ปธ.กกต.ส่งบิ๊กนั่งอนุ กมธ.ร่าง กม.ลูกแล้ว - คาดเลือกตั้งใหม่ให้ใช้กาบัตร หนักใจแจง ปชช.

ประธานกรรมการการเลือกตั้งเผยส่งผู้บริหารระดับสูงนั่งอนุ กมธ.ยกร่างกฎหมายลูกแล้ว แต่รัฐธรรมนูญยังไม่นิ่งจึงทำบางส่วนไปก่อน ด้านผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงาน กกต.คาดเลือกตั้งใหม่คงใช้เครื่องลงคะแนนไม่ทัน ให้กาบัตรไปก่อน ระบุ “ประวิช” หนักใจแจงประชาชนให้เข้าใจระบบใหม่

วันนี้ (15 เม.ย.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของ กกต.เกี่ยวกับการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า ทาง กกต.ได้ให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นอนุกรรมาธิการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฯ แต่ขณะนี้การร่างรัฐธรรมนูญยังไม่นิ่ง เพราะฉะนั้นหลักการการยกร่างประกอบรัฐธรรมนูญฯ จึงดำเนินการเฉพาะในส่วนการจัดการการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง วิธีการลงคะแนน ที่พอจะยกร่างฯ ไปก่อนได้ หรือมาตรการที่จะเสริมเข้าไปเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามเกี่ยวกับการทุจริตการหาเสียง และมาตรการควบคุมการหาเสียงให้มีความเข้มข้นขึ้น เราสามารถยกร่างเตรียมการไว้ได้ แต่ในเรื่องของจำนวน ส.ส.และ ส.ว.นั้น เราก็ยกร่างไว้ที่สำนักงานกกต.ก่อน เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย ทั้งนี้ โครงสร้างทั้งหมดเราใช้โครงสร้างในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 ในการดำเนินการไปก่อน

ด้านนายสมศักดิ์ สุริยมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงาน กกต.กล่าวว่า ขณะนี้ทาง กกต. เสนอไป คือ หน่วยเลือกตั้ง ที่มาของกรรมการ ซึ่งสามารถยกร่างฯ ไว้ก่อนได้ ส่วนคณะกรรมการการจัดการเลือกตั้งจะอยู่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง กกต. แต่ถ้าวิธีการในการปฏิบัติจะอยู่ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ ฉะนั้นจึงต้องรอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยเลือกตั้ง กกต.ก่อนว่ามีความชัดเจนอย่างไร ซึ่ง กจต.กว่าจะยกร่างได้ก็ต้องดูความชัดเจนของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยเหมือนกัน ส่วนในการเลือกตั้ง ส.ว.ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ คงต้องเปลี่ยนกระบวนการเพราะมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม ส.ว.เลือกกันเอง กลุ่ม ส.ว.สรรหา และ ส.ว.ในส่วนของจังหวัดที่มีคณะกรรมการกลั่นกรองก่อนที่จะส่งไปให้ประชาชนเลือก

“การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2559 คงจะใช้เครื่องลงคะแนนไม่ทัน เราอาจจะใช้วิธีเก่าไปก่อน คือ การกาบัตร ส่วนการลงคะแนนแบบโอเพ่นลิสต์ก็ยังไม่นิ่ง ไม่ทราบว่าจะใช้ได้หรือไม่ แต่เท่าที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ระบุไว้ว่าในส่วนของกฎหมายเลือกตั้งจะไม่แก้ไข ส่วนความยุ่งยากในการใช้ระบบแบบโอเพ่นลิสต์แต่เดิมจะต้องเขียนชื่อภาษาไทยซึ่งเขียนยากมากอาจจะมีการผิดพลาดในการสะกดคำ ทางสำนักงาน กกต.เสนอว่าให้ใช้การกาบัตรเหมือนเดิมจะง่ายกว่า เพราะฉะนั้นเราจะต้องจำลองรูปแบบในการเลือกตั้งเสมือนจริงขึ้นมา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เพื่อเตรียมการไว้ ซึ่งการจะทำให้ประชาชนเข้าใจในระบบการเลือกตั้งแบบใหม่นั้น นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วมยอมรับว่าหนักใจ เพราะถ้าประชาชนไม่เข้าใจจะก่อให้เกิดบัตรเลือกตั้งเสียเป็นจำนวนมาก อาจจะมีการร้องคัดค้านมากขึ้น ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น” นายสมศักดิ์กล่าว