โฆษก กมธ.ยกร่างฯ เผยมีความเห็น รธน.หลากหลาย ขอใจเย็น ชี้ปรับเปลี่ยนมีทั้งคนได้เสีย ย้ำหนุนเลือกตั้งผสมแม้บางพรรคไม่พอใจ รับเปลี่ยนให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ แค่ทำให้ดีขึ้นตามเสียงส่วนใหญ่ ลั่นไม่ยึดติดร่างแรก 1 มิ.ย.เชิญกลุ่มเกี่ยวข้องถก ก่อนชง กมธ.ยกร่างฯ รับการเมืองคือการต่อรอง แนะรอร่างสุดท้าย ให้เวลา 1 เดือนพรรคการเมืองส่งความเห็น
วันนี้ (24 เม.ย.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในตอนนี้มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่หลากหลายมาก มีความเห็นจากพรรคการเมืองว่าควรจะให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปเพื่อให้ทำรัฐธรรมนูญให้เรียบร้อยเสียก่อน ตนอยากจะให้ทุกฝ่ายใจเย็นในเรื่องของการมองรัฐธรรมนูญ กมธ.ยกร่างฯ ได้คำนึงถึงปัญหาของประเทศไทยเป็นหลักก่อนจะบัญญัติในรายละเอียดลงไป สำหรับกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ เช่น พรรคการเมืองซึ่งจะมองว่าตัวเองเสียประโยชน์จากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาทิ ในด้านการเลือกตั้งนั้น ตนคิดว่าต้องมองดูเพราะว่าถ้ามีการปรับเปลี่ยนไปอีกระบบก็มีทั้งคนได้คนเสีย ตนเห็นด้วยกับระบบการเลือกตั้งแบบผสมนี้ อีกทั้งระบบนี้หลายประเทศก็ได้พัฒนาขึ้นมา ความต้องการของประชาชนต่อพรรคการเมืองว่าจะเป็นอย่างไรนั้นก็อยู่ที่คะแนนบัญชีรายชื่อ แน่นอนว่าระบบนี้ก็ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคที่มีความสามารถในการเลือกตั้งแบบเขตมีความไม่พอใจ
ต่อข้อถามว่าเสียงที่ออกมามากมายขณะนี้จะทำให้ กมธ.ยกร่างฯ ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมหรือไม่ ทาง พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวตอบว่า การปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญนั้นมีเวลาอีก 3 เดือนเศษ จนถึงวันที่ 6 ส.ค.ที่จะมีการลงมติ แต่การปรับเปลี่ยนคงไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ถูกใจทุกคนได้ คงจะปรับเปลี่ยนแค่ให้ดีขึ้น เป็นไปตามความเห็นของคนส่วนใหญ่ มุ่งเน้นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขอยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่ได้ยึดติดว่ารัฐธรรมนูญต้องไปเป็นไปตามร่างแรกอย่างแน่นอน เพราะมิฉะนั้นแล้วจะมีขั้นตอนการพิจารณา อภิปรายต่างๆ นี้ก่อนจะถึงการลงมติได้อย่างไร ขอยืนยันว่าทุกมาตรานั้นล้วนมีที่มา ก่อนจะถูกบัญญัติลงมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสในการปรับแก้ เช่น เรื่องของที่มานายกรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว. พล.อ.เลิศรัตน์ตอบว่า คงไม่สามารถตอบเองได้ เป็นเรื่องของ กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คนจะตัดสินใจ แต่อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 มิ.ย.นั้นก็จะมีการเชิญทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการปรับแก้รัฐธรรมนูญมาพบ กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คนเพื่อรับฟังความเห็น และจะส่งรัฐธรรมนูญร่างแรกนี้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พรรคการเมืองทุกพรรคได้ไปดูและให้ส่งความเห็นเหล่านี้กลับมาให้ทาง กมธ.ยกร่างฯ ได้รับพิจารณา ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอที่ยื่นให้นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อรอง พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า การเมืองก็คือการต่อรอง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ การต่อรองให้ได้รัฐธรรมนูญที่กลุ่มของตนเองชอบ ตนเชื่อว่าที่ไปประชุมกันนั้น แต่ละคนก็คงมีความต้องการคนละอย่างแน่นอน ดังนั้นขอยืนยันว่าจะแก้ให้ถูกใจทุกคนนั้นยากมากแน่นอน การร่างรัฐธรรมนูญนี้นั้นมีจุดประสงค์ที่จะปฏิรูปการเมืองแก้ปัญหาที่ผ่านมา กมธ.ยกร่างฯ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาโดยคำนึงถึงทุกโจทย์ ไม่สุดโต่งแน่นอน
เมื่อถึงความเห็นจากทางพรรคการเมืองและจากกลุ่มการเมืองว่าจะสะท้อนกลับมาถึง กมธ.ยกร่างฯ อย่างไร พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า ประธาน กมธ.ยกร่างฯ จะลงนามในหนังสือถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค และส่งร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการไปให้ และให้พรรคการเมืองส่งความเห็นกลับมาซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาหนึ่งเดือน และหลังจากนั้นเมืองเข้าสู่การพิจารณารัฐธรรมนูญในช่วง 60 วันสุดท้าย ที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯ ก็จะได้นำข้อเสนอพรรคการเมืองทั้ง 74 พรรคมาดูว่าข้อเสนอใดบ้างที่มีความใกล้เคียงกันซึ่งจะมีโอกาสนำมาพิจารณามากกว่าข้อเสนอที่มีลักษณะแตกต่าง แต่ทั้งนี้ข้อเสนอทุกข้อเสนอ รวมไปถึงข้อเสนอของ สนช.หรือแม้แต่ศาล ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้อยู่กระบวนการก็จะถูกนำมาพิจารณาอย่างแน่นอน ตนอยากให้รอให้เห็นร่างรัฐธรรมนูญร่างสุดท้ายในวันที่ 23 ก.ค. ตนเชื่อว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนจะรับได้ และความเห็นเหล่านี้ทุกความเห็นก็จะถูกให้น้ำหนักเท่ากัน และจะนำมาเรียนให้ที่ประชุมได้รับทราบทุกความเห็นที่เกี่ยวกับการทำรัฐธรรมนูญ
