“บิ๊กตู่” แจ้งข่าวดี! คาด “รถไฟฟ้า 10 สาย” เสร็จภายในปีงบ 61 - 62 สั่ง “คมนาคม” ต่ออายุมาตรการรถเมล์ - รถไฟฟรี 1 ปี ไฟเขียวอุดหนุนค่าบริการ ร.ฟ.ท. 2,991 ล้านบาท - ขสมก. 1,898 ล้านบาท พร้อมสั่งทบทวนไม่คิดเงิน “คนชรา พิการ ทหารผ่านศึก นักเรียน” ให้ ก.คลัง กู้ 5.7 หมื่น ลบ. ใช้โครงการจัดการน้ำ - สร้างถนน
วันนี้ (17 มี.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ในประเด็นเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ว่า รัฐบาลเร่งการทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า 10 สาย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2561 - 2562 เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน ซึ่งต่อไปรัฐบาลจะสร้างการรับรู้ให้มากขึ้นถึงการดำเนินการต่างๆ พร้อมฝากให้ทุกคนช่วยกันสร้างวิกฤตให้เป็นโอกาสสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน และขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับอนาคตของประเทศ และอนาคตของประชาชนว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. เห็นชอบกรอบงบประมาณปี 2559 สำหรับการอุดหนุนค่าบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงิน 2,991 ล้านบาท ส่วนรถเมล์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน 1,898 ล้านบาท และเมื่อทำการสำรวจความเห็นของประชาชน พบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 94 ไม่เคยใช้บริการรถไฟฟรี และร้อยละ 89 ไม่เคยใช้บริการรถเมลล์ฟรี จึงเห็นว่าเป็นการใช้บริการเพียงบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปหาแนวทางการดูแลช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อไม่ต้องคิดค่าบริการ เช่น กลุ่มคนชรา พิการ ทหารผ่านศึก นักเรียน
อีกด้าน นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง
โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เสนอกู้เงินจากต่างประเทศจำนวน 5.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เพื่อใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 2.3 หมื่นล้านบาท และใช้ในโครงการก่อสร้างถนนอีก 3.4 หมื่นล้านบาท
มีรายงานว่า สำหรับ “โครงการและการกู้เงินสำหรับโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน : มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2” ที่ คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติและเห็นชอบ ประกอบด้วย
1. อนุมัติให้ดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน ภายใต้กรอบวงเงิน 78,294.85 ล้านบาท และในกรณีโครงการใดต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบใด ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถเริ่มดำเนินกระบวนการจัดหาพัสดุได้ทันทีหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการโครงการ แต่จะลงนามในสัญญาได้เมื่อได้รับการจัดสรรวงเงินกู้จากสำนักงบประมาณ (สงป.) แล้ว
2. อนุมัติให้ กค. กู้เงินตราต่างประเทศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในกรอบวงเงินไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ตามมาตรา 22 ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และถ้าภาวะตลาดการเงินในประเทศเอื้ออำนวยและจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการเงิน การคลัง และตลาดทุน กค. สามารถกู้เป็นเงินบาทแทนการกู้เงินตราต่างประเทศก็ได้ และอนุมัติให้จัดสรรเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการตามข้อ 1
3. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน พ.ศ. ....
4. มอบหมายให้สำนักงบประมาณ (สงป.) เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้ และจัดสรรเงินกู้ตามกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 9 (1) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอโอนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อ 11 พิจารณากำหนดวงเงินกู้สำรองจ่าย รวมทั้งวิธีการ ขั้นตอน และเงื่อนไขในการจัดสรรเงินสำรองจ่ายตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 15 รวมทั้งการอนุมัติการใช้เงินเหลือจ่ายเพื่อเป็นเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 16
5. มอบหมายให้ สงป. พิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน
ทั้งนี้ มีสาระสำคัญตามรายงานของกระทรวงการคลัง ได้คาดการณ์ว่า ในปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว โดยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.5 - 4.5 อย่างไรก็ดี การเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวของการบริโภคของภาคครัวเรือน รวมถึงความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของตลาดการเงินโลก อาจส่งผลให้การส่งออกฟื้นตัวล่าช้ากว่าการคาดการณ์ การดำเนินนโยบายการคลังจึงยังมีความจำเป็นในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 และวันที่ 3 มีนาคม 2558 เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก มีพื้นที่ดำเนินการกระจายในภูมิภาค และมีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที ในปีงบประมาณ 2558
ดังนั้น จึงเห็นควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ