“หลวงปู่พุทธะอิสระ” ไม่เห็นด้วยมติมหาเถรสมาคม “ธัมมชโย” ไม่ปาราชิก เรียกร้องคว่ำบาตร กรรมการ มส. พร้อมเชิญชวนผู้ศรัทธาในพระธรรมวินัย มาร่วมทำบุญ ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ความเห็นในเฟซบุ๊ก กรณีที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นประธานการประชุม มีมติพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย ไม่ขาดปาราชิกขาดจากความเป็นภิกษุ แม้จะมีพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ลงวันที่ 26 เมษายน 2542 เนื่องจากได้มีการคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับวัด ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาก่อนหน้านี้ โดยโพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยกับมติ มส.
หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เรื่องชี้ขาดต่อพฤติกรรมของธรรมกาย และนายธัมมชโย ที่ขัดต่อหลักของพระธรรมวินัยและด้วยพฤติกรรมของนายธัมมชโยที่ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ เพราะยักยอกทรัพย์ของวัด โดยพระลิขิตนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 5เมษายน 2542 และตามอีก 2 ฉบับ แต่ มส. มีการเมืองแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทำให้ ธัมมชโย รอดมาได้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชทรงเจ็บปวดต่อพฤติกรรมช่วยพวกของกรรมการมหาเถรสมาคมบางคน
หลวงปู่พุทธะอิสระ เรียกร้องให้พี่น้องประชาชนคนทั้งชาติคว่ำบาตรต่อกรรมการมหาเถรสมาคมไม่ไหว้ ไม่กราบ ไม่เคารพ ไม่เอื้อเฟื้อ ไม่ให้ข้าวให้น้ำ ไม่นิมนต์ ไม่มอง ไม่พูดคุย จนกว่าคนพวกนี้จะรู้สำนึกถึงหน้าที่ของตน และกลับมาทำคุณแก่พระพุทธศาสนา จึงจะเลิกคว่ำบาตร
หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังโพสต์เชิญพี่น้องผู้มีใจรักและศรัทธาในพระธรรมวินัย มาร่วมทำบุญ ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในวันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 13.00 น. โดยพร้อมเพรียงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลวงปู่พุทธอิสระ พร้อมคณะ เดินทางไปยังวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อยื่นหนังสือและสังฆทานที่ประกอบด้วย ดอกไม้จันท์ ฟัก กางเกงในและอื่นๆ ต่อพระพรหมโมลี(สุชาติ ธมมรตโน)ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ(ตัวแทนเจ้าอาวาส) เพื่อทวงถามกรณีที่สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริยายกฯ ทรงมีพระบัญชาเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2542 ให้จัดการปัญหาวัดพระธรรมกายขั้นเด็ดขาด โดยมีพระลิขิตให้กรมการศาสนา จับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) สึกเพราะปาราชิก ขาดจากความเป็นสงฆ์
