ASTVผู้จัดการรายวัน/เอเจนซีส์ -"ประยุทธ์"สั่งงานผ่านดาวเทียมถึงทีมไทย ขอให้ช่วยเหลือดูแล ทั้งคนไทยและคนเนปาลอย่างเต็มที่ พร้อมให้การบ้าน 10 ข้อในการทำงาน ทอ.ส่ง C-130 ขนของไปส่ง พร้อมรับคนไทยกลับ ด้านชาวเนปาลมีเรื่องให้ยินดีอีก หลังพบเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังนาน 120 ชั่วโมง ทางการเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตใกล้แตะ 6 พันคน แพทย์พบผู้ติดเชื้อโรคติดต่อทางน้ำกว่า 1 พันรายในรอบ 2 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (30 เม.ย.) เว็บไซต์รัฐบาลไทย www.thaigov.go.th ได้แจ้งว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ผ่านดาวเทียมไปยังสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเนปาล
ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณทีมประเทศไทยและหน่วยทหารชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ประเทศเนปาล พร้อมกำชับทุกฝ่ายช่วยกันดูแลคนไทยที่อยู่ในเนปาล ทั้งนักศึกษา แรงงานไทย ตลอดจน นักท่องเที่ยวชาวไทย ให้เป็นอย่างดี
***ส่งคนไทยกลับประเทศแล้ว 83 คน
นายวุตติ วุตติสันค์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดในเนปาลว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น 5,000 ราย บาดเจ็บ 12,000 ราย และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 280,000 ราย ความสูญเสียครอบคลุมพื้นที่ 39 จังหวัด จากทั้งสิ้น 75 จังหวัด โดยงบประมาณที่เนปาลต้องการจากภายนอกเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 415 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสิ่งของบริจาคที่เนปาลมีความต้องการในขณะนี้ คือ น้ำ อาหาร ยา เต็นท์และผ้าห่ม โดยเฉพาะเต็นท์และผ้าห่ม มีความต้องการมากขึ้น เนื่องจากอากาศที่เย็นลงและมีฝนตก
ส่วนการให้ความช่วยเหลือแก่คนไทย ได้ส่งคนไทยกลับประเทศแล้วทั้งสิ้น 83 คน และจะส่งกลับอีก 14 คน โดย 7 คนจะเดินทางกลับโดยสารการบินไทย และอีก 7 คนจะกลับโดยเครื่องบินทหาร C-130
***เนปาลซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ
พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี หัวหน้าชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาล รายงานเพิ่มเติมว่า เนปาลอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านระหว่างการกู้ภัยไปสู่การฟื้นฟู ในขณะที่สถานการณ์ทั่วไปในเนปาลเริ่มดีขึ้น การเกิดอาฟเตอร์ช็อคน้อยลง จากเดิม 150 ครั้งต่อวัน โดยชุดให้ความช่วยเหลือได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ วันที่ 29 เม.ย.2558 โดยระหว่างการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ชุดช่วยเหลือได้พบกับ นายกรัฐมนตรีเนปาล ซึ่งได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมกล่าวขอบคุณชาวไทยสำหรับความช่วยเหลือ และฝากความระลึกถึงนายกรัฐมนตรีมา ณ ที่นี้ด้วย ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ยังมีอุปสรรคด้านการสื่อสารและการเคลื่อนย้ายหน่วยเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ
***"บิ๊กตู่"สั่งการ 10 ข้อช่วยเนปาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมทางไกล นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางการปฏิบัติงานเพื่อประสานงานกับทางเนปาลและอีก 15 ประเทศที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้ โดยย้ำความสำคัญของการประสานงานด้านการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของเนปาล 10 ข้อ ได้แก่ การประสานจัดระเบียบสนามบินเพื่อลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือ , การกระจายสิ่งของให้ทั่วถึง , โรคระบาดอาจรุนแรง ต้องการยาและแพทย์มากขึ้น , การให้ความช่วยเหลือด้านการติดต่อสื่อสาร , การช่วยเหลือในการรื้อถอนและฟื้นฟู , การจัดหาและลำเลียงน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค , การจัดหาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม , การจัดหาอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น เต็นท์ ที่นอน แผ่นยาง รองเท้าแตะ ผ้าพลาสติกกันฝน , การให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร และช่องทางอื่นในการขนส่งสิ่งของ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ชุดให้ความช่วยเหลือ โดยกำชับให้ระมัดระวังตัวจากอุบัติเหตุและโรคระบาด จากการปฏิบัติภารกิจ และขอให้มีการรายงานความคืบหน้า อุปสรรคและความต้องการมาเป็นระยะ เนื่องจากไทยมีความห่วงใยต่อเนปาลในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิด
***C-130รับคนไทยกลับจากเนปาลอีก
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า วานนี้ (30 เม.ย.) ได้ส่งเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 จำนวน 2 เครื่อง นำสิ่งของช่วยเหลือจากไทยไปยังเนปาล และในขากลับได้นำคนไทยและหญิงชาวเนปาล ซึ่งเป็นครอบครัวคนไทยเดินทางกลับมาด้วยรวม 7 คน
รายงานจากกระทรวงต่างประเทศระบุว่า ณะนี้ยังมีคนไทยเข้ามาพำนักอยู่ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตเพิ่มจำนวน 8 คน โดยสถานเอกอัครราชทูตจะประสานงานเพื่อให้เดินทางกลับไทยในโอกาสแรก ส่วนนิสิตแพทย์ 6 คน จาก ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ที่เมืองโพคารานั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานนำตัวมายังกรุงกาฐมาณฑุเพื่อส่งกลับประเทศไทยต่อไป รวมจำนวนคนไทยที่สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือกลับไทยแล้วทั้งสิ้น 153 คน
***ยอดบริจาคช่วยเนปาลรวม 59.2 ล้าน
ที่ตึกนารีสโมสร ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับมอบเงินบริจาคและสิ่งของจากภาคเอกชน เพื่อรวบรวมนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ตามโครงการหัวใจไทยส่งไปเนปาล โดยมีภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมบริจาคจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท สิริไฟน์ ฟู้ดส์ จำกัด มอบข้าวไรซ์เบอร์รี่พร้อมรับประทาน มูลค่า 19,200 บาท, บริษัท เอ็นทีเอ็น แบริ่ง ประเทศไทย จำกัด บริจาค 116,230 บาท, บริษัท บีเอ็นที แปซิฟิค จำกัด บริจาคเงิน 100,000 บาท, นางอุสา รุ่งวัฒนไพบูลย์ บริจาคเงิน 1,000 บาท และนายประทีป เก่งงาน บริจาคเงิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ ยอดเงินบริจาคเข้าบัญชีที่สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดขึ้น ตั้งแต่เริ่มจนถึงเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) สรุปยอดได้ทื้งหมด 59.2 ล้านบาท โดยจะมีการสรุปยอดในแต่ละวันเวลา 16.30 น.
***ทีมแพทย์โพสต์เฟซลงพื้นที่ช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หัวหน้าทีมแพทย์ล่วงหน้าของไทยที่ไปประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในชื่อ suriya wongkongkathep หลังจากทีมแพทย์เมิร์ทของไทยได้ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่เมืองซิปปะกัต อ.ซินโฮปะช๊อก ว่า สภาพบ้านเรือนในชนบทต่างจากในเมืองกาฐมาณฑุโดยสิ้นเชิง ส่วนมากเป็นบ้านที่ก่อสร้างอย่างง่ายๆ ใช้อิฐเรียงซ้อนๆ ฉาบด้วยดินโคลน ไม่มีเสาหรือฐานราก จึงล้มเอนได้ง่าย แต่ข้อดีก็มี คือ ไม่บาดเจ็บมาก อย่างดีก็แข้งขาหัก
*** 5ศาสนาร่วมสวดมนต์ให้ผู้เสียชีวิต
ที่หอสมุดแห่งชาติ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีรวมพลังทางศาสนามหามงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับชาวเนปาล และมอบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล โดยมีศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) นายสรพงษ์ ชาตรี ศิลปินแห่งชาติ ประธานมูลมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พร้อมด้วยข้าราชการสังกัด ศน. เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมีการสวดของ 5 ศาสนา เริ่มจากศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหม์-ฮินดู สิกข์ จากนั้น นายวีระ ได้รับมอบเงินบริจาคจากองค์กรเครือข่ายและตัวแทน 5 ศาสนาด้วย
*** มส.ให้คณะสงฆ์ช่วยเหลือเนปาลแดนพุทธภูมิ
พระพรหมเมธี (จำนง ธมฺมจารี) กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวภายหลังการประชุมมส.ว่า มส.ในนามคณะสงฆ์ไทย ขอให้วัด พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวเนปาลตามกำลังด้วยความเมตตาธรรม โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานมส. ได้บริจาคสมทบทุนช่วยเหลือชาวเนปาลแล้ว จำนวน 2 ล้านบาท และล่าสุดมียอดบริจาคผ่านศูนย์ให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ (บริเวณภูเขาทอง) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แล้วจำนวน 8 ล้านบาท
***จุฬาฯ มั่นใจแผ่นดินไหวเนปาลไม่กระทบไทย
ผศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวตอนหนึ่งในงานแถลงข่าว “บทเรียนจากเนปาลสู่ไทย...รับมือแผ่นดินไหวอย่างไร” ที่จุฬาฯ ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแน่นอน เพราะอยู่ห่างไกลกันมาก โดยแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ได้แก่ แนวมุดตัวสุมาตรา-อันดามัน และกลุ่มรอยเลื่อนสะกาย ที่ผ่านพาดเมืองเมืองมิตจีนา เนปิดอร์ และมัณฑเลย์ ซึ่งกลุ่มรอยเลื่อนนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 12 ครั้ง ความแรงสูงถึง 8.0 ริกเตอร์ และไทยเคยได้รับแรงสั่นสะเทือนถึงกรุงเทพฯ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
***ไทยต้องใช้เป็นบทเรียนดูแลโบราณสถาน
ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ ที่ปรึกษาศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหว ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลครั้งนี้สร้างความเสียหายให้แก่โบราณสถานจำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ไทยต้องนำมาคิด เพราะไทยมีโบราณสถาน และวัดที่สำคัญจำนวนมาก เช่น วัดพระแก้วมรกต เป็นต้น หากได้รับความเสียหายจะส่งผลกระทบมากทั้งด้านจิตใจ และการท่องเที่ยว จึงฝากผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
***พบเด็ก 15 ปีรอดชีวิตอีกราย
สำนักงานข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วานนี้ (30 เม.ย.) ได้พบเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังนานถึง 120 ชั่วโมง ยังรอดชีวิต ซึ่งได้มีการช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ เด็กคนดังกล่าว มีชื่อว่า เปมบา ลามา มีอาชีพเป็นพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรม โดยเขาเล่าว่า ได้อาศัยน้ำมันเนย 2 กระปุกประทังชีวิตตลอด 5 วันที่ผ่านมา ภายใต้ซากโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ บรรดาแพทย์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นปาฎิหาริย์ ขณะที่ผู้คนซึ่งมุงดูอยู่ต่างโห่ร้องด้วยความยินดีเมื่อหน่วยกู้ภัยนำเด็กหนุ่มผู้นี้ออกมาได้สำเร็จ
ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน ความดีใจกลับกลายเป็นความหดหู่ เมื่อทีมกู้ภัยซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างกองทัพเนปาลกับยูเสด หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหรัฐฯ พบร่างที่เป็นศพของวัยรุ่นอีกคน ใกล้ๆ กับบริเวณที่พบเปมบา
กระนั้น ข่าวนี้สร้างขวัญและกำลังใจให้หน่วยกู้ภัยที่ต้องเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกเป็นระยะ มิพักต้องพูดถึงฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งแม้หน่วยกู้ภัยยังสามารถปฏิบัติภารกิจในกาฐมาณฑุได้ แต่สำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่เตรียมออกเดินทางไปยังพื้นที่ทุรกันดารต้องระงับภารกิจชั่วคราว
***ชาวเนปาลยังต้องนอนกลางแจ้ง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ชาวเนปาลจำนวนมากยังต้องนอนในพื้นที่กลางแจ้งนับจากวันเสาร์ ที่ 25เม.ย. ที่เกิดแผ่นดินไหวความแรงถึง 7.8 โดยสหประชาชาติ ประเมินว่า มีบ้านเรือน 600,000 หลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ขณะที่ประชาชน 8 ล้านคนได้รับผลกระทบ และอย่างน้อย 2 ล้านคนต้องการเต็นท์ น้ำ อาหาร เวชภัณฑ์ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ไป
ยูเอ็นประกาศว่าจากภัยพิบัติคราวนี้ เนปาลต้องการความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่า 415 ล้านเหรียญสหรัฐ และระบุว่าการช่วยเหลือประชาชนในประเทศที่ถือว่า ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแห่งนี้ เป็นภารกิจที่ต้องใช้เวลายาวนาน พร้อมกับสำทับว่า การค้นหาและการกู้ภัยนอกบริเวณหุบเขากาฐมาณฑุ แวลลีย์ ยังคงทำได้อย่างจำกัด อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เนื่องจากพื้นที่บางแห่งสามารถเข้าถึงด้วยการเดินเท้าเท่านั้น
ทางการเนปาลแถลงยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีว่าเพิ่มเป็น 5,844 ราย และบาดเจ็บเกือบ 11,000 คน นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนในประเทศเพื่อนบ้านคือ อินเดีย และเขตปกครองตนเองทิเบต ของจีน
***โวยทางการให้ความช่วยเหลือล่าช้า
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในเนปาลเอง ประชาชนในบางพื้นที่อยู่ในอาการเดือดดาลมากขึ้น และกล่าวหารัฐบาลทำงานเชื่องช้า ทั้งที่ความช่วยเหลือจากต่างชาติหลั่งไหลมาท่วมท้น เนื่องจากจนถึงขณะนี้ สิ่งของบรรเทาทุกข์ยังไม่ถึงมือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาดจากความเสียหายจากแผ่นดินไหว รวมทั้งสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนั้น ยังเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวเนปาลกับคนต่างชาติที่ต่างต้องการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัย
ที่หุบเขาลังตังที่มีผู้ติดอยู่ 150 คน นักบินถูกจับเป็นตัวประกันโดยชาวบ้านที่ต้องการขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับออกไปด้วย
ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยจากต่างชาติแจ้งกับทางการเนปาลว่า ภารกิจใกล้เสร็จสิ้น เนื่องจากมีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม
***พบโรคระบาดทางน้ำเริ่มรุนแรงขึ้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีความกังวลใหม่เกี่ยวกับโรคติดเชื้อทางน้ำ โดยไบเนย์ ปันเดย์ แพทย์ในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งในกาฐมาณฑุ เผยว่า คนไข้ระลอกใหม่ คือ ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว และป่วยจากการอาศัยอยู่กลางแจ้งและดื่มน้ำปนเปื้อน โดยนับจากเช้าวันพุธที่ 29 เม.ย. โรงพยาบาลรับคนไข้อย่างน้อย 1,200 รายที่ป่วยจากโรคติดต่อทางน้ำ
สำหรับสถานการณ์ในกาฐมาณฑุในวันพฤหัสบดี เริ่มคืนสู่สภาพปกติมากขึ้น ร้านค้าหลายแห่งเปิดให้บริการ ขณะที่ทางการเตรียมเปิดให้นักปีนเขากลับขึ้นไปผจญภัยบนเอเวอเรสต์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากซ่อมแซมความเสียหายจากหิมะถล่มอันเป็นผลพวงของแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์เสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (30 เม.ย.) เว็บไซต์รัฐบาลไทย www.thaigov.go.th ได้แจ้งว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ผ่านดาวเทียมไปยังสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเนปาล
ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณทีมประเทศไทยและหน่วยทหารชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ประเทศเนปาล พร้อมกำชับทุกฝ่ายช่วยกันดูแลคนไทยที่อยู่ในเนปาล ทั้งนักศึกษา แรงงานไทย ตลอดจน นักท่องเที่ยวชาวไทย ให้เป็นอย่างดี
***ส่งคนไทยกลับประเทศแล้ว 83 คน
นายวุตติ วุตติสันค์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดในเนปาลว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น 5,000 ราย บาดเจ็บ 12,000 ราย และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 280,000 ราย ความสูญเสียครอบคลุมพื้นที่ 39 จังหวัด จากทั้งสิ้น 75 จังหวัด โดยงบประมาณที่เนปาลต้องการจากภายนอกเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 415 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสิ่งของบริจาคที่เนปาลมีความต้องการในขณะนี้ คือ น้ำ อาหาร ยา เต็นท์และผ้าห่ม โดยเฉพาะเต็นท์และผ้าห่ม มีความต้องการมากขึ้น เนื่องจากอากาศที่เย็นลงและมีฝนตก
ส่วนการให้ความช่วยเหลือแก่คนไทย ได้ส่งคนไทยกลับประเทศแล้วทั้งสิ้น 83 คน และจะส่งกลับอีก 14 คน โดย 7 คนจะเดินทางกลับโดยสารการบินไทย และอีก 7 คนจะกลับโดยเครื่องบินทหาร C-130
***เนปาลซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ
พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี หัวหน้าชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาล รายงานเพิ่มเติมว่า เนปาลอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านระหว่างการกู้ภัยไปสู่การฟื้นฟู ในขณะที่สถานการณ์ทั่วไปในเนปาลเริ่มดีขึ้น การเกิดอาฟเตอร์ช็อคน้อยลง จากเดิม 150 ครั้งต่อวัน โดยชุดให้ความช่วยเหลือได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ วันที่ 29 เม.ย.2558 โดยระหว่างการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ชุดช่วยเหลือได้พบกับ นายกรัฐมนตรีเนปาล ซึ่งได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมกล่าวขอบคุณชาวไทยสำหรับความช่วยเหลือ และฝากความระลึกถึงนายกรัฐมนตรีมา ณ ที่นี้ด้วย ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ยังมีอุปสรรคด้านการสื่อสารและการเคลื่อนย้ายหน่วยเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ
***"บิ๊กตู่"สั่งการ 10 ข้อช่วยเนปาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมทางไกล นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางการปฏิบัติงานเพื่อประสานงานกับทางเนปาลและอีก 15 ประเทศที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้ โดยย้ำความสำคัญของการประสานงานด้านการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของเนปาล 10 ข้อ ได้แก่ การประสานจัดระเบียบสนามบินเพื่อลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือ , การกระจายสิ่งของให้ทั่วถึง , โรคระบาดอาจรุนแรง ต้องการยาและแพทย์มากขึ้น , การให้ความช่วยเหลือด้านการติดต่อสื่อสาร , การช่วยเหลือในการรื้อถอนและฟื้นฟู , การจัดหาและลำเลียงน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค , การจัดหาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม , การจัดหาอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น เต็นท์ ที่นอน แผ่นยาง รองเท้าแตะ ผ้าพลาสติกกันฝน , การให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร และช่องทางอื่นในการขนส่งสิ่งของ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ชุดให้ความช่วยเหลือ โดยกำชับให้ระมัดระวังตัวจากอุบัติเหตุและโรคระบาด จากการปฏิบัติภารกิจ และขอให้มีการรายงานความคืบหน้า อุปสรรคและความต้องการมาเป็นระยะ เนื่องจากไทยมีความห่วงใยต่อเนปาลในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิด
***C-130รับคนไทยกลับจากเนปาลอีก
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า วานนี้ (30 เม.ย.) ได้ส่งเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 จำนวน 2 เครื่อง นำสิ่งของช่วยเหลือจากไทยไปยังเนปาล และในขากลับได้นำคนไทยและหญิงชาวเนปาล ซึ่งเป็นครอบครัวคนไทยเดินทางกลับมาด้วยรวม 7 คน
รายงานจากกระทรวงต่างประเทศระบุว่า ณะนี้ยังมีคนไทยเข้ามาพำนักอยู่ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตเพิ่มจำนวน 8 คน โดยสถานเอกอัครราชทูตจะประสานงานเพื่อให้เดินทางกลับไทยในโอกาสแรก ส่วนนิสิตแพทย์ 6 คน จาก ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ที่เมืองโพคารานั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานนำตัวมายังกรุงกาฐมาณฑุเพื่อส่งกลับประเทศไทยต่อไป รวมจำนวนคนไทยที่สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือกลับไทยแล้วทั้งสิ้น 153 คน
***ยอดบริจาคช่วยเนปาลรวม 59.2 ล้าน
ที่ตึกนารีสโมสร ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับมอบเงินบริจาคและสิ่งของจากภาคเอกชน เพื่อรวบรวมนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ตามโครงการหัวใจไทยส่งไปเนปาล โดยมีภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมบริจาคจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท สิริไฟน์ ฟู้ดส์ จำกัด มอบข้าวไรซ์เบอร์รี่พร้อมรับประทาน มูลค่า 19,200 บาท, บริษัท เอ็นทีเอ็น แบริ่ง ประเทศไทย จำกัด บริจาค 116,230 บาท, บริษัท บีเอ็นที แปซิฟิค จำกัด บริจาคเงิน 100,000 บาท, นางอุสา รุ่งวัฒนไพบูลย์ บริจาคเงิน 1,000 บาท และนายประทีป เก่งงาน บริจาคเงิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ ยอดเงินบริจาคเข้าบัญชีที่สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดขึ้น ตั้งแต่เริ่มจนถึงเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) สรุปยอดได้ทื้งหมด 59.2 ล้านบาท โดยจะมีการสรุปยอดในแต่ละวันเวลา 16.30 น.
***ทีมแพทย์โพสต์เฟซลงพื้นที่ช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หัวหน้าทีมแพทย์ล่วงหน้าของไทยที่ไปประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในชื่อ suriya wongkongkathep หลังจากทีมแพทย์เมิร์ทของไทยได้ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่เมืองซิปปะกัต อ.ซินโฮปะช๊อก ว่า สภาพบ้านเรือนในชนบทต่างจากในเมืองกาฐมาณฑุโดยสิ้นเชิง ส่วนมากเป็นบ้านที่ก่อสร้างอย่างง่ายๆ ใช้อิฐเรียงซ้อนๆ ฉาบด้วยดินโคลน ไม่มีเสาหรือฐานราก จึงล้มเอนได้ง่าย แต่ข้อดีก็มี คือ ไม่บาดเจ็บมาก อย่างดีก็แข้งขาหัก
*** 5ศาสนาร่วมสวดมนต์ให้ผู้เสียชีวิต
ที่หอสมุดแห่งชาติ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีรวมพลังทางศาสนามหามงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับชาวเนปาล และมอบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล โดยมีศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) นายสรพงษ์ ชาตรี ศิลปินแห่งชาติ ประธานมูลมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พร้อมด้วยข้าราชการสังกัด ศน. เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมีการสวดของ 5 ศาสนา เริ่มจากศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหม์-ฮินดู สิกข์ จากนั้น นายวีระ ได้รับมอบเงินบริจาคจากองค์กรเครือข่ายและตัวแทน 5 ศาสนาด้วย
*** มส.ให้คณะสงฆ์ช่วยเหลือเนปาลแดนพุทธภูมิ
พระพรหมเมธี (จำนง ธมฺมจารี) กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวภายหลังการประชุมมส.ว่า มส.ในนามคณะสงฆ์ไทย ขอให้วัด พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวเนปาลตามกำลังด้วยความเมตตาธรรม โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานมส. ได้บริจาคสมทบทุนช่วยเหลือชาวเนปาลแล้ว จำนวน 2 ล้านบาท และล่าสุดมียอดบริจาคผ่านศูนย์ให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ (บริเวณภูเขาทอง) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แล้วจำนวน 8 ล้านบาท
***จุฬาฯ มั่นใจแผ่นดินไหวเนปาลไม่กระทบไทย
ผศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวตอนหนึ่งในงานแถลงข่าว “บทเรียนจากเนปาลสู่ไทย...รับมือแผ่นดินไหวอย่างไร” ที่จุฬาฯ ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแน่นอน เพราะอยู่ห่างไกลกันมาก โดยแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ได้แก่ แนวมุดตัวสุมาตรา-อันดามัน และกลุ่มรอยเลื่อนสะกาย ที่ผ่านพาดเมืองเมืองมิตจีนา เนปิดอร์ และมัณฑเลย์ ซึ่งกลุ่มรอยเลื่อนนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 12 ครั้ง ความแรงสูงถึง 8.0 ริกเตอร์ และไทยเคยได้รับแรงสั่นสะเทือนถึงกรุงเทพฯ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
***ไทยต้องใช้เป็นบทเรียนดูแลโบราณสถาน
ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ ที่ปรึกษาศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหว ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลครั้งนี้สร้างความเสียหายให้แก่โบราณสถานจำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ไทยต้องนำมาคิด เพราะไทยมีโบราณสถาน และวัดที่สำคัญจำนวนมาก เช่น วัดพระแก้วมรกต เป็นต้น หากได้รับความเสียหายจะส่งผลกระทบมากทั้งด้านจิตใจ และการท่องเที่ยว จึงฝากผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
***พบเด็ก 15 ปีรอดชีวิตอีกราย
สำนักงานข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วานนี้ (30 เม.ย.) ได้พบเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังนานถึง 120 ชั่วโมง ยังรอดชีวิต ซึ่งได้มีการช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ เด็กคนดังกล่าว มีชื่อว่า เปมบา ลามา มีอาชีพเป็นพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรม โดยเขาเล่าว่า ได้อาศัยน้ำมันเนย 2 กระปุกประทังชีวิตตลอด 5 วันที่ผ่านมา ภายใต้ซากโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ บรรดาแพทย์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นปาฎิหาริย์ ขณะที่ผู้คนซึ่งมุงดูอยู่ต่างโห่ร้องด้วยความยินดีเมื่อหน่วยกู้ภัยนำเด็กหนุ่มผู้นี้ออกมาได้สำเร็จ
ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน ความดีใจกลับกลายเป็นความหดหู่ เมื่อทีมกู้ภัยซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างกองทัพเนปาลกับยูเสด หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหรัฐฯ พบร่างที่เป็นศพของวัยรุ่นอีกคน ใกล้ๆ กับบริเวณที่พบเปมบา
กระนั้น ข่าวนี้สร้างขวัญและกำลังใจให้หน่วยกู้ภัยที่ต้องเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกเป็นระยะ มิพักต้องพูดถึงฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งแม้หน่วยกู้ภัยยังสามารถปฏิบัติภารกิจในกาฐมาณฑุได้ แต่สำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่เตรียมออกเดินทางไปยังพื้นที่ทุรกันดารต้องระงับภารกิจชั่วคราว
***ชาวเนปาลยังต้องนอนกลางแจ้ง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ชาวเนปาลจำนวนมากยังต้องนอนในพื้นที่กลางแจ้งนับจากวันเสาร์ ที่ 25เม.ย. ที่เกิดแผ่นดินไหวความแรงถึง 7.8 โดยสหประชาชาติ ประเมินว่า มีบ้านเรือน 600,000 หลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ขณะที่ประชาชน 8 ล้านคนได้รับผลกระทบ และอย่างน้อย 2 ล้านคนต้องการเต็นท์ น้ำ อาหาร เวชภัณฑ์ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ไป
ยูเอ็นประกาศว่าจากภัยพิบัติคราวนี้ เนปาลต้องการความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่า 415 ล้านเหรียญสหรัฐ และระบุว่าการช่วยเหลือประชาชนในประเทศที่ถือว่า ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแห่งนี้ เป็นภารกิจที่ต้องใช้เวลายาวนาน พร้อมกับสำทับว่า การค้นหาและการกู้ภัยนอกบริเวณหุบเขากาฐมาณฑุ แวลลีย์ ยังคงทำได้อย่างจำกัด อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เนื่องจากพื้นที่บางแห่งสามารถเข้าถึงด้วยการเดินเท้าเท่านั้น
ทางการเนปาลแถลงยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีว่าเพิ่มเป็น 5,844 ราย และบาดเจ็บเกือบ 11,000 คน นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนในประเทศเพื่อนบ้านคือ อินเดีย และเขตปกครองตนเองทิเบต ของจีน
***โวยทางการให้ความช่วยเหลือล่าช้า
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในเนปาลเอง ประชาชนในบางพื้นที่อยู่ในอาการเดือดดาลมากขึ้น และกล่าวหารัฐบาลทำงานเชื่องช้า ทั้งที่ความช่วยเหลือจากต่างชาติหลั่งไหลมาท่วมท้น เนื่องจากจนถึงขณะนี้ สิ่งของบรรเทาทุกข์ยังไม่ถึงมือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาดจากความเสียหายจากแผ่นดินไหว รวมทั้งสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนั้น ยังเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวเนปาลกับคนต่างชาติที่ต่างต้องการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัย
ที่หุบเขาลังตังที่มีผู้ติดอยู่ 150 คน นักบินถูกจับเป็นตัวประกันโดยชาวบ้านที่ต้องการขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับออกไปด้วย
ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยจากต่างชาติแจ้งกับทางการเนปาลว่า ภารกิจใกล้เสร็จสิ้น เนื่องจากมีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม
***พบโรคระบาดทางน้ำเริ่มรุนแรงขึ้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีความกังวลใหม่เกี่ยวกับโรคติดเชื้อทางน้ำ โดยไบเนย์ ปันเดย์ แพทย์ในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งในกาฐมาณฑุ เผยว่า คนไข้ระลอกใหม่ คือ ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว และป่วยจากการอาศัยอยู่กลางแจ้งและดื่มน้ำปนเปื้อน โดยนับจากเช้าวันพุธที่ 29 เม.ย. โรงพยาบาลรับคนไข้อย่างน้อย 1,200 รายที่ป่วยจากโรคติดต่อทางน้ำ
สำหรับสถานการณ์ในกาฐมาณฑุในวันพฤหัสบดี เริ่มคืนสู่สภาพปกติมากขึ้น ร้านค้าหลายแห่งเปิดให้บริการ ขณะที่ทางการเตรียมเปิดให้นักปีนเขากลับขึ้นไปผจญภัยบนเอเวอเรสต์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากซ่อมแซมความเสียหายจากหิมะถล่มอันเป็นผลพวงของแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์เสร็จสิ้น