นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ระบุว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ขาดปาราชิก เนื่องจากได้คืนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับวัดแล้ว จึงไม่ถือเป็นการขัดต่อพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อปี 2542 โดยกรรมการเห็นว่ามติดังกล่าวน่าจะมีปัญหาเรื่องความชอบทางกฎหมาย และขัดต่อพระธรรมวินัย จึงเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ
พร้อมกันนี้ กรรมการฯ ได้เชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าให้ข้อมูลคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีปัญหาสหกรณ์ฉ้อโกงเงินประชาชนไปออกเช็คให้กับพระธัมมชโย พระผู้ช่วย และวัดพระธรรมกาย รวมเกือบ 900 ล้านบาท ซึ่งกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด ปปง.ไม่อายัดทรัพย์สินของพระธัมมชโย คืนให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ กรรมการฯ ต้องการให้มีการตรวจสอบว่าเงินที่ได้นำไปก่อสร้างอาคารนั้น สามารถอายัดได้หรือไม่
พร้อมกันนี้ กรรมการฯ ได้เชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าให้ข้อมูลคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีปัญหาสหกรณ์ฉ้อโกงเงินประชาชนไปออกเช็คให้กับพระธัมมชโย พระผู้ช่วย และวัดพระธรรมกาย รวมเกือบ 900 ล้านบาท ซึ่งกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด ปปง.ไม่อายัดทรัพย์สินของพระธัมมชโย คืนให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ กรรมการฯ ต้องการให้มีการตรวจสอบว่าเงินที่ได้นำไปก่อสร้างอาคารนั้น สามารถอายัดได้หรือไม่