เครือข่ายต้านคอร์รัปชันยื่นหนังสือประธาน กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ เสนอแนวทางแก้ทุจริต แนะจัดตั้งศาลพิเศษพิจารณาคดีเฉพาะ เพิ่มโทษประหารนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐคอร์รัปชันเกิน 5 ล้าน ไม่มีสิทธิลดโทษ
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (22 เม.ย.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น พร้อมคณะ เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอแนวทางการปฏิรูปและแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
นายวีระกล่าวว่า จากบทเรียนการทำงานการป้องกันและปรบปรามการทุจริตมาเป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี ทำให้เห็นปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การแก้ปัญหาคอร์รัปชันในสังคมไทยไม่ประสบความสำเร็จ จึงอยากเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมาย คดีที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันว่าต้องไม่มีอายุความ ต้องมีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาตัดสินคดีคอร์รัปชันเป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตัดสิทธินักการเมืองไม่ให้ลงรับสมัครรับเลือกตั้งอีกตลอดชีวิต และยึดทรัพย์ทั้งหมดหากคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันจริง
ส่วนนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอร์รัปชันจนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และไม่มีสิทธิได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ แต่หากความเสียหายต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีสิทธิได้รับการลดโทษ และความเสียหายที่เกิดต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต และไม่มีสิทธิได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ โดยกำหนดโทษนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐในคดีอาญาขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 20 ปี และเรียกฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งให้ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 2 เท่า
นอกจากนี้ ข้าราชการการเมืองทุกระดับและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแจงบัญชีหนี้สินและทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้แก้กฎหมายให้นักการเมืองทุกระดับไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เกินติดต่อกัน 2 วาระ ส่วนประชาชนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในสมัชชาพลเมือง หรือองค์กรภาคประชาสังคมจะต้องแจงบัญชีทรัพย์สินเช่นเดียวกับนักการเมือง ส่วนองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันหลังได้รับเรื่องร้องเรียนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี