xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง-ราชินีทรงช่วยเนปาล พระราชทาน10ล้าน ชาวบ้านปะทะตำรวจหลังบรรเทาทุกข์ห่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ในหลวง-ราชินี พระราชทานเงิน 10 ล้านบาท ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ฯ มอบ 6 แสน ช่วยผู้ประสบภัยเนปาล "ประยุทธ์"สั่งเพิ่มความช่วยเหลือเต็มที่ รัฐบาลเปิดวอร์รูม ติดตามสถานการณ์ทุกวันจนกว่าจะคลี่คลาย ทอ.จัด C-130 นำสิ่งของจำเป็นไปส่ง พร้อมรับคนไทยกลับ ทีมแพทย์ชุดแรก 19 คนถึงเนปาลแล้ว ลงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนัก ด้านเนปาลวุ่นหนัก เกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน หลังบรรเทาทุกข์มีจุดอ่อนเพียบ เผยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 5 พันคน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2558 ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระราชทานเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล เป็นเงิน 10 ล้านบาท โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผ่านรัฐบาล และให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบ

"พระองค์ทรงมีเมตตากับเราและรัฐบาล ให้มีบทบาทในการบรรเทาภัยพิบัติและช่วยเหลือเนปาลที่เป็นมิตรกับเรามาหลายปี และเราก็โชคดีเหมือนกัน เพราะปกติคนไทยจะไปทำบุญที่เนปาลเยอะ โดยผมได้พูดคุยและให้กำลังใจผ่านเอกอัครราชทูตเนปาล และนายกรัฐมนตรีเนปาล ได้ขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาล และฝากกราบทูลพระเจ้าอยู่หัวด้วยว่าคนไทยมีน้ำใจกับเขามาก และผมก็เสียใจกับเขาจริงๆ"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการคุยกับทูตว่าจะลงทุนกันอย่างไร รวมถึงได้คุยกับนายกรัฐมนตรีเนปาล ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคุยกันว่าเขาจะเยือนไทยและมีการลงทุนรวมกัน แต่ขณะนี้คงไม่สามารถทำได้แล้ว โดยตนได้บอกไปว่า สบายใจได้ ไทยจะช่วยดูแลให้ ในฐานะเป็นมิตรประเทศร่วมกัน จะพยุงกันขึ้นมา และไม่ปล่อยให้ประเทศใดประเทศหนึ่งตามหลัง ต้องช่วยกันส่งเสริมให้เข้มแข็งเหมือนกับอาเซียนที่จะได้มีเสียงดังในโลก

***สั่งเพิ่มความช่วยเหลือเนปาลเต็มที่

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือเพิ่มเติมไปยังเนปาลว่า ตนได้หารือร่วมกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศแล้ว ตั้งแต่เรื่องเงิน เครื่องนุ่งห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค การพิสูจน์นิติวิทยาศาสตร์ เราคิดให้หมด และตรงกับสิ่งที่ทางเนปาลต้องการ และจะมีการส่งมอบให้ต่อไป ส่วนบางอย่างที่เรายังไม่มี เช่น เต็นท์ ขนาด 2-4 คน ที่สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งอยู่ในแผนที่ได้สั่งการไปแล้ว

ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลนั้น เป็นคนละรอยเลื่อนกับไทย ซึ่งทั้งโลกมีรอยเลื่อนต่อกันหมด โดยไทยมีประมาณ 7 รอยเลื่อน ซึ่งภาคเหนือและภาคกลางอันตรายที่สุด ก็อย่าเพิ่งไปเดือดร้อนกับเขา มันตายคือตาย เพราะมันเป็นโลก ส่วนแผนการป้องกันนั้น ไทยถือว่าดีที่สุดในระดับโลกในเรื่องการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ และเราเป็นคนฝึกอบรมให้ประเทศต่างๆ ด้วย โดยที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ จะรับผิดชอบเรื่องนี้ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ฉะนั้นเราต้องช่วยเนปาลในการกู้ภัยต่างๆ รวมถึงการบริหารจัดการ เพราะประเทศเนปาล ก็เหนื่อยและไม่ไหว จึงต้องช่วยบริหารเรื่องสิ่งของร่วมกับทุกประเทศ ไม่เช่นนั้นจะไม่ทั่วถึง

ส่วนการบริหารเงินนั้น ทั่วโลกจะให้หมด ต้องมีการสร้างบ้านรองรับประชากรที่เดือดร้อนกว่าล้านคน ซึ่งเราก็ภาวนาอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับประเทศไทย แต่ก็อาจจะไม่มี เพราะเรามัวทะเลาะกันเองอยู่แล้ว ก็อาจจะชดเชยกันได้

**ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ฯ มอบ6 แสนบาท

วันเดียวกันนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน ได้พระราชทานมอบหมาย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เลขานุการโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และกรรมการมูลนิธิทูบีนัมเบอร์วัน ให้นำเงินพระราชทาน จำนวน 600,000 บาท มอบให้รัฐบาลจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติที่เนปาล และขอให้รัฐบาลดำเนินการตามประราชประสงค์ต่อไป โดยมีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบเงินพระราชทาน

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า การรวบรวมเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นฝ่ายเลขานุการ ประชุมประเมินความต้องการ โดยขณะนี้ เต็นท์ น้ำดื่ม ยารักษาโรค มีความต้องการเป็นอย่างมาก ซึ่งกองทัพไทยเป็นเจ้าภาพจัดส่งสิ่งของ

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณประชาชนที่มีน้ำใจร่วมช่วยเหลือประเทศเนปาล ส่วนกรณีที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่จะตั้งกล่องรับบริจาค ขอให้แสดงความจำนงมายังรัฐบาล เพื่อรัฐบาลจะได้มีหนังสือรับรองไปให้อย่างเป็นทางการ ป้องกันการแอบอ้างแสวงหาผลประโยชน์

***สั่งวอร์รูมติดตามความช่วยเหลือทุกวัน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยที่เนปาลอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" โดยสิ่งของบริจาคได้โดยตรงที่ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ส่วนการบริจาคเงินผ่านทางรัฐบาล ประชาชนสามารถประสานสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เข้าบริจาค โดยทุกวัน เวลา 14.30 น. ม.ล.ปนัดดา หรือตัวแทนรัฐบาล จะเป็นผู้รับมอบเงิน ที่ตึกนารีสโมสร

ส่วนการโอนเข้าบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" เลขที่บัญชี 067-0-10330-6 ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ประชาชนยังสามารถโอนเงินบริจาคได้ตามปกติ และสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ตามประกาศของกรมสรรพากร

ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดประชุมวิดีทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมระหว่างศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี จากทำเนียบรัฐบาล ไปยังศูนย์บัญชาการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สถานเอกอัครทูตไทยประจำกรุงกาฎมัณฑุ และชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เป็นประจำทุกวัน โดยจะเริ่มประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 เม.ย. และจะมีการรายงานผลการปฏิบัติทุกวันให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ โดยรัฐบาลไทยจะช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยในเนปาลอย่างถึงที่สุด ตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

** ทอ.จัด C-130 บินไปเนปาลอีกวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 วานนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ทางกองบัญชาการกองทัพไทย โดยกองทัพอากาศ เตรียมส่งเครื่องบินลำเลียง แบบ C-130 สองเครื่อง นำสิ่งของบริจาคชุดที่ 2 เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหว ที่เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยเป็นสิ่งของที่ทางรัฐบาลเนปาลต้องการเร่งด่วน ประกอบด้วย เครื่องปั่นไฟ เครื่องกรองน้ำ เครื่องผลิตน้ำดื่มสนาม น้ำดื่มขวด อาหารสำเร็จรูป ยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 2 ตัน และอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น เต้นท์ที่พัก รวมถึงอุปกรณ์กู้ภัย เช่น เปลสนาม โดยสิ่งของที่ช่วยเหลือมาจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพอากาศ กองทัพบก กองพันทหารช่าง และมูลนิธิ มิราเคิลออฟไลฟ์ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา ศิริวัฒนาพรรณวดี รวมถึงประชาชน

ทั้งนี้ เครื่องบินทั้งสองเครื่อง เมื่อนำสิ่งของไปมอบให้รัฐบาลเนปาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศให้โดยสารมาด้วย หลังจากเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ได้รับคนไทยกลับมาแล้วจำนวน 66 คน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษก ทอ. กล่าวว่า กองทัพอากาศได้ยกเลิกภารกิจการบินด้วยเครื่องบินลำเลียง แบบ C-130 ไปเนปาล ในวันที่ 29 เม.ย. เนื่องจากได้รับแจ้งจากสนามบินกาฐมาณฑุว่าขณะนี้พื้นที่ลานจอดมีเครื่องบินจากชาติต่างๆ จอดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ขอให้ชะลอการบินไปลงที่สนามบินตรีภูวัน กาฐมาณฑุไว้ก่อน และเมื่อทางสนามบินมีความพร้อมเมื่อใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป ด้วยเหตุนี้ทางกองทัพอากาศ จึงได้ยกเลิก และเตรียมการบินอีกครั้ง ในวันนี้ (30 เม.ย.) ด้วยเครื่องบินลำเลียง แบบ C-130 เช่นเดิม เพื่อนำของช่วยเหลือ ชุดที่ 2 ไปช่วยผู้ประสบภัย ที่ประเทศเนปาลต่อไป และจะระบุเวลาให้ทราบอีกครั้ง

***ส่งทีมแพทย์ชุดแรกช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินทางมาร่วมส่งทีมแพทย์ชุดแรกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ซึ่งทีมแพทย์ดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 19 ชีวิต นำทีมโดย นพ.นพ.จรุงวิทย์ ปลื้มเปรมจิต นายแพทย์ชำนาญการ รพ.สุไหงโกลก ซึ่งภายในทีมประกอบด้วยแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน พยาบาลวิชาชีพ จากทั้งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โรงพยาบาลสุรินทร์ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ โรงพยาบาลเลิดสิน รวมไปถึงจิตแพทย์จากสถาบันจิตเวชสงขลาด้วย

ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยังได้นำยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ยาพาราเซตามอล ผ้าก็อซ สำลี ผ้าพันแผล น้ำเกลือ รวม 15 รายการ มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ส่งไปช่วยผู้ประสบภัยที่เนปาลด้วย

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทีมแพทย์ชุดดังกล่าว จะออกปฏิบัติงานร่วมกับทีมแพทย์ของกระทรวงกลาโหมที่เดินทางไปตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. โดยเบื้องต้นกำหนดเวลาทำงาน 7-10 วัน

***เนปาลขอให้ช่วยเมืองที่รับได้ความเสียหาย

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ล่วงหน้าที่นำโดย นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ.ว่าสถานที่ที่ทีมแพทย์ไทยจะปฏิบัติงานในครั้งนี้ คือ ตำบลซิปปะกัต อำเภอซินโฮปะช๊อก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เมืองที่ได้รับความเสียหายมากถึงร้อยละ 90 ของพื้นที่

**"ปรีชา เถาทอง" ศิลปินแห่งชาติบริจาค 1 ล้าน

นายปรีชา เถาทอง กรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ แถลงข่าวมอบเงินสมทบทุนให้กับกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไวที่ประเทศเนปาล สปช. จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งได้จากการขายภาพ “แสงสุวรรณภูมิ” (วัดเชียงทอง หลวงพระบาง) ที่จัดแสดง ณ งานนิทรรศการ “แสงสุวรรณภูมิ สู่วัฒนธรรมอาเซียน”ระหว่างวันที่ 27 เม.ย.-17 มิ.ย.2558 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

นางเตือนใจ สินธุวณิก ประธานอนุกมธ.ขับเคลื่อนกลยุทธ์การสื่อสารภายนอกผ่านสื่อบูรณาการ กล่าวถึงการรวบรวมเงินบริจาคของสมาชิก สปช. เพื่อสมทบกองทุนดังกล่าว ว่า ขณะนี้ได้รวบรวมเงินบริจาคของสมาชิก สปช. คนละอย่างน้อย 2,000 บาท ได้จำนวนบริจาคกว่า 5 แสนบาทแล้ว ซึ่งเงินบริจาคดังกล่าวได้มาจากการหักรายได้ประจำเดือนของสปช. โดยหลังจากนี้จะนำเงินจาการบริจาคในส่วนอื่นๆ และเงินบริจาคของนายปรีชา เข้าสมทบกองทุนด้วย

***"ช่างปูนปั้น"ชื่อดังเมืองเพชรปลอดภัยดี

นายธานินทร์ ชื่นใจ ช่างเขียนลายรดน้ำ สกุลเมืองเพชรบุรี กล่าวว่า ช่างสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้นชื่อดังเมืองเพชรพร้อมคณะรวม 7 คน ที่ไปปั้นลวดลายประดับพระอุโบสถ วัดกีรติวิหาร เมืองกิติภู ประเทศเนปาล ซึ่งอยู่ในโซนแผ่นดินไหวปลอดภัยดี

**สามเณรเนปาลวัดสระเรียงห่วงบ้านเกิด

ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญ วัดสระเรียง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาส และนายคุณัญพงษ์ ทหารไท ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากโรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญ วัดสระเรียง มีสามเณรชาวเนปาลมาศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ทุกปี ปัจจุบันมีสามเณรจำพรรษา 13 รูป ซึ่งครอบครัวและหมู่บ้านได้รับผลกระทบ ต่างเป็นห่วงบ้านเกิด และชาวเนปาลที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส และต้องการความช่วยเหลือด่วน จึงได้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น

**นศ.ปริญญาโทเฮ"ครอบครัว"ปลอดภัย

นายคารุน ชัคยา อายุ 29 ปี นักศึกษาปริญญาโทชาวเนปาล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ กล่าวว่า มีนักศึกษาชาวเนปาลระดับปริญญาโท ทั้งในวิทยาเขตหาดใหญ่ และวิทยาเขตปัตตานีรวม 14 คน โดยหลังจากทราบเรื่องทางเฟซบุ๊กหลังเกิดเหตุไม่นาน ได้พยายามติดต่อกลับบ้านเกิดในกรุงกาฐมาณฑุ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากระบบสื่อสารเสียหาย จึงส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของน้องชาย วันรุ่งขึ้นได้รับข้อความตอบกลับมาว่า พ่อ แม่ และน้องชายทุกคนปลอดภัย หลังจากนั้นแม่ได้โทรศัพท์มาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าตัวบ้านเสียหายเล็กน้อย ผู้คนในละแวกบ้านส่วนใหญ่ปลอดภัย เนื่องจากจุดศูนย์กลางอยู่ห่างไปกว่า 70 กิโลเมตร

นายเพริท อุปะดายา อารีอา นักศึกษาปริญญาโท สาขาชีวเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนนักศึกษาชาวเนปาล ขอบคุณรัฐบาลไทย คนไทย และทางมหาวิทยาลัยที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเนปาล แม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อพวกเขาเหล่านั้น

**ม.อ.ขอมีส่วนร่วมช่วยเหยื่อแผ่นดินไหว

รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดี ม.อ. กล่าวว่า ม.อ.ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเปิดรับบริจาคเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขที่ 565-471-106-1 ชื่อบัญชี "สงขลานครินทร์เพื่อผู้ประสบภัย" จนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ ขณะที่งานกิจกรรมนักศึกษาและหน่วยส่งเสริมงานอาสาสมัคร ม.อ. จัดกิจกรรม "สงขลานครินทร์เพื่อผู้ประสบภัยเนปาล" วันที่ 30 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. โดยจะมีการแสดงดนตรีจากนักศึกษาเพื่อช่วยระดมทุน ส่วนที่คณะต่างๆ ก็มีการจัดกิจกรรมและเปิดจุดรับบริจาคเช่นกัน

***ชาวเนปาลหมดความอดทนปะทะตำรวจ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางการเนปาลยังมีปัญหาความล่าช้าในการรับมือภัยพิบัติ และการให้ความช่วยเหลือ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มหมดความอดทน

โดยล่าสุด มีผู้คนเป็นพันๆ ไปรอรถโดยสารอยูที่บริเวณหน้าสถานีตั้งแต่เช้ามืดวันพุธ หลังจากที่รัฐบาลรับปากจะจัดหารถบัสพิเศษ 250 คันรองรับประชาชนที่ต้องการเดินทางออกนอกเมืองหลวง แต่กลับกลายเป็นว่า ไม่มีรถบัสให้เห็นแม้แต่คันเดียว กลุ่มคนเหล่านั้นจึงหมดความอดทนและเกิดเหตุปะทะกับตำรวจที่ถูกส่งไปควบคุมสถานการณ์บริเวณใกล้รัฐสภา

ผู้ประท้วงบางส่วนได้บังคับรถบรรทุกที่กำลังขนน้ำดื่มบรรจุขวดคันหนึ่งให้ออกนอกถนน จากนั้นก็กรูขึ้นไปบนรถและช่วยกันโยนขวดบรรจุน้ำให้ฝูงชน

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นคนหนึ่งได้ลากเอาหญิงสาวคนหนึ่งจากรถสกู๊ตเตอร์ของเธอและลงมือทำร้าย จึงถูกพวกที่มุงดูอยู่ร้องห้าม จากนั้นตำรวจจลาจลก็ลากตัวเขาออกไป

นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยปล้นบ้านที่ถูกทิ้งร้าง และสร้างความแตกตื่นด้วยการปล่อยข่าวว่าเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่รวมหลายสิบคน

ความวุ่นวายสับสนที่ปรากฏให้เห็นเช่นนี้ ทำให้ทางการอิสราเอลออกคำแนะนำพลเมืองของตน ให้เดินทางออกจากเนปาล ด้วย “เหตุผลด้านสุขภาพและความปลอดภัย”

สำหรับรัฐบาลเนปาลเองยอมรับว่า ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกกับความเสียหายร้ายแรงที่ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี

***ทางการยอมรับมีจุดอ่อนบรรเทาทุกข์

รัฐมนตรีสื่อสาร มิเนนทรา ริจาล ปราศรัยทางทีวีโดยยอมรับว่า มีจุดอ่อนในการจัดการบรรเทาทุกข์ในบางส่วน อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่า รัฐบาลจะลงมือแก้ไขปรับปรุง

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ แชงเกอร์ ดาส ไบราจี ยังร้องขอให้ต่างชาติส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ รวมถึงทีมค้นหาและกู้ภัยไปช่วยเนปาล แม้ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่บางคนประกาศว่า เนปาลไม่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้วก็ตาม

ไม่เพียงชาวเมืองหลวงเท่านั้นที่กำลังรู้สึกหมดหวัง ชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารก็แสดงความท้อแท้ หลายคนวิงวอนขอโดยสารเฮลิคอปเตอร์ที่ไปแจกจ่ายความช่วยเหลือเพื่อออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ประสบภัยหลายแห่งที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง เนื่องจากทางขาดจากดินถล่ม

***ยอดคนตายทะลุ 5 พันคนแล้ว

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตในเนปาลที่ได้รับการยืนยันจนถึงตอนค่ำวันพุธ อยู่ที่ 5,057 ราย และยังมีอีกราว 100 รายในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดียและจีน

ส่วนตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บมีประมาณ 8,000 คน และสหประชาชาติประเมินว่า มีประชาชนถึง 8 ล้านคนได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ขณะที่ผู้คนหลายแสนคนยังต้องกินนอนข้างถนน ในสวนสาธารณะ และพื้นที่กลางแจ้งอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น