบางจังหวะเวลา
แนวคิดยึดฐานที่มั่น TV 24 จึงต้องล้มพับกลับไป เพราะดีดลูกคิดคำนวณกันถี่ถ้วยทบต้นทบดอกแล้วไม่คุ้มค่า
ทำให้แกนนำ นปช. ต้องนำมุกใหม่มาใช้ โดยการถ่ายทอดสดช่อง PEACE TV ผ่านทาง ยูทิวบ์ เพราะเชื่อว่าปลอดภัยจากการโดน คสช. ตรวจสอบ และการสั่งปิด ยูทิวบ์ ไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย เนื่องจากมีเงื่อนไขอยู่มากมาย
เริ่มที่ “ตุ๊ดตู่” จะเป็นคนประเดิมออกมาจ่อหน้าจอคนแรก กับรายการมองไกล ทุกวันเวลา 19.00 - 20.00 น. และหลังจากนั้น แกนนำ นปช. คนอื่นจะทยอยออกมาเสนอหน้าตามหน้าจอในช่วงเวลาอื่นสลับสับเปลี่ยนกันไป ต่างคนต่างมีรายการของตัวเอง แต่เนื้อหายังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรผิดเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะยังมีความคิดแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรก้าวหน้าไปมากกว่านี้
แต่ที่น่ากลัวคือ มีแรงเชียร์จากเครือข่ายแดง ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศให้ แกนน ำนปช. ใช้ช่องทาง PEACE TV ออนไลน์ เพราะสามารถสื่อสารกับคนเสื้อแดงในต่างแดนได้อีกทางหนึ่ง
ดูเหมือนว่าแม้ คสช. จะบีบ - ขอความร่วมมืออย่างไร แกนนำ นปช. ยังคงดื้อไม่ยอมให้เกิดความสงบสุขของประเทศโดยง่าย หาช่องทางที่จะเคลื่อนไหว เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองตลอดเวลา
กระนั้นแกนนำ นปช. ที่ไปใช้ช่องทาง ยูทิวบ์ ก็อย่าคิดว่า คสช. จะปล่อยให้พวกผีเจาะปากได้จ้อกล่อมมวลชนได้โดยง่าย ทีมงานที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำ นปช. ยังคงเกาะติดไม่หยุดหย่อนแน่นอน เพราะถ้าหย่อนยานเมื่อไร อาจจะโดนแว้งกัดได้ทันที
หน่วยติดตามของ คสช. รวมถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต้องทำงานมอนิเตอร์ช่องทางสื่อสารของมวลชนคนเสื้อแดงอย่างหนักเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื้อหาที่จะพูดหนีไม่พ้นการโจมตีการทำงานของ “บิ๊กตู่” อยู่แล้ว
ดังนั้น จึงต้องหาช่องทางมาบล็อกไม่ให้แกนนำ นปช. เคลื่อนไหวผ่านโซเชียลได้อย่างไร้การควบคุม เพราะจะส่งผลเสียต่อ คสช.- รัฐบาล เอง ทางหนึ่ง “ไอซีที” ต้องหามาตรการไว้เล่นงานเมื่อแกนนำนปช.ทำผิดเงื่อนไขของ ยูทิวบ์
ซึ่งในกฎของ ยูทิวบ์ มีระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าเงื่อนไขใดบ้างที่จะถือเป็นการทำผิดกฎ จนอาจจะโดนลบหรือสั่งห้ามใช้ช่องทางของ ยูทิวบ์ มาถ่ายทอดสดได้ เช่น การเสนอเนื้อหาความเกลียดชัง การข่มขู่ เป็นต้น
งานนี้ดูกันไปไม่ต้องนานมาก ผ่านไปสักเทป - สองเทป มีหวังแกนนำ นปช. อดรนทนไม่ได้พูดส่งเสริมความเกลียดชัง - ข่มขู่ฝั่งตรงข้าม ออกมาให้เห็นแน่ อยู่ที่ว่า “ไอซีที” จะจับจุดไปเล่นงานได้หรือไม่ “ไอซีที” จะเขี้ยวพอหรือเต็มใจทำตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ รอพิสูจน์กันในไม่ช้า
เพราะมีข่าวลือหนาหูว่าการเมืองภายใน “ไอซที” ยังคงแรงอยู่ไม่ใช่เล่น ลูกน้องเก่าของ “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” อดีตรัฐมนตรีไอซที ยังคงทำงานลับให้ “นายเก่า” อยู่หลายครั้ง รับจ็อบสืบข่าวลับผ่านเว็บไซต์ให้อยู่ก็หลายที
งานนี้รอพิสูจน์ฝีมือของคน “ไอซีที” อย่ากะพริบตา ดีไม่ดีไม่โยกย้ายนอกฤดูให้เห็นกันอีก
เห็นได้ว่าแกนนำ นปช. ไม่ยอมหยุดที่จะเคลื่อนไหว เพราะโลกปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารมากมายที่สามารถเปิดออกมาได้ถ้ามีเงิน ดังนั้น หาก คสช. จะขุดรากถอนโคนคนเสื้อแดง และไม่ให้แกนนำ นปช. ออกมาเคลื่อนไหวจริงๆ คงต้องไล่บี้บรรดาท่อน้ำเลี้ยงให้สิ้นซาก
ท่อน้ำเลี้ยงที่แกนนำ นปช. ใช้เป็นถิ่นฐานอย่าง เจ้าของห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” แม้ระยะหลังจะทำตัวโลว์โปรไฟล์ แต่ในฐานะเจ้าของรังแดงก็มีส่วนสนับสนุนเงินทุนไม่น้อย ผนวกกับบรรดาเจ้าของธุรกิจที่ทำกันโจ๋งครึ่มในช่วงรัฐบาลปูแดง ซึ่ง คสช. เองรู้ดีว่ามีใครอยู่ในลิสต์รายชื่อบ้าง
ดังนั้น สิ่งที่จะเป็นพิษภัยต่อตัวเอง คสช. ควรขจัดเสี้ยนหนามที่ขวางทางการปฏิรูปประเทศออกไป เพื่อไม่ให้กลับมาทิ่มแทงตัวเองในภายหลัง
บทเรียนจากการรัฐประหาร 2549 ที่ทิ้งแผลไว้สุดท้ายแผลก็ขยายนำมาสู่ความขัดแย้งอย่างกว้างขวาง หาก คสช. ไม่ต้องการให้การรัฐประหารเสียของที่โอ้อวดสรรพคุณไว้ บางทีการใช้ไม้กระบองเฆี่ยนแรงๆ พวกที่ไม่เชื่อฟังก็อาจจะทำให้ประเทศสงบสุขขึ้นมาได้
เมื่อทางรอดทางเดียวของแกนนำ นปช. - นช.แม้ว - พรรคเพื่อไทย คือ การพิงหลังประชาชน จึงไม่ยอมปล่อยให้กระแสของตัวเองตกลงหรือลดน้อยลง ตามความตั้งใจของ “คสช.” หมากเกมนี้จึงต้องสู้กันหนัก ไม่มีใครยอมลดละอย่างแน่นอน
ยิ่งเวลาของ คสช. เหลือน้อยลงเท่าไร แกนน ำนปช. ยิ่งต้องเคลื่อนไหวให้หนักขึ้นเท่านั้น เพื่อสะสม มวลชน ไว้เป็นฐานเสียงในการเลือกตั้ง หรือหลอกใช้ มวลชน มาต่อสู้จนต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีกในอนาคต