“เทียนฉาย” ระบุเร็วไปตัดสินใจทำประชามติ รอกระบวนการแก้ไขร่าง รธน.ก่อน

ประธาน สปช. แนะใจเย็นๆ ทำประชามติร่าง รธน. ระบุยังอยู่ในกระบวนการยื่นข้อแก้ไข “เสรี” ชี้หาก กมธ.ยกร่างฯ ยอมปรับแก้ตามข้อเสนอ สปช.น่าจะผ่านความเห็นชอบ ส่วนรองประธาน สนช.พร้อมแก้ รธน.เพื่อทำประชามติ

นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า หลายฝ่ายออกมาสนับสนุนให้ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น อยากให้ใจเย็นๆ ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ การออกมาเรียกร้องเรื่องประชามติ เพราะยังอยู่ในกระบวนการยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของ คสช. , ครม.กับ สปช. และ กว่าจะเห็นหน้าตาร่างสุดท้ายของรัฐธรรมนูญ ก็ต้องวันที่ 23 ก.ค.จึงยังเร็วไปที่จะพูดหรืออกเรียกร้องหรือมาวิจารณ์กัน ซึ่งอย่าลืมว่า ยังมีกระบวนการอื่นที่ต้องทำและให้ความสำคัญด้วยคือการทำประชาพิจารณ์ ไม่ใช่เอาแต่พูดเรื่องประชามติอย่างเดียว

ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปกฎหมาย สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่าการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับการยอมรับจากประชาชน ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านการเห็นชอบจากประชาชนหรือไม่ แต่หาก กมธ.ยกร่างฯ ยอมปรับแก้ไข ตามข้อเสนอแนะของสื่อมวลชน ประชาชน และคำแปรญัตติของสมาชิก สปช. โดยเฉพาะประเด็นสำคัญทางการเมือง เช่น ที่มา ส.ส. ให้กลับไปใช้รูปแบบเดิม ที่สังคมเข้าใจดีอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าอาจจะมีโอกาสที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะได้รับการเห็นชอบ

ขณะที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง กล่าวว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว มาตรา 46 เพื่อทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอให้ทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ส่วน สนช. ก็พร้อมจะทำหน้าที่ตามอำนาจที่มีในรัฐธรรมนูญ มาตรา 46 โดยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะทำไปตามข้อบังคับการประชุม สนช. ที่เริ่มจากเสนอร่างขอแก้ไข เพื่อจะพิจารณารับหลักการวาระแรก ก่อนจะตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา และลงมติในวาระ 2 - 3 ต่อไป คาดว่า จะใช้เวลาการพิจารณาเห็นชอบไม่นาน ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน