“ประยุทธ์” โต้ไม่ได้เอาแต่พวกนั่ง ปธ. บอร์ดสลากฯ ไม่ปัดชื่อ “ลูกบิ๊กจ๊อด” แจง ไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร แต่ตั้ง ปชช. แล้วทำไม่ได้ ย้ำ ต้องขายสลาก 80 บ. หวังเริ่ม มิ.ย. ชี้ คืนสลากแก้ปัญหา แย้มรื้อโควตากระจายใหม่ จี้ ต้องแก้บนโต๊ะ เมินตั้งบ่อน รับเพิ่งเห็น จม. ข่าวรัฐ ยันมีแต่เรื่องดีๆ ชี้ ถอดใบอนุญาต PEACE TV เหตุไม่ทำตามกติกา ย้อนสื่อให้ปฏิรูปคนอื่นไม่ปฏิรูปตัวเอง จี้ สมาคมฯ สื่อ คุมไม่ได้ก็ยุบไป
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 26 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และ ลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ถึงความคืบหน้าการใช้มาตรา 44 ในการพิจารณาแต่งตั้งประธานบอร์ดกองสลากกินแบ่งรัฐบาลคนใหม่ ว่า “ก็เมื่อผมพร้อม ข้างล่างเสร็จผมก็เซ็น ตอนนี้ได้สั่งการลงไปแล้ว แล้วมันจะมีผลอะไรกันนักหนาสำหรับประธานบอร์ดคนใหม่ จะเข้าไปโกง หรือเข้าไปหาเงินมาให้ผม อยากจะถามนักว่าผมทำเพื่อใคร แล้วที่ผ่านมาแก้ปัญหาหรือทำกันได้หรือไม่ ผมสั่งมา 8 เกือบจะ 9 เดือนแล้ว ผมก็เลยต้องทำเอง และต้องไปทำมาให้ได้ โดยจะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของใคร อะไรต้องแก้ไขก็ต้องแก้ไข และต้องไม่มีการรั่วไหล ประชาชนต้องได้รับผลประโยชน์”
เมื่อถามว่าตอนนี้มีชื่อบุคลลที่จะเข้ามาเป็นประธานบอร์ดกองสลากกินแบ่งรัฐบาลคนใหม่แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายร้อยคน กำลังคัดเลือกอยู่ และตนไม่เคยเลือกใครเพียงชื่อเดียว ตอนนี้มีหลายชื่อก็ต้องดูรายละเอียดทั้งหมดว่า เขาทำงานกันอย่างไร เพราะเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องไปเผชิญอะไรอีกมามาย ไม่ใช่เอาแต่พวก ตนต้องเลือกคนทำงาน ตอนที่ตั้งคนในกองทัพก็เลือกแต่คนที่ทำงาน ไม่ใช่เอาแต่พวก เอาแต่ตระกูล ตามที่สื่อชอบเขียนออกมาว่า บูรพาพยัคฆ์บ้าบออะไรนั่น
เมื่อถามว่ามีชื่อของ พล.ต.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานบอร์ดกองสลากคนใหม่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า “ก็มีชื่อทั้งพลตรี พลโท พลเอก ผมก็เตรียมเอาไว้ แล้วชื่อเขาเป็นอย่างไรเหรอ น่ารังเกียจหรืออย่าไร ถ้าไม่น่ารังเกียจก็จบ ใครก็ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นให้ทหารเข้ามาเป็นประธานบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็น ถ้าพลเรือนทำได้ตนก็เอาพลเรือน ถ้าไม่ได้ก็ต้องเป็นทหารเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คุณสมบัติของผู้ที่ที่ตั้งไว้มีอะไรบ้าง กล่าวว่า ต้องซื่อสัตย์ โปร่งใส และทำให้ได้ ทำให้ประชาชนได้รับสิ่งตอบแทนตามความพึงพอใจ เพราะต้องประกาศไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 80 บาท ก็ต้องทำให้ได้แล้วกัน การตั้งคนขึ้นมาก็เพื่อให้เข้าไปขับเคลื่อน เข้าไปแก้ปัญหา ไม่ได้เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์หรือเข้าไปต่อทอดอำนาจของตน ถ้าตนต้องการอะไรหลายๆอย่างคงไม่ต้องตั้งอะไรทั้งสิ้น นั่งเฉยๆ เดี๋ยวมันก็มีเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ตลอด
เมื่อถามว่าพูดได้หรือไม่ว่านายกรัฐมนตรี ไว้ใจทหารมากกว่าพลเรือนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ที่ผ่านมา ตนตั้งพลเรือนเข้ามาใช่หรือไม่ ตำแหน่งประธานบอร์ดต่างๆ มาจากระดับอธิบดี ตนก็เป็นคนตั้ง ที่ผ่านมาเขาก็ลองทำดูและรับปากว่าจะทำให้ แต่ไปไม่ไหวเพราะมีปัญหามาก ก็คงต้องให้ทหารทำ แต่ประธานบอร์ดคนเก่าก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ทำงานแบบนี้กันมานานแล้วพอจะแก้อะไรปัญหามันก็เยอะ
เมื่อถามว่าปัญหาอยู่ที่การบริหารใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่โครงสร้างการทำงานที่ผ่านมาเนื่องจากทุกคนไม่สนใจ ในทุกๆ ที่ก็อยากให้งานออกมาดี ถ้าบริหารดี ไม่คิดจะโกงมันก็ไม่ยาก แต่ก็กลายมาวิพากษ์วิจารณ์ตนว่า บอกว่าแก้ไม่ยากแล้วทำไมเศรษฐกิจถึงตก ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ตนเพียงบอกว่าถ้าบริหารโดยไม่โกง การทำงานทุกอย่างก็คงไม่ยาก ถ้าทุกคนทำตามตัวบทกฎหมาย ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน รวมทั้งจากผู้ที่เดือดร้อนมาพิจารณาแก้ไขปัญหา แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คน 70 ล้าน พอใจทุกคน สื่อก็ต้องเขียนช่วยตนว่ารัฐบาลนี้ต้องทำงานต่อเนื่องก่อนที่จะไป ไม่ใช่วิจารณ์แต่ว่าแก้ไขปัญหาไม่ได้ทั้งที่คิดและสั่งการมาเกือบปี อย่าลืมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันแย่เกือบจะชาติหนึ่งแล้ว
เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะทำให้ราคาขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ที่ราคา 80 บาทได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ทำไมละ ผมคิดง่ายๆ ต้นทุนออกมาเมื่อบวกลบด้วยกำไรก็ต้องให้เพียงพอต่อการจัดจำหน่าย เพราะอาชีพนี้มีอยู่เกือบ 8 หมื่นคน อย่างน้อยก็ต้องมีรายได้อย่างต่ำ 10 บาท ถึงจะพอเลี้ยงครอบครัว ถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการขายคืนสลากได้ ปัญหาส่วนหนึ่งก็จะหายไป และถ้าเราแก้ปัญหาเรื่องถ้าเขาขายไม่หมดแล้วเขาสามารถคืนได้ก็จะแก้ได้อีก แล้วถ้าสามารถพิจารณาจำนวนโควตาสลากเกลี่ยใหม่ ส่วนไหนที่หมดแล้วก็เอามาเกลี่ยใหม่และทำให้ชัดเจนมากขึ้น มีการจ่ายสลากสองที่ คือ ส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหน้าที่กองสลาก และต่างจังหวัดให้ผู้ว่าราชการกระจายต่อโดยมีทหารและพลเรือนไปช่วยกัน เมื่อต้นทางราคามีมาตรฐานเดียวกัน และสลากสามารถขายคืนกลับได้ และหากสลากต่างจังหวัดมีคนเอามาขายในกรุงเทพฯก็จะต้องสอบสวนว่าใครเอามาขายต้องถูกลงโทษโดยการยกเลิกและติดคุก แล้วถ้าคิดว่าสลากมีปัญหาก็อย่าไปซื้อ เรื่องแบบนี้ตนคิดมานานแล้วแต่ทำไม่ได้สักที”
“ก็ตั้งใจว่างวดเดือน มิ.ย. นี้ จะลองทำให้ได้ก่อน ถ้าไม่ได้ก็ต้องมีเปลี่ยนแปลง ใครโกงใครทุจริตก็ติดคุก เรื่องนี้ไม่มีใครไปบังคับ ใครอยากได้เงินก็ไปซื้อ ซึ่งถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของรัฐที่มีมายาวนาน ไม่ใช่เพิ่งเกิดในสมัยตนถ้าไม่ต้องมีได้มันก็ดีเหมือนกัน แต่คนไทยเราก็มีหลายระดับคนรายได้น้อยก็อยากซื้อเพื่อเป็นการเสี่ยงโชค ไทยเป็นเมืองพุทธก็ไม่รู้จะเอาใจใครดี พูดกันตลอดว่าไม่มีการพนัน แต่ทุกวันนี้นักพนันส่วนใหญ่ก็หนีไปชายแดน เรื่องนี้อย่ามาปฏิเสธตัวเองกันเลย อะไรที่เป็นเรื่องจริงก็ต้องมาแก้ปัญหาบนโต๊ะ ไม่ใช่ไปซุกอยู่ข้างใต้ แล้วก็ออกมาตำหนิต่อว่าทำไมถึงไม่ทำให้ทุกอย่างมันสะอาดและโปร่งใส โดยเอาปัญหาขึ้นมาบนโต๊ะ ถึงแม้จะรกหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวก็แก้ได้เอง ผมจะทำให้ถึงที่สุด" ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สัญญาใช่หรือไม่ว่าตั้งแต่เดือน มิ.ย. ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่ 80 บาท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ได้สัญญา แต่จะทำให้ดีที่สุด”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า ปัญหาเรื่องบ่อนการพนันตามแนวชายแดนมีมานานมากแล้ว ตั้งแต่ตนยังหนุ่มๆ มีการข้ามไปเล่นการพนันกันโครมๆ ก็ไม่สามารถห้ามได้ เพราะทุกคนมีเสรีภาพ เมื่อมีพาสปอร์ตก็สามารถข้ามไปชายแดนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะตั้งบ่อนการพนัน เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เพื่อให้ถูกกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตั้งจริงตนก็โดนด่าแล้วจะไปตั้งทำไม ถ้าคุณอยากตั้งก็บอกมาไม่ใช่เรื่องของตน วันนี้ทุกคนต้องยอมรับความจริงว่าโลกมีภัยคุกคามอย่างมากเราต้องคิดเสมอ แต่อย่าเอาปัญหาวันนี้แล้วมาถามตนว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วทำไมก่อนหน้าที่ไม่ถามรัฐบาลชุดที่ผ่านมาอย่างที่ไล่ถามตนเหมือนทุกวันนี้
“อย่างนี้คงไม่มีใครเขาทำอะไรให้ พอผมไม่อยู่ ผมรำคานมากๆ ผมไม่อยู่ขึ้นมา ใครจะมาทำให้ท่านก็แล้วแต่ บางครั้งมันก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เพราะปัญหามันเยอะ ทั้งปัญหาความไม่เข้าใจ บางคนที่ไม่เข้าใจผมว่าคงไม่ใช่คนไทย เสียชาติเกิด วันนี้ผมต้องแรงกับเขาเพราะเขาแรงกับผม ถ้าไม่มายุ่งกับผม ผมก็คงไม่ยุ่งกับเขา แต่วันนี้ยังไม่ยอมเลิก ยังไม่หยุด แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ผมก็ต้องปกป้องคนของของผม ปกป้องรัฐบาล ปกป้องข้าราชการ เขาทำงานกันโครมๆ ทหารทำงานทุกอย่างตั้งแต่จดทะเบียนเรือ จ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา ดูแลเรื่องบัตรประชาชน ทุกอย่างต้องใช้ทหาร เพราะเรามีทหารในทุกพื้นที่ เพียงแต่ไม่มีอำนาจจึงจำเป็นต้องใช้ทหารเข้าไปช่วยทำงาน ถ้าปล่อยให้พลเรือนทำไม่มีทางจบ เพราะพลเรือนเมื่อสั่งงานไปแล้วต้องรอเวลา แต่ทหารจะต้องมีกำหนดจบว่าต้องกี่วันในภารกิจต่างๆ วันนี้รัฐบาลต้องคิดแบบทหารคิด ต้องเคลียร์ปัญหาให้ได้และต้องคิดว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลัง ผมเคยคิดว่าจะทำไม่กี่อย่าง อะไรอยู่ก่อนหน้าหลัง เรื่องทุจริตผิดกฎหมาย แต่พอเข้ามาจริงมันทำไม่ได้เข้ามาก็มีเรื่องของรัฐธรรมนูญเรื่องของการเมือง อยากถามว่าประเทศไทยมีอยู่แค่นี้เหรอ ยังมีปัญหาอีกมากมายตนแก้ปัญหาทุกเรื่อง ปัญหาปลีกย่อยบางอย่างก็บานปลายขึ้นไปเป็นปัญหาใหญ่ๆ เนื่องจากมีการปล่อยปละละเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีวันเดียวกันนี้ สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจกจ่าย “จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน” ฉบับปฐมฤกษ์ ปีที่ 1 วันที่ 28 เมษายน 2558 ให้กับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อใช้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลให้ประชาชนรับทราบ ว่า ตนเพิ่งเห็นพร้อมกับผู้สื่อข่าววันเดียวกันนี้เช่นเดียวกันนี้เช่นเดียวกัน และในจดหมายข่าวฉบับนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายกับใครหรือไปว่าอะไรให้ใครหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีกสทช.ถอดใบอนุญาตออกอากาศสถานีโทรทัศน์ PEACE TV ว่า “ก็ไปถาม กสทช. ดูสิ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอดีตนักการเมืองออกมาแสดงความเห็นมากเกินไปนั้นผมไม่รู้ ผมได้มอบหมายให้เขาไปดูแล้ว ผมถามหน่อย วันนี้เขาดำเนินการขัดแย้งกับคำสั่ง คสช. หรือไม่ ผิดหรือเปล่า คุณยังตอบผมไม่ได้เลย และ กสทช. เขามีกติกาอยู่ วันนี้ผมมอบหมายไปแล้วพวกสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหมดให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ต้องไปจัดการมา ถ้าทำไม่ได้ก็ยุบไป ผมไม่เคยไปห้ามให้เสนออะไรไม่ได้เลย แต่อะไรที่ขัดแย้งกันแล้วเป็นเรื่องจริงผมไม่ว่า แต่หากไม่ใช่เรื่องจริงต้องสังคายนากันหน่อย”
เมื่อถามว่าจะดำเนินการปิดถาวรเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ ก็เขาปิดไปครั้งหนึ่งแล้ว 7 วัน แล้วพอเปิดเขาทำผิดอีกไม่เล่า ผมเคยบอกแล้วถ้าไม่ช่วยกันก็ต้องเดือดร้อน ดังนั้นต้องไปโทษเจ้านายของคุณเอง ทั้งบรรณาธิการ เจ้าของโรงพิมพ์ ไปว่ากันเองไม่ใช่ผม เพราะท่านไม่ช่วยเราเลยแต่จะมาปฏิรูปผมอย่างเดียว แล้วทำไมไม่คิดจะปฏิรูปตัวเองบ้าง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯ ให้สัมภาษณ์ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าหลังจากสัมภาษณ์จะพากลดหัวข่าววันพรุ่งนี้อย่างไร จะด่ารัฐบาลอีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีแต่พาดหัวว่ารัฐบาลโม้ โว ฟุ้งปัด เพราะสื่อยึดติดแต่คำพวกนี้เท่านั้น