รอยเตอร์/ เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกระดมเงินบริจาค 415 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ และช่วยเหลือชาวเนปาลนับล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 5,489 คน วันนี้ (30 เม.ย.)
แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ตามมาตราแมกนิจูดที่เขย่าตอนกลางของเนปาลเมื่อวันเสาร์ (25) ถือเป็นภัยพิบัติเลวร้ายที่สุดในรอบ 80 ปี ทำให้อาคารบ้านเรือนหลายพันหลังในหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงกาฐมาณฑุพังถล่มยับเยิน ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 5,000 คน และยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10,194 คน
ยูเอ็นประเมินว่ามีชาวเนปาลราว 8 ล้านคนได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ และจะมีผู้ที่ต้องการเต็นท์ที่พัก อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนตลอดช่วง 3 เดือนข้างหน้า
“การให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเป็นเรื่องสำคัญมาก” เจมี แม็กโกลดริก ผู้ประสานงานยูเอ็นฝ่ายที่พักและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเนปาล ระบุในคำแถลง
“แม้ความคืบหน้าในการตอบสนองภัยพิบัติจนถึงขณะนี้จะทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจและมีกำลังใจขึ้น แต่ยังจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือที่จำเป็นจะถูกส่งไปถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามชนบทห่างไกล”
ประชาชนราว 200 คนออกมาชุมนุมประท้วงที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงกาฐมาณฑุ ด้วยความโกรธแค้นที่การส่งความช่วยเหลือยังเป็นไปอย่างล่าช้า โดยเรียกร้องให้ทางการรีบจัดหารถบัสมาขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปส่งยังหมู่บ้านที่พวกตนอาศัยอยู่ ส่วนที่หมู่บ้านสังคโชค (Sangachowk) ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากกาฐมาณฑุด้วยรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็มีชาวบ้านที่โกรธแค้นจำนวนมากออกมาปิดถนนไม่ให้รถบรรเทาทุกข์ผ่านเข้าไปได้
เจ้าหน้าที่เนปาลยอมรับว่า การจัดส่งความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยทำได้ล่าช้า เนื่องจากสะพานและถนนที่มุ่งสู่เขตชานเมืองใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถูกดินถล่มลงมาปิดกั้นจนเข้าออกไม่ได้ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยก็ไม่สามารถลงจอดในบางพื้นที่ เช่น เขตกอร์ข่า (Gorkha) ที่ลาดเขาทั้งแถบถล่มลงมากลบฝังบ้านเรือนประชาชน
ข้อมูลจากยูเอ็นระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนในเนปาลพังถล่มสิ้นเชิงประมาณ 70,000 หลัง และอีก 530,000 หลังได้รับความเสียหายใน 39 เขตจากทั้งหมด 75 เขตทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอาศัยนอนตามที่พักชั่วคราว ท่ามกลางสภาพอากาศที่ชื้นและหนาวเย็น
แมตเทียส ไบรน์สัน ผู้อำนวยการองค์กร แพลน อินเทอร์เนชันแนล ประจำประเทศเนปาล ระบุว่า “ผ้าใบและที่พักชั่วคราวสามารถช่วยชีวิตคนได้เป็นจำนวนมาก ถ้าผู้ประสบภัยโดยเฉพาะเด็กๆ ต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายทั้งกลางวันกลางคืน พวกเขาจะสกปรกมอมแมม เปียกชื้น และหนาวสั่น ซึ่งอาจจะเกิดโรคระบาดตามมาได้”
องค์การสหประชาชาติชี้ว่า วงเงินช่วยเหลือ 415 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่เรียกร้องให้นานาชาติช่วยบริจาคนั้น จะนำไปจัดซื้อเต็นท์หรือผืนผ้าใบเพื่อสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวแก่ชาวเนปาลที่ไร้บ้านราว 500,000 คน จัดซื้ออาหารเพื่อผู้ประสบภัย 1.4 ล้านคน รวมไปถึงน้ำดื่มสะอาดและห้องสุขาสำหรับประชาชนอีก 4.2 ล้านคน
ข้อมูลจากระบบติดตามการเงินของยูเอ็นวานนี้ (29) พบว่าตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวมีรัฐบาลต่างชาติประกาศจะบริจาคสบทบทุนช่วยชาวเนปาลแล้วทั้งสิ้น 48.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทว่าเพิ่งจะมีการจัดส่งเงินจริงเพียง 22.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ