ผู้บัญชาการทหารเรือ เผยติง “ประวิตร” แล้ว ขนส่งของช่วยเนปาลทางเรือไม่ง่าย แนะเปรียบเทียบความคุ้มค่า กำลังหาข้อมูลให้อินเดียช่วยส่งจากท่าเรือไปกาฐมาณฑุ ด้านรองโฆษกทัพบก ระบุกองทัพจัดชุดประปาสนามสนับสนุนโรงพยาบาลทหารให้แล้ว พร้อมทีมแพทย์เผชิญเหตุ ตั้งจุดตรวจรักษาและแจกเวชภัณฑ์ และให้รายงานกลับไทยเพื่อประเมิน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ศูนย์บัญชาการการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กองทัพเรือ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ จะใช้เรือขนส่งสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาล แทนเครื่องบินซี 130 ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการหารือกันที่ประชุมสภากลาโหมครั้งที่ผ่านมา ต้องเข้าใจว่าประเทศเนปาลอยู่เป็นหลังคาโลก เป็นพื้นที่สูง อยู่ไกล การนำสินค้าต่างๆ ไปช่วยผ่านทางเรือ ไม่สามารถเข้าถึงได้ จะต้องอาศัยท่าเรือของประเทศอินเดีย และจากท่าเรือของอินเดียไปประเทศเนปาล ก็ใช้เวลาเกือบ 1,000 กิโลเมตร ไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร ได้สอบถามถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งก็ได้ตอบท่านไปว่ากองทัพเรือมีความพร้อมในการสนับสนุน แต่การขนสินค้าเป็นจำนวนมาก จากท่าเรืออินเดียไปกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล มันไม่ง่าย ต้องมีรถ และที่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องน้ำมัน
พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า การขนส่งสินของผ่านทางเรือ ก็ต้องมาดูในเรื่องของจำนวนและความคุ้มค่า คือ เรือของกองทัพเรือ เรามีพื้นที่มากที่จะบรรทุกสินค้าแต่ช้า แต่ถ้าไปกับกองทัพอากาศ ขนส่งสินค้าได้น้อย แต่เร็ว เป็นสิ่งที่ต้องมาเปรียบเทียบกัน ทั้งนี้ มีการหารือกันว่าหากจะเอาสิ่งของใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไปเรือพาณิชย์จะมีความคุ้มค่ากว่าหรือไม่ ซึ่งของต้องมีจำนวนมาก แต่ถ้ามีจำนวนมาก กองทัพเรือสามารถดำเนินการได้ แต่มีปัญหาเรื่องการขนส่งต่อ ทั้งนี้ เรากำลังประสานไปกับทางประเทศอินเดียว่าให้ช่วยขนสิ่งต่อจากท่าเรือไปยังกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล จะได้หรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาข้อมูล
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ภารกิจของทีมช่วยเหลือของประเทศไทยที่ดูแลผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกส่วนหน้า (เนปาล) ยังคงจัดชุดประปาสนามสนับสนุนโรงพยาบาลทหาร ในเมืองกาฐมาณฑุ และจัดชุดแพทย์เผชิญเหตุบริการทางการแพทย์ให้กับผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพ และพื้นที่ต่างๆโดยการปฏิบัติงานมีการประสานงาน แบ่งมอบพื้นที่และภารกิจ กับ MNMCC (Multi National Military Coordination Center) อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้มีการรายงานผลการปฏิบัติภารกิจรวมทั้งการประเมินสถานการณ์กลับมายังประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับเปลี่ยนหรือเตรียมการสนับสนุนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป
สำหรับการปฎิบัติภารกิจงานในวันที่ 1 พ.ค. ชุดทหารช่างประปาสนาม ของ กองทัพบก ซึ่งจัดจาก กรมทหารช่างที่ 2 ได้จัดตั้งสถานที่ผลิตและแจกจ่ายน้ำเป็นวันที่ 2 ที่ รพ.Birendra Military Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทหาร ใน กรุงกาฐมาณฑุ โดยน้ำสะอาดที่ผลิตได้ประกอบด้วย น้ำดื่มวันละ 6,000 ลิตร และน้ำดิบ 18,000 ลิตร/วัน นำที่ผลิตได้ถูกนำไปใช้กับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ใน รพ.ทหาร และแจกจ่ายผู้ประสบภัยชาวเนปาลในเมืองกาฐมาณฑุ ด้วย ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายทหารเนปาล มีความสนใจเรื่องการผลิตน้ำประปาสนามของทหารไทย ทางชุดทหารช่างประปาสนาม จึงได้จัดการสาธิตและฝึกอบรมการผลิตน้ำประปาสนาม ให้กับเจ้าหน้าที่ของเนปาล โดยมีล่ามทหารไทยให้การอธิบาย ด้วย
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับชุดแพทย์เผชิญเหตุในวันนี้ ได้รับการแบ่งมอบภารกิจจาก MNMCC ให้เข้าบริการทางการแพทย์กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในหมู่บ้าน Bungamati เมือง Patan โดยเป็นการตั้งจุดบริการทางการแพทย์ตรวจรักษาและแจกจ่ายเวชภัณฑ์ 1 จุด และจัดชุดแพทย์เดินเท้าให้บริการทางการแพทย์อีก 2 ชุด ทั้งนี้ การบริการทางการแพทย์ในแต่ละวันจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 200 - 300 คน/วัน