โอนย้ายให้สำนักงาน ปปง. เข้ามาอยู่ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จากเดิมสังกัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามหนุนการเงินก่อการร้าย - ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
วันนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากวิธีการเสนอรายชื่อบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือ องค์กร ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและสนับสนุนการเงินกับกลุ่มก่อการร้าย เพื่อเสนอชื่อต่อศาลกำหนดให้ขึ้นบัญชีดำ เพราะหากไทยไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ FATF มีมติขึ้นบัญชีรายชื่อให้ไทยกลับไปอยู่ในคำประกาศสาธารณะเหมือนกับปี 2555
จึงทำให้ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นสมาชิกของ FATF ใช้มาตรการตอบโต้ผ่านการทำธุรกรรมกับลูกค้าเอกชนของประเทศไทย และสถาบันการเงินไทย ต้องทำธุรกรรมลำบากมากขึ้น และกระทบกับผู้ประกอบการของไทยในการทำธุรกิจร่วมกับต่างชาติ แม้จะแก้ไขกฎหมาย ปปง.มาแล้ว แต่ยังเป็นอุปสรรคและเกิดข้อขัดข้อง จึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้
นอกจากนี้ ครม. เห็นชอบให้โอนย้ายให้สำนักงาน ปปง. เข้ามาอยู่ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จากเดิมสังกัดกระทรวงยุติธรรม
มีรายงานว่า สำหรับ ทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
2. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...
3. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
มีสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ ดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...
แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมติของหรือประกาศภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหปประชาชาติ
ยกเลิกการกำหนดเงื่อนไขในการพิจารณาพฤติการณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือการดำเนินการแทนของบุคคล หรือตามคำสั่ง หรือภายใต้การควบคุมของบุคคลที่ถูกกำหนด ที่ต้องมีพฤติการณ์ดังกล่าวอยู่ในวันที่ศาลมีคำสั่งเป็นบุคคลที่ถูกกำหนด
แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศและการแจ้งรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีบุคคลที่ถูกกำหนดหรือบุคคลที่ครอบครองทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกกำหนดหรือการดำเนินงานของนิติบุคคล กำหนดให้ความผิดตามที่กำหนดซึ่งนิติบุคคลเป็นผู้กระทำความผิดเป็นความผิดที่เปรียบเทียบได้
2. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “ความผิดมูลฐาน” “ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด” และ “สถาบันการเงิน” เพิ่มลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดฐานฟอกเงิน แก้ไขเพิ่มเติมการรายงาน การแสดงตน การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการสั่งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
ปรับปรุงองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ และการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกำหนดวิธีการสรรหา คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปรับปรุงองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ และการประชุมและการออกคำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรม และกำหนดวิธีการสรรหา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการธุรกรรม แก้ไขเพิ่มเติมการรายงานต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ เมื่อมีการสั่งยับยั้งการทำธุรกรรม
แก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองช่วยเหลือแก่ผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการธุรกรรม กำหนดให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือผู้ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบที่ถูกฟ้องหรือดำเนินคดีให้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด ยกเลิกการกำหนดให้คณะกรรมการธุรกรรม และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทำรายงานสรุปการดำเนินการของคณะกรรมการธุรกรรมต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
กำหนดให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีอำนาจเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยง จัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และส่งเสริมความร่วมมือของประชาชนในการต่อต้านการฟอกเงินและสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย รวมถึงแจ้งรายชื่อผู้มีหน้าที่รายงานที่ฝ่าฝืนไปยังหน่วยงานกำกับดูแล แก้ไขเพิ่มเติมให้เลขาธิการมีหน้าที่ควบคุมดูแลราชการของสำนักงานและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระ โดยขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
กำหนดให้ตำแหน่งเลขาธิการมาจากการคัดเลือกของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการห้ามดำรงตำแหน่งที่กำหนดไว้ภายในสองปีเมื่อพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ ปรับปรุงอำนาจในการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และกำหนดให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มี ใช้และพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนตลอดจนยุทธภัณฑ์ได้ตามพระราชบัญญัตินี้
แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการเก็บรักษาทรัพย์สินก่อนที่จะตกเป็นของกองทุนกรณีที่ไม่มีผู้มาขอรับคืน แก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน แก้ไขเพิ่มเติมการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินส่งเข้ากองทุนและปรับปรุงระยะเวลาการเก็บรักษาทรัพย์สินก่อนที่จะตกเป็นของกองทุนกรณีที่ไม่มีผู้มาขอรับคืน กำหนดแนวทางในการพิจารณาดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดซึ่งสามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นได้
กำหนดโทษผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการซึ่งฝ่าฝืนเงื่อนเวลาในการไปดำรงตำแหน่งหรือเป็นลูกจ้างของหน่วยงานที่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน และแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษและอัตราโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
3. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2542 เพื่อกำหนดให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นหน่วยงานที่อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี