กกจ.เตรียมส่งแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่า 3.5 พันคนจากโควตา 5 พันคน หวั่นผลผลิตน้อย ด้านฟินแลนด์รับปากดูแลไม่ให้ถูกกดราคา ชี้พร้อมยืดเวลาเก็บให้หากรายได้ไม่ถึงเป้า
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานร่วมระหว่าง กกจ.กับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยได้หารือเรื่องการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานเก็บผลเบอร์รี่ป่าที่ฟินแลนด์ ซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ไทยจะจัดส่งแรงงานไปจำนวน 3,500 คน จากที่ฟินแลนด์ขอมาจำนวน 5,000 คน เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลเบอร์รี่ป่าไม่เพียงพอ ทั้งนี้ฟินแลนด์รับปากว่าจะช่วยดูแลแรงงานไทยในเรื่องค่าที่พัก ค่ารถ ชุดกันหนาว รวมถึงราคารับซื้อผลเบอร์รี่ป่าให้มีความเหมาะสม ไม่ให้ถูกกดราคา และหากแรงงานไทยเก็บผลเบอร์รี่ตามกำหนดเวลา 3 เดือน คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน แล้วได้รายได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มา ฟินแลนด์ก็จะต่อวีซ่าเพื่อให้สามารถเก็บผลเบอร์รี่ไปได้อีกสักระยะหนึ่ง
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีบริษัทจัดหางานของไทยที่สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานที่ฟินแลนด์ได้ทั้งหมด 15 บริษัท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดให้ยื่นขอจัดส่งแรงงาน โดยฟินแลนด์ระบุว่าจะช่วยตรวจสอบ หากพบว่าบริษัทใดไม่ได้รับอนุญาตจาก กกจ.และสถานทูตฟินแลนด์ ก็จะไม่อนุญาตให้จัดส่งแรงงาน และหากพบว่าไม่ดูแลแรงงานตามกฎหมายก็จะขึ้นบัญชีดำพร้อมไม่อนุญาตให้จัดส่งแรงงานในปีถัดไป ทั้งนี้ กกจ.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานไทยในฟินแลนด์ และขอเตือนว่าผู้ใดที่สนใจจะเดินทางขอให้ตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่จัดส่งแรงงานกับ กกจ.ก่อนเพื่อป้องกันปัญหาถูกหลอกลวง หากมีการร้องเรียนเข้ามาและทางกกจ.พบว่าไม่ได้รับการรับรอง ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานร่วมระหว่าง กกจ.กับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยได้หารือเรื่องการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานเก็บผลเบอร์รี่ป่าที่ฟินแลนด์ ซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ไทยจะจัดส่งแรงงานไปจำนวน 3,500 คน จากที่ฟินแลนด์ขอมาจำนวน 5,000 คน เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลเบอร์รี่ป่าไม่เพียงพอ ทั้งนี้ฟินแลนด์รับปากว่าจะช่วยดูแลแรงงานไทยในเรื่องค่าที่พัก ค่ารถ ชุดกันหนาว รวมถึงราคารับซื้อผลเบอร์รี่ป่าให้มีความเหมาะสม ไม่ให้ถูกกดราคา และหากแรงงานไทยเก็บผลเบอร์รี่ตามกำหนดเวลา 3 เดือน คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน แล้วได้รายได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านๆ มา ฟินแลนด์ก็จะต่อวีซ่าเพื่อให้สามารถเก็บผลเบอร์รี่ไปได้อีกสักระยะหนึ่ง
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีบริษัทจัดหางานของไทยที่สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานที่ฟินแลนด์ได้ทั้งหมด 15 บริษัท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดให้ยื่นขอจัดส่งแรงงาน โดยฟินแลนด์ระบุว่าจะช่วยตรวจสอบ หากพบว่าบริษัทใดไม่ได้รับอนุญาตจาก กกจ.และสถานทูตฟินแลนด์ ก็จะไม่อนุญาตให้จัดส่งแรงงาน และหากพบว่าไม่ดูแลแรงงานตามกฎหมายก็จะขึ้นบัญชีดำพร้อมไม่อนุญาตให้จัดส่งแรงงานในปีถัดไป ทั้งนี้ กกจ.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานไทยในฟินแลนด์ และขอเตือนว่าผู้ใดที่สนใจจะเดินทางขอให้ตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่จัดส่งแรงงานกับ กกจ.ก่อนเพื่อป้องกันปัญหาถูกหลอกลวง หากมีการร้องเรียนเข้ามาและทางกกจ.พบว่าไม่ได้รับการรับรอง ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่