xs
xsm
sm
md
lg

“ไพบูลย์“” ชี้กลุ่มเสียผลประโยชน์ที่เคลื่อนไหว พระส่วนใหญ่ไม่เห็นใครเดือดร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ไพบูลย์ นิติตะวัน (แฟ้มภาพ)
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปพุทธศาสนา ไม่สน “พระเมธีธรรมาจารย์” นำเครือข่ายบี้ยุบคณะกรรมการฯ ระบุเป็นธรรมดาที่กลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์จะมาเคลื่อนไหว แนะให้ดูพระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่เห็นมีใครเดือดร้อน งงโฆษก มส.แถลงไปคนละทางกับเลขาฯ มส. เรียกร้องเคลียร์ให้ชัดใครพูดจริง ใครพูดเท็จ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวถึงกรณีพระเมธีธรรมาจารย์ ประธานสงฆ์สังฆสามัคคี และกลุ่มภาคประชาชนบางส่วนยื่นหนังสือขอให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.สั่งยุบคณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นจะเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อปกป้องคุ้มครองมหาเถรสมาคม (มส.) และพุทธศาสนา ว่าเป็นสิทธิของผู้ที่เห็นต่างในการทำหน้าที่ของตน แต่ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ในฐานะ สปช.ที่ได้รับมอบหมายรับผิดชอบศึกษาวิเคราะห์ปัญหาสำคัญของพุทธศาสนาในสังคมไทย เมื่อเห็นปัญหาแล้วก็จำเป็นที่ต้องเสนอให้แก้ไขและเป็นธรรมดาที่คนบางส่วน ย่อมมีผลกระทบต่อกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์ และไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเหล่านั้นหรือไม่ อย่างไร เป็นเรื่องที่สังคมต้องคิด

นายไพบูลย์กล่าวว่า จะให้ตนละเว้นไม่ทำหน้าที่นั้นคงไม่ได้ รวมถึงการข่มขู่ใดๆ ก็ไม่มีผลให้การทำงานนี้ต้องสะดุดลง แต่อยากให้สังคมจับตามองว่าผู้ที่ออกมาคัดค้าน เป็นกลุ่มใด ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ได้ประโยชน์จากสถานะทางสงฆ์ที่เป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งมีส่วนที่ได้มาทั้งลาภ ยศ สรรเสริญที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการคัดค้านเพื่อไม่ให้มีการเปิดเผย หรือให้มีกฎหมายที่จะมาตรวจสอบทรัพย์สินของวัดก็ย่อมสะท้อนทัศนคติได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าปัญหาหนึ่งของพระพุทธศาสนาในบ้านเรา คือ การได้มาของทรัพย์สินที่วัดหรือพระไม่ต้องแสดงต่อสังคม จนเป็นช่องว่าง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา ในการจะเปลี่ยนแปลงปิดช่องว่างให้ดีขึ้นก็ย่อมสร้างความไม่พอใจในการปฏิรูป

ผู้สื่อข่าวถามว่า บางฝ่ายระบุว่ากรรมการชุดนายไพบูลย์ทำเช่นนี้เป็นการทำให้สงฆ์แตกแยกแบ่งฝ่าย นายไพบูลย์กล่าวว่า ต้องถามว่าใครกันแน่ที่ทำให้คณะสงฆ์แตกแยก ยืนยันว่าไม่ใช่กรรมการชุดนี้แน่เพราะเราแค่ศึกษาปมปัญหาที่เคยมีอยู่ และยังเกิดขึ้นอยู่ เมื่อเจอปัญหาก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง และเรื่องสงฆ์แตกแยกก็เป็นปัญหาที่มีอยู่ก่อนแล้วแต่พยายามปกปิดกันต่างหาก พอถูกยกปัญหาใหญ่เกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดที่ถูกนำมาใส่ชื่อของบุคคลก็หันมาใช้ข้ออ้างเรื่องนี้ว่าทำให้สงฆ์แตกแยก ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่เป็นการฉวยโอกาสนำมาอ้างเพื่อบิดเบือนประเด็นในการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องเท่านั้น

“ขอให้ดูพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เดือดร้อนใดๆ เลย เพราะท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หากมีความบริสุทธิ์ใจจริง และยึดมั่นในพระธรรมวินัย พระดีๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีเห็นท่านใดเดือดร้อน เพราะรู้เจตนาว่าเราต้องการแก้ไขปัญหาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ไม่ได้ปกป้องบุคคลเป็นการเฉพาะ”

นายไพบูลย์กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวก็สับสน เพราะล่าสุดนายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) ออกมาระบุว่า ที่ประชุม มส.เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ไม่มีการลงมติใดๆ เกี่ยวกับพระธัมมชโย โดยยังไม่ได้พิจารณาด้วยว่าต้องปาราชิกหรือไม่แต่อย่างใด ขัดแย้งต่อคำแถลงของพระพรหมเมธี กรรมการและโฆษก มส.ออกมาแถลงว่าพระธัมมชโยยังไม่ขาดปาราชิกขาดจากความเป็นภิกษุ เพราะได้มีการคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้วัดแล้ว ไม่ถือเป็นการขัดต่อพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 26 เม.ย. 2542 แต่อย่างใด ยิ่งสร้างความสับสนต่อสังคม แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าพระพรหมเมธีน่าจะเป็นตัวแทน มส. ในขณะที่นายพนมเป็นเพียงเลขาฯ มส.เท่านั้น จึงเห็นควรที่จะชี้แจงต่อสังคมว่าท่านใดที่พูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในการประชุม มส. ทั้งที่เป็นเรื่องที่โฆษก มส.ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ออกมาแถลงเองทั้งสิ้น ทั้งนี้ตนได้ทำหนังสือไปถึง มส.เพื่อขอรายงานการประชุมล่าสุดมาศึกษารายละเอียดแล้ว

นายไพบูลย์กล่าวว่า ส่วนการเชิญตัวแทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาชี้แจงการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย พบว่ามีข้อมูลหลายส่วนชี้ชัดว่าเส้นทางการเงินของพระธัมมชโยมีข้อสงสัยหลายจุด จึงขอให้ ปปง.เร่งอายัดบัญชีเงินของพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ เพื่อปกป้องรักษาประโยชน์จากความเสียหายของผู้ที่ฝากเงินไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เสียหายจำนวนมาก เพราะพบว่ายังมีเงินในบัญชีของพระธัมมชโยอีกกว่า 300 ล้านบาท และมีเงินในชื่อวัดพระธรรมกายอีกกว่า 400 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น