เฟซบุ๊ก “ยิ่งลักษณ์” ร่วมแจมวันสตรีสากล ชี้เสมอภาคเกิดได้ความยุติธรรมต้องมาก่อน รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน โววางยุทธศาสตร์ลดเหลื่อมล้ำไว้ด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี หวังความมุมานะจะทำเพศหญิงยืนสมศักดิ์ศรีไม่แพ้ชาย รับสัดส่วนหญิงทำงานบริหารแผ่นดินน้อย ก่อนโวนโยบายสมัยเป็นรัฐบาล
วันนี้ (8 มี.ค.) เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ได้โพสต์ข้อความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสตรีสากล ว่าตนขอร่วมแสดงความยินดีกับสตรีทั่วโลกที่ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จของสตรีและการเรียกร้องความเสมอภาคเท่าเทียมที่มากขึ้น แม้ความเป็นมาของวันสตรีสากลนั้นจะเริ่มต้นจากการเรียกร้องสิทธิแรงงานของสตรีกลุ่มหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นการจุดประกายให้แก่สตรีทั่วโลกได้เริ่มตระหนักถึงสิทธิของตัวเอง พร้อมทั้งเรียกร้องสิทธิสตรีด้านอื่นๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ปี 2558 ปีที่สตรีทั่วโลกมุ่งสร้างความเสมอภาคให้เป็นจริง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า เมื่อหันกลับมามองประเทศของเราในปัจจุบัน ถ้าเราจะทำให้ความเสมอภาคเท่าเทียมเกิดขึ้นได้ ความยุติธรรมต้องมาก่อน ความยุติธรรมในเจตคติที่มองมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงจะได้รับ อันเป็นการปฏิบัติต่อกัน ด้วยการเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และตนยังเห็นว่าความเสมอภาคในสิทธิของสตรียังคงเป็นปัญหาหลักที่ท้าทายเราอยู่ทุกวันนี้ ดังจะเห็นได้จากการที่ยังคงมีความรุนแรงต่อสตรีอยู่ ซึ่งหมายรวมถึงการกระทำใดๆ ที่เป็นความรุนแรงทางเพศ อันเป็นผลมาจากการทำร้ายร่างกาย ทางจิตใจ ทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน รวมไปถึงการขู่เข็ญ คุกคาม กีดกันสิทธิและเสรีภาพทั้งในที่สาธารณะ และในชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในครอบครัว ในชุมชน หรือ ความเพิกเฉยต่อความรุนแรง และความรุนแรงในสตรีนั้นก็ยังมีอยู่ จนเกิดเป็นธุรกิจทางเพศที่นำเอาสตรีและเด็กมาขายบริการ
“ที่ผ่านมาดิฉันได้วางยุทธศาสตร์ประเทศในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคทางสังคมให้เป็นจริงขึ้น ด้วยการผลักดันให้เกิดพลังของผู้หญิงในการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สตรีมีความรู้พื้นฐานที่จะปกป้องตัวเอง การที่ทำให้สตรีสามารถเข้าถึงแหล่งทุน พัฒนาให้สตรีได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก รวมถึงการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุอีกว่า ในโอกาสนี้ตนในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ขอแสดงความชื่นชมและเป็นกำลังใจในพลังของสตรี และหวังว่าวันสตรีสากลนี้จะเป็นอีกวันหนึ่งที่เราจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อนึกถึงผู้หญิงทุกคน เพื่อให้ผู้หญิงนั้นได้มีโอกาสได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันอย่างที่สตรีทุกคนควรจะได้รับ และได้มีโอกาสในการพัฒนาตนเอง เพราะตนเชื่อว่าด้วยความมุมานะและอดทนของผู้หญิงจะเป็นพลังในการต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มากมาย แล้ววันหนึ่งก็จะได้ยืนขึ้นมามีบทบาทได้อย่างสมศักดิ์ศรีไม่แพ้เพศชายเช่นกัน
ขณะที่เว็บไซต์พรรคเพื่อไทยได้นำบทสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องในโอกาสวันดังกล่าวมาตีพิมพ์ด้วย โดยถามถึงมีมุมมองต่อบทบาทสตรีไทยในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า จะเห็นว่าที่ผ่านมาบทบาทของสตรีในประเทศไทยแม้จะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่สัดส่วนของผู้หญิงที่เข้าไปทำงานในภาคการเมือง ภาคการบริหารราชการแผ่นดิน ภาคธุรกิจ และภาคแรงงานยังถือว่าน้อยอยู่มาก อย่างไรก็ตาม การพัฒนาบทบาทสตรีในช่วงก่อนตนเข้ามาเป็นรัฐบาล มีกลุ่มสตรี และองค์กรหลากหลายกลุ่ม ยังต้องการกลไกในการเชื่อมโยงและส่งเสริมการพัฒนาสตรีที่มีประสิทธิภาพ ตนจึงได้เสนอนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อเป็นกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนไปสู่รูปธรรมที่ชัดเจน โดยดำเนินการครอบคลุมด้วย 4 วัตถุประสงค์ คือ 1. เป็นแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ สำหรับสร้างอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดี 2. เฝ้าระวัง แก้ไขปัญหา พิทักษ์สิทธิ์ และช่วยเหลือสตรีด้อยโอกาส 3. ส่งเสริมบทบาทสตรี สร้างภาวะผู้นำ และ 4. สนับสนุนโครงการที่เป็นการแก้ปัญหาและพัฒนาสตรี ดังนั้นการสานต่อให้กลไกเดินไปอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
เมื่อถามว่า มีคนมองว่าปัจจุบันเราก็เห็นผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน แม้แต่นักการเมือง หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรีผู้หญิงเราก็เคยมีมาแล้ว ตรงนี้แปลว่าปัญหาเรื่องความเท่าเทียม-ความเหลื่อมล้ำ ระหว่างชายและหญิง หมดไปแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า เชื่อว่าในปัจจุบันนี้ยังคงมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในสตรีอยู่มาก ในภาพรวม ส่วนใหญ่มีปัญหาสุขภาพ ปัญหาการศึกษา ปัญหาขาดโอกาส ไม่มีอาชีพ รายได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ไม่มีเวลาพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพราะมุ่งแก้ปัญหาตนเองและครอบครัว จึงต้องการความช่วยเหลือจากสังคมในทุกๆ มิติเพื่อสร้างโอกาสให้สตรีนั้นสามารถยืนบนลำแข้งตัวเองได้เสียก่อน แล้วค่อยพัฒนาศักยภาพด้านอื่นๆ ควบคู่กันไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุต่อว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกด้านหนึ่งคือทัศนคติที่มองคนไม่เท่ากัน การมองสตรีเพศเป็นเพียงวัตถุทางเพศนั้น ส่งผลให้เกิดความรุนแรง สตรีถูกกดขี่ข่มเหงเพิ่มขึ้น เป็นปัญหาของสังคมที่น่าเป็นห่วง ซึ่งต้องช่วยกันปรับทัศนคติและค่านิยมที่ถูกต้องต่อไป เพื่อให้สังคมของเราเป็นสังคมน่าอยู่ มีความเมตตาช่วยเหลือเพศที่อ่อนแอกว่า นั่นไม่ได้หมายถึงแค่สตรีอย่างเดียวแต่หมายรวมถึงเด็ก ผู้พิการและผู้สูงอายุอีกด้วย ที่ผ่านมา รัฐบาลดิฉันได้เน้นนโยบาย ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือปัญหาสังคม ใน 4 เรื่องหลัก คือ 1. การตั้งครรภ์ไม่พร้อม (คุณแม่วัยใส) 2. การค้ามนุษย์ 3. การใช้แรงงานเด็ก 4. การใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาขบวนการการค้ามนุษย์ในปัจจุบันที่ประเทศไทยควรแก้ไขโดยเร่งด่วน
เมื่อถามว่า มองว่าสังคมไทยยังต้องมีการพัฒนาปรับปรุง หรือต้องกระบวนการ กลไกใดที่จะช่วยเสริมสร้างบทบาทของสตรีให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศได้มากกว่าที่เป็นอยู่บ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ตนเห็นว่าเราต้องช่วยกันสร้างกลไกที่ทำให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของสตรี ถือเป็นเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างแรกที่ต้องทำให้เกิดขึ้น เพื่อส่งผลให้สตรีได้รับโอกาสมากขึ้น มีการเปิดพื้นที่ที่จะทำให้สตรีได้แสดงออกซึ่งความสามารถ เพื่อไม่ให้ความแตกต่างในเรื่องเพศมาทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพราะสตรีเราก็มีความสามารถ และที่สำคัญคือมีความละเอียดอ่อน และความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นเช่นกัน
“อยากบอกสตรีไทยทุกคนว่า ให้มองอนาคตข้างหน้าคือโอกาสของเรา ไม่ควรให้เรื่องความแตกต่างทางเพศมาเป็นปัญหาและอุปสรรค เพื่อเราจะได้ใช้ศักยภาพและพลังที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนในการต่อสู่ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลาย เพื่อเราจะได้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ดิฉันเชื่อว่าทุกท่านทำได้ ดิฉันพร้อมเป็นกำลังใจและขออยู่เคียงข้างสตรีไทยทุกคน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ