นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน พร้อมคณะ เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอแนวทางการปฏิรูป และแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
ทั้งนี้ นายวีระ กล่าวว่า จากการถอดบทเรียนการทำงานการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตมาเป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี ทำให้ได้พบเห็นปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในสังคมไทยไม่ประสบความสำเร็จ จึงอยากเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมายคดีที่เกี่ยวข้องกับการคอรัปชันว่า ต้องไม่มีอายุความ ต้องมีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาตัดสินคดีคอร์รัปชันเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตัดสิทธิ์นักการเมืองไม่ให้ลงรับสมัครรับเลือกตั้งอีกตลอดชีวิต และยึดทรัพย์ทั้งหมดหากคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันจริง
นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอร์รัปชัน จนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษ หรืออภัยโทษ แต่หากความเสียหายต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษ ส่วนความเสียหายที่เกิดต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ โดยกำหนดโทษนักการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐในคดีอาญาขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 20 ปี และเรียกฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งให้ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 2 เท่า ข้าราชการการเมืองทุกระดับและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแจงบัญชีหนี้สิ้น และทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เสนอให้แก้กฎหมายให้นักการเมืองทุกระดับไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เกินติดต่อกัน 2 วาระ
อย่างไรก็ตาม ส่วนประชาชนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในสมัชชาพลเมือง หรือ องค์กรภาคประชาสังคม จะต้องแจงบัญชีทรัพย์สินเช่นเดียวกับนักการเมือง ส่วนองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน หลังได้รับเรื่องร้องเรียนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
ทั้งนี้ นายวีระ กล่าวว่า จากการถอดบทเรียนการทำงานการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตมาเป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี ทำให้ได้พบเห็นปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในสังคมไทยไม่ประสบความสำเร็จ จึงอยากเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมายคดีที่เกี่ยวข้องกับการคอรัปชันว่า ต้องไม่มีอายุความ ต้องมีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาตัดสินคดีคอร์รัปชันเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตัดสิทธิ์นักการเมืองไม่ให้ลงรับสมัครรับเลือกตั้งอีกตลอดชีวิต และยึดทรัพย์ทั้งหมดหากคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันจริง
นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอร์รัปชัน จนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษ หรืออภัยโทษ แต่หากความเสียหายต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องถูกจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษ ส่วนความเสียหายที่เกิดต่อรัฐมีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท ต้องถูกลงโทษประหารชีวิต และไม่มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษ โดยกำหนดโทษนักการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐในคดีอาญาขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 20 ปี และเรียกฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งให้ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 2 เท่า ข้าราชการการเมืองทุกระดับและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแจงบัญชีหนี้สิ้น และทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เสนอให้แก้กฎหมายให้นักการเมืองทุกระดับไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เกินติดต่อกัน 2 วาระ
อย่างไรก็ตาม ส่วนประชาชนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในสมัชชาพลเมือง หรือ องค์กรภาคประชาสังคม จะต้องแจงบัญชีทรัพย์สินเช่นเดียวกับนักการเมือง ส่วนองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน หลังได้รับเรื่องร้องเรียนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี