xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชมรัสเซียเพื่อนที่เข้าใจ ดันการค้าเป็นหมื่นล้านดอลลาร์ ฝากเชิญ “ปูติน” เยือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ปลื้มรัสเซียเยือน ผลักดันการค้าเป็นหมื่นล้านดอลลาร์ ชวนนำเข้าของไทย-ลงทุน เห็นพ้องสานต่อพลังงาน หวังนักท่องเที่ยวเพิ่ม สนใจร่วมศึกษา-วิจัย ฝากเชิญ “ปูติน” เยือน หยอดรัสเซียให้ความเป็นเพื่อน นายกฯ หมีขาวยกไทยหุ้นส่วนเก่าแก่ จ่อฉลองสัมพันธ์ 120 ปี เพิ่มการค้าไทย พัฒนาสัมพันธ์ ให้ทุน นศ.ไทย ชี้ท่องเที่ยวทำให้ ปชช.สองชาติเป็นมิตร ขอบคุณต้อนรับดี พร้อมเชิญเยือนบ้าง

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวร่วมกับนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย ภายหลังการลงนามความตกลงทวิภาคีระหว่างไทยและรัสเซีย 5 ฉบับ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยินดีที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียมาเยือนไทยในฐานะแขกของรัฐบาล ถือเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 25 ปี และในปี 2560 ก็จะครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ของไทยและรัสเซีย ที่เรามีเจตนารมณ์ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ต่อไปอีก 120 ปีให้แน่นแฟ้นมากขึ้น บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และในเรื่องของเศรษฐกิจ เราจะผลักดันการค้าระหว่างกันให้โตยิ่งขึ้น จากเดิมมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 5 พันล้านดอลาร์สหรัฐไปเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า และได้ขออย่าให้ประเทศไทยเสียดุลย์การค้ามากนัก โดยเชิญชวนให้รัสเซียพิจารณานำเข้าข้าว ยางพารา อาหารแช่แข็ง และสิ้นค้าเกษตรอื่นๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนให้รัสเซียเข้ามาแข่งขัน ประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบลอจิสติกส์ของไทยตามยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้ ส่วนผู้ประกอบการของไทยก็มีความสนใจในการลงทุนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอาหารในรัสเซียซึ่งทั้งสองฝ่ายจะอำนวยความสะดวกนักลงทุนอย่างเต็มที่ และมีความยินดีที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียจะพบปะกับตัวแทนภาคธุรกิจของไทยในวันนี้ รวมถึงเราได้เห็นพ้องสานต่อความร่วมมือด้านพลังงาน ปิโตรเลียม และพัฒนาบุคลากรด้านนี้ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวรัสเซียซึ่งปีที่ผ่านมาเดินทางมาท่องเที่ยวไทยถึง 1.7 ล้านคน จากนี้หวังว่ามีตัวเลขเพิ่มขึ้น โดยยืนยันว่าไทยจะให้การดูแลสวัสดิภาพของนักท่องเที่ยวรัสเซียและชาติอื่นๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า ไทยสนใจร่วมมือกับรัสเซียทั้งการศึกษาและการวิจัยและนำผลวิจัยมาพัฒนาขีดความสามารถ โดยจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กับศูนย์นวัตกรรมสโคลโกโว อินโนเวชันเซ็นเตอร์ นอกจากนี้จะส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ความสัมพันธ์แข่งแกร่งยิ่งขึ้น และยังขอให้คณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน โดยจะมีการประชุมกลางปีนี้ เพื่อนำผลการหารือในวันนี้ไปทำให้เป็นรูปธรรมต่อไป นอกจากนี้ยังได้ขอให้นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียนำคำเชิญไปยังนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น

“คำว่าเพื่อนสำคัญที่สุด เมื่อเพื่อนมีปัญหาก็ต้องการแรงใจ แรงหนุนจากเพื่อน วันนี้รัสเซียให้ความเป็นเพื่อน ผมก็จะรักษามิตรภาพนี้ไว้ ขอขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เข้าใจ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้านนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียกล่าวว่า เราได้มีการหารือร่วมกันมาก่อนหน้านี้ ในการประชุมสุดยอดเอเชียแปซิฟิกตะวันออก ครั้งที่ 9 ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งการหารือวันนี้มีการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงได้ลงนามข้อตกลงทางด้านพลังงาน การเกษตร การพัฒนาคมนาคมขั้นพื้นฐาน ด้านวัฒธรรม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นประเทศหุ้นส่วนที่เก่าที่สุดของรัสเซีย ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และในอีก 2 ปี ที่จะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต โดยจะรักษาประเพณี มิตรภาพ และความเคารพต่อกัน จากนั้นเราจะได้ร่วมทำโครงการที่มีผลสำเร็จร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีสหหพันธรัฐรัสเซียกล่าวต่อว่า สำหรับด้านเศรษฐกิจเราจะเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างรัสเซียกับไทย ถึง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตรการเจริญเติบโตร้อยละ 20 ในปีนี้มีการพัฒนาการค้าที่ดีเพื่อช่วยส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีทางด้านการค้าให้คึกคัก และอยากให้เพิ่มการพัฒนาส่วนประกอบสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง และยกเลิกอุปสรรคทางการค้า นอกจากนี้ยังได้ตกลงทำกิจกรรมร่วมกันในด้านอุตสาหกรรม โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายเครื่องบิน 2 ลำ อีกทั้งบริษัทที่ได้เข้ามาทำกิจการในภูมิภาคนี้ได้มีผลสัมฤทธิ์ ขณะที่รัสเซียยังมีศักยภาพที่ดีทางด้านพลังงาน รวมถึงบริษัทของไทยด้านอุตสาหกรรมการเกษตรที่รัสเซียซึ่งมีแผนให้ขยายสร้างโรงงานทางฝั่งตะวันออกของรัสเซีย รวมถึงมีการพิจารณาโครงการอื่นๆ ด้วย ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐของทั้งสองประเทศ กำลังพิจารณาในเรื่องความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม การวิจัยอวกาศ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-รัสเซีย ในการพิจารณาโครงการในระยะเวลานั้นๆ รวมถึงจัดตั้งคณะทำงานชั้นสูงที่จะมาดูแลโครงการด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการลงทุน

ขณะเดียวกัน เรามีโอกาสพบปะนักธุรกิจไทย-รัสเซีย และในระหว่างการเจรจาเราได้ให้ความสนใจถึงความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม โดยทางรัสเซียจะให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาไทย เพื่อที่จะเข้ามามีโอกาสได้เรียนมหาวิทยาลัยของรัสเซียต่อไป รวมถึงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งหวังที่จะเฉลิมฉลองการครบรอบความสัมพันธ์ 120 ปี โดยจะมีการทำหนังสือเอกสารประวัติศาสตร์ความร่วมมือทางการทูตของทั้งสองประเทศออกมาจำหน่าย

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ทำให้ประชาชนของทั้งสองฝ่ายเป็นมิตร และใกล้ชิดกว่าเดิมคือการท่องเที่ยว ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมากกว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องมีความปลอดภัยในการท่องเที่ยว และการบริการที่ดี โดยนายกรัฐมนตรีของไทย ได้แสดงความเข้าใจพร้อมสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีของไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และลึกซึ้งตนมั่นใจว่า การเจรจาในวันนี้จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และจะเชิญนายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปเยือนประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการต่อไป

สำหรับบรรยากาศทำเนียบรัฐบาลในเช้าวันนี้ พบว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก และพายุลมแรงนานนับชั่วโมง เกิดน้ำเจิ่งนองบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดพิธีต้อนรับนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย และใช้เป็นสถานที่ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น. แต่ปรากฎว่า เมื่อใกล้ถึงเวลาฝนกลับไม่มีทีท่าจะหยุดตก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีบัญชาให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าเปลี่ยนสถานที่ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศจากสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าไปเป็นภายในตึกไทยคู่ฟ้าแทน โดยเป็นลักษณะการต้อนรับฉบับย่อทั้งหมด ขณะที่การรักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบฯ เป็นไปอย่างเข้มงวด นอกจากเจ้าหน้าที่จากทางสหพันธรัฐรัสเซียที่ติดตามมาด้วยจำนวนหนึ่งแล้ว ในส่วนของไทยใช้ตำรวจสันติบาลของทำเนียบฯ ทั้งหมด ประจำตามจุดต่าง ๆ ขณะเดียวกัน ภายนอกทำเนียบฯ ยังมีกำลังทหารคอยดูแลอยู่รอบนอก รวมทั้งจุดสูงข่มรอบๆ

ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับที่รัฐบาลไทยจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯรัสเซีย เมื่อเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ นายกฯรัสเซียได้พบปะกับคณะรัฐมนตรีและคณะทูตานุทูตประเทศต่าง ๆ ประจำประเทศไทย ที่ห้องสีม่วง และลงนามสมุดเยี่ยม ที่ ห้องสีงาช้างด้านนอก จากนั้นนายกฯทั้งสองฝ่ายเข้าหารือข้อราชการกลุ่มเล็ก ที่ห้องสีงาช้างด้านใน และหารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ห้องสีเขียว

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายกฯทั้งสองประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง การจัดทำบันทึกความเข้าใจจำนวน 5 ฉบับ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ประกอบด้วย 1.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทยกับกระทรวงพลังงานสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน โดยฝ่ายไทยที่ลงนามคือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ผู้ลงนามฝ่ายรัสเซียคือ รมว.ทางด้านพลังงานของสหพันธรัฐรัสเซีย 2.แผนการดำเนินกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับรัสเซีย ค.ศ.2015-2017 ผู้ลงนามฝ่ายไทยคือ นายกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ลงนามฝ่ายรัสเซียคือ หัวหน้าทางด้านการท่องเที่ยว 3.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวัฒนธรรมสหพันธรัฐรัสเซีย ผู้ลงนามฝ่ายไทยคือ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ผู้ลงนามฝ่ายรัสเซียคือ รมว.วัฒนธรรมของสหพันธรัฐรัสเซีย

4. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)กับสำนักงานกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ผู้ลงนามฝ่ายไทยคือ นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิตเลขาธิการป.ป.ส.ผู้ลงนามฝ่ายรัสเซียคือ ผู้อำนวยการทางด้านการควบคุมเรื่องยาเสพติด และ 5.บันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกับกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ผู้ลงนามฝ่ายไทยคือ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้ลงนามฝ่ายรัสเซียคือ กระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย

นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงระหว่างภาคเอกชนไทยกับภาคเอกชนรัสเซีย 5 ฉบับ ได้แก่ 1. Memorandum of understanding between Inter RAO – Engineering LLC, Power Machines OJSC and Turbo Machinery (Thailand) Co., Ltd 2.Memorandum of understanding between Research and Production Company “Armastek”, LLC, Russia (hereinafter referred to as AMT) and “PanjawattanaPlastic”, to be PCL, Thailand (hereinafter referred to as PJW) regarding introduction of “ArmastekGFRP” fiberglass reinforcement fittings to the market of the Kingdom of Thailand 3.Memorandum of Understanding between JSC “Russian Railways” and Banpu Public Company Ltd. in relation to the Kalimantan Railway Infrastructure and Sea Coal Terminal Project 4. Memorandum of Understanding between Non-Commercial Partnership for Development and Use of Navigation Technologies (GLONASS) and GEORADIUS Thailand Private Limited และ5. Memorandum of Understanding between Moscow State Regional University and Siam Technology College


กำลังโหลดความคิดเห็น