รายงานการเมือง
ไม่เหนือความหมาย ที่สถานีโทรทัศน์ “PEACE TV” ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง เป็นตัวเชื่อมระหว่างแกนนำ นปช.กับมวลชนคนเสื้อแดง ต้องปิดตัวลงตามคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
เพราะก่อนหน้านี้ กสท. หรือ กสทช. ส่งสัญญาณให้เห็นแล้วว่าพร้อมที่จะลงดาบปราบ “กระบอกเสียง” ของแกนนำ นปช.ให้ราบคาบ หลังที่เคยมีมติให้ช่องพีซทีวีปิดตัวลง 7 วัน สัญญาณดังกล่าวถูกแกนนำ นปช.ทำนายไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่เร็วก็ช้า พีซทีวีไม่น่าจะรอดจากดาบกายสิทธิ์ของ กสทช.
หากพลิกปูมความเป็นมาของพีซทีวีแล้วพบว่า แปรสภาพมาจาก “ดีดีทีวี” ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงคนเสื้อแดงมาก่อน แถมเป็นช่องทางให้ “เครือข่าย นช.แม้ว” ใช้เป็นช่องทางปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังขั้วตรงข้ามตลอดในช่วงสงครามทางการเมืองหลายปีที่ผ่านมา
หนำซ้ำ “ทีวีเสื้อแดง” ในช่วงแรกปลุกปั่นยุยงให้ประชาชนแตกแยกจนทำให้ประเทศชาติเสียหาย หากดูเนื้อหาทั้งหมดแล้ว มีบางช่วงเวลาที่เสียดสี กระทบกระทั่ง “สถาบันพระมหากษัตริย์” แบบตั้งใจ-จงใจ ก็มีให้เห็นบ่อยๆ
และหากไล่เรียงดูในอดีต “ทีวีเสื้อแดง” ปลุกปั่นจนทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก ระหว่างการชุมนุมเมื่อปี 2552 และปี 2553 โดยมีการถ่ายทอดสดให้มวลชนได้ชมการชุมนุม ตลอดเวลา
โดยเงินที่หมุนเวียนเข้ามาเป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” ที่มาจาก “นช.แม้ว” อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะลำพังคนอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” คงไม่มีเงินมากพอที่จะมาเปิดสถานีโทรทัศน์ หรือหากมีเงินมากพอที่จะเปิดได้ก็ไม่มีทางที่ “ตู่-เต้น” จะควักกระเป๋ามาเปิดสถานีโทรทัศน์แน่นอน
เป็นที่รู้กันอยู่ว่า กว่า “ตู่-เต้น” คู่หูนรกแตกจะ “สู้แล้วรวย” ต้องออกแรง-เสียเหงื่อไปเยอะ หากจะมาควักกระเป๋ากางเกงตัวเองคงหวังกันชาติหน้าตอนบ่ายๆ
และเป็นที่รู้กันดีว่าน้ำลี้ยงจาก “นช.แม้ว” และเครือข่าย หล่อเลี้ยงสถานี “ทีวีเสื้อแดง” อยู่หลายช่อง ทั้ง Voice TV - PEACE TV - TV 24 แต่ละที่ก็เปลี่ยนชื่อผู้บริหาร สลับหน้ากันมาเล่นเท่านั้นเอง
และหากไล่เส้นทางท่อน้ำเลี้ยงของพีซทีวีก็ต้องพบชื่อ “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” เจ้าของห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งอาจจะอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนเม็ดเงินให้อยู่ในทางลับ เพราะชื่อของ “สงคราม” ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ท่อน้ำเลี้ยงของคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2553
บรรดาท่อน้ำเลี้ยงของ นปช.-คนเสื้อแดง แม้จะแตกกระสานซ่านเซ็น แต่ใน “การข่าว” ยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุน ทั้งใต้ดิน-บนดิน ที่พยายามขับเคลื่อน-เคลื่อนไหว อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านตลอดเวลา
ต่างรู้ดีว่า หากมีความเคลื่อนไหวทางการเงินใน “บัญชี” จะถูกจับตาจากหน่วยงานความมั่นคงทันที หนำซ้ำอาจจะถูกอายัดเงินได้ง่าย การสนับสนุนด้านการเงิน จึงอยู่ในรูปแบบของการ “ขนเงินสด” จ่ายกันมือต่อมือ
ทว่า การปิดพีซทีวีแม้จะเป็นไปตามมติของ กสท. แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็หนีไม่พ้นที่จะถูกมองว่าเป็น “มือที่มองไม่เห็น” คอยชักใย กสท. และ กสทช.อยู่เบื้องหลัง เพราะหากไม่ได้รับไฟเขียวจาก คสช.แล้ว กสทช. คงไม่กล้าทำ
ขณะดียวกันก็มีกระแสข่าวจากทำเนียบรัฐบาลออกมาว่า การปิดพีซทีวี ทาง คสช.ไม่ได้แนะนำ หรือชักใย กสทช. หากแต่เป็นมติเสียงข้างมากของ กสท.เอง จึงมีการอ่านเกมข้ามช็อต มองกันว่างานนี้ กสทช.เพิกถอนใบอนุญาตพีซทีวีเพื่อหวังผลบางอย่าง
หวังผลที่ให้ตัวองค์กร กสทช.อยู่รอด ไม่ถูก คสช.เข้ามาครอบงำ แถมยังตีตราตัวเบ้อเริ่มว่าพร้อมที่จะสนองนโยบายของ คสช.ทุกด้าน หากมีคำสั่งมาโดยตรง-โดยอ้อม
แหล่งข่าวระบุว่า หากจับพิรุธ กสทช.จะพบว่า คำสั่งฉบับที่ 8 ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ไม่แต่งตั้งคณะกรรมการ กสทช.ที่ว่างลง 1 ตำแหน่ง ทำให้กรรมการ กสทช.บางคนกลัวว่าวันหนึ่งอาจจะต้องหลุดออกจากตำแหน่งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จึงมีการเคลียร์ใจกันพอสมควร และผลงานที่ กสทช.จะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ คสช.คงหนีไม่พ้นการเพิกถอนใบอนุญาต PEACE TV เพื่อสร้างราคาให้ตัวเอง
งานนี้ต้องตามดูว่าเกมของ กสทช.วางแผน-วางหมากให้กับตัวเองไว้อย่างไร เพราะอย่าลืมว่าภายในปีนี้มีการประมูล 4 จีอย่างแน่นอน โดย กสทช.ไม่ยอมปล่อยชิ้นปลามัน-ลาภก้อนโตให้หลุดลอยไปง่ายๆ
แม้จะโดนคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยึดอำนาจการประมูล 4 จีทั้งหมดไป แต่อำนาจบางส่วนยังอยู่ที่ กสทช. ฉะนั้น หากใครมีดีลลับ-ดีลเปิด นอกจากจะผ่าน คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทางหนึ่งก็ยังต้องผ่าน กสทช.อยู่ด้วย
ผลงานของ กสทช.อาจจะเข้าตา “บิ๊กตู่-คสช.” เพราะไม่ต้องออกแรงเอง แถมยังอธิบายกับสังคมได้ว่า คสช.ไม่ได้กลั่นแกล้ง นปช.-คนเสื้อแดง แต่เป็น นปช.-คนเสื้อแดง ที่ทำผิดเงื่อนไขจนโดน กสทช.เพิกถอนใบอนุญาตเอง
งานนี้ต้องติดตามดูกันว่า กสทช.จะสร้างผลงานอะไรให้ คสช.ประทับใจอีก ยิ่งใกล้เวลา “ประมูล 4 จี” งวดเข้ามา กสทช. ยิ่งต้องเร่งสร้างผลงาน เพื่อกล่อมให้ คสช. ไว้วางใจ ซึ่งก็อยู่ที่ “บิ๊กตู่-คสช.” จะหลงกล-หลงเกมหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ แม้พีซทีวีปิดตัวลงบรรดา “แกนนำ นปช.-เพื่อไทย-เครือข่าย นช.แม้ว” คงไม่ยอมว่างงาน หรือปล่อยให้กระแสของคนเสื้อแดงตกลงไปง่ายๆ แน่
จากนี้อาจจะเห็น แกนนำ นปช.ลงพื้นที่ฐานเสียงมากขึ้น อาจจะเห็น “เพื่อไทย” คิดแคมเปญเตรียมเชื้อไว้สู้ศึกเลือกตั้ง อาจจะเห็น “นช.แม้ว” สื่อสารกับมวลชนคนเสื้อแดงผ่านช่องทางต่างๆ
แต่ที่เห็นแน่ๆ คือ แกนนำ นปช.บนหน้าจอโทรทัศน์ช่องพันธมิตรกัน ไม่ว่าจะเป็น Voice TV หรือ TV 24 มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องวัดใจ กสท.และ กสทช.ว่าจะฟันทิ้งปิดช่องทางการสื่อสารของคนเสื้อแดงอีกหรือไม่
แต่ที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ ความอยู่รอดของ กสทช. ที่มีการประมูล 4 จี เป็นเดิมพัน