ฟันเฟืองแม่น้ำ 5 สาย ประสานเสียงผลประชุม “ประยุทธ์” ไม่ได้ชี้แจงอะไรเป็นพิเศษ แต่ขอบคุณและให้กำลังใจ ทำงานอย่างเข้มแข็ง ถามย้ำจะแก้ปัญหาซื้อเสียง - ประชานิยมอย่างไร “วิษณุ” คาดร่างรัฐธรรมนูญโค้งสุดท้าย 4 ก.ย. ทำกฎหมายลูกอีก 60 วัน เลือกตั้งใน 90 วัน ไม่ถกเรื่องประชามติแต่ถ้าจะเอาต้องพีอาร์อีก 3 เดือน ส่วนเรื่อง ป.ป.ช. หวั่นปล่อยเหลือ 4 คนอาจมีปัญหา แต่ยังไม่เคาะต่ออายุหรือไม่
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมแม่น้ำ 5 สาย ว่า การประชุมวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ขอให้ทำงานอย่างเข้มแข็ง ส่วนกรณีการแก้รัฐธรรมนูญที่ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้น อยากบอกให้รู้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญยังไม่สิ้นสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีสิทธิ์ที่จะเสนอขอปรับปรุงแก้ไขได้ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญยกร่างเสร็จสิ้นเมื่อใด ค่อยกลับมาถาม สนช.
ด้าน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า กมธ. ยกร่างฯ ได้รายงานเรื่องการเลือก ส.ส. ส.ว. ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ได้มีการถามถึง จะแก้ปัญหาซื้อเสียง และประชานิยมอย่างไร นอกจากนี้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษา คสช. ยังถามถึงเรื่อง การตั้งอธิบดี และปลัดกระทรวง จำเป็นต้องให้สภาให้ความเห็นชอบด้วยหรือไม่ นอกนั้นแม่น้ำทุกสายส่วนใหญ่เพียงตั้งข้อสังเกต และตั้งคำถาม และเราได้ชี้แจงว่า ขั้นตอนของรัฐธรรมนูญยังอยู่ในร่างแรก ยังไม่แล้วเสร็จ ตนจะนำข้อสังเกตเหล่านี้ไปทบทวน ก่อนที่จะส่งร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกให้สภาปฏิรูปแห่งชาติให้ความเห็นชอบ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวภายหลังประชุมแม่น้ำ 5 สาย ว่า นายกฯ พอใจและขอบคุณแม่น้ำแต่ละสายที่ทำงานตามโรดแมป และตามกำหนดเวลา ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้ให้กำลังใจนายบวรศักดิ์หรือไม่ เพราะถูกวิจารณ์มาก นายวิษณุ กล่าวว่า ท่านพูดรวมๆ ที่ทำงานได้เร็วและขอให้ขยันทำงานต่อไป ไม่ถึงขนาดลงรายละเอียด ส่วนร่างรัฐธรรมนูญกำหนดวันสุดท้ายที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ คือ วันที่ 4 ก.ย. ใช้เวลาทำกฎหมายลูก 60 วัน กฎหมายลูกเสร็จต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 90 วัน ส่วนเรื่องการทำประชามติที่ประชุมไม่หารือ แต่ถ้าทำประชามติก็ไม่สามารถเลือกตั้งช่วงดังกล่าวได้ เพราะต้องมีการประชาสัมพันธ์ทำประชามติอีกประมาณ 3 เดือนหรือเร็วกว่านั้น
นายวิษณุ กล่าวถึงการต่ออายุคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ ว่า ไม่มีการหารือในที่ประชุม แต่หากต่อต้องดูจะต่อด้วยวิธีอะไร ถ้าต่อด้วยการแก้กฎหมายต้องเข้า สนช. แต่ถ้าจะใช้มาตรา 44 เป็นอำนาจ คสช. อย่างไรก็ตาม หากแก้กฎหมายโดย สนช. กรรมการ ป.ป.ช. คงหมดวาระไปก่อน จะเหลือทางเดียว แต่อยู่ๆ จะประกาศเลยโดยไม่สนใจมาตราไหน ใครทำอย่างนั้นก็ผิด เอาอำนาจอะไรมาต่อ กฎหมาย ป.ป.ช. ไม่เหมือนกฎหมายอื่น ถ้าครบวาระต้องพ้นไปทันที จะทิ้งช่วงไปเป็นปีก็ต้องทิ้ง ความจริงทิ้งไว้ไม่เป็นไรยังเหลืออีก 4 คน แต่คนจะเข้าใจหรือไม่
“ผมมานั่งคิดขนาด 9 คน คนยังไม่ไว้วางใจ มาเหลือ 4 คน หากโหวตออกมา 3 ต่อ 1 คนจะคิดอย่างไร เกิดมีบางคดี 4 คนที่เหลือมีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งผมเห็นแล้วมีบางคดีที่ในจำนวน 4 คน อาจมีส่วนได้ส่วนเสีย คือ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง เคยทำงานสอบสวนมาก่อนสมัยเป็นตำรวจ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เคยสอบสวนสมัยเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ถึงเวลาถ้ามีส่วนได้ส่วนเสียไม่สามารถเข้าประชุมได้ เหลือ 3 คนจะทำอย่างไร” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะต่อ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้พูดว่าเปอร์เซ็นต์ต่อมีสูง แค่คิดว่าจะทำอย่างไร ขนาด นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ต่ออายุ จึงต้องคิดรอบด้าน ถ้ามีคนคิดอย่างนายวิชาหลายคนจะทำอย่างไร อยู่ดีๆ ไปประกาศต่ออายุให้เขา วันรุ่งขึ้นเขาลาออกจะทำอย่างไร
