xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ รู้เจอยิงคำถาม เมินร่วมถกพลังงาน แย้มให้ ปชช.ส่วนใหญ่ตัดสิน ยันไม่มีธง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ย้ำไม่ร่วมคุยเวทีพลังงาน ไม่แคร์ภาค ปชช.ขอเลื่อน รอฟังผ่านทีวี รู้หวังยิงคำถาม ยันไม่มีธง ทำตาม กม. แจงกลุ่มค้านหลายรอบแล้วขอให้คุยเวทีรัฐ ต้องให้จบ มี.ค.จะแก้ตรงไหน โวยไม่ได้ฟังด้านเดียว เปิดสัมปทานรัฐไม่ต้องเสี่ยง แนะหลังคุยจบ ให้ถาม ปชช.ส่วนใหญ่หนุนฝั่งไหน แย้มทำโพลหนึ่งวิธีในหัว บ่นสองฝ่ายไม่ยอมกันมีปัญหาก็โทษตนอีก

วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเวทีกลางแสดงความคิดเห็นการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 21 ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ภาคประชาชนผู้คัดค้านต้องการให้นายกฯ เข้าร่วมรับฟังด้วยตัวเอง หากนายกฯ ไม่เข้าร่วมจะขอให้เลื่อนเวทีดังกล่าวออกไปก่อนว่า แล้วแต่การตัดสินใจของเขา เรื่องนี้ตนพูดไป 3 วันแล้ว และเวทีแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 แม้ตนจะอยู่ตรงไหนก็ฟังอยู่แล้ว เข้าใจหรือไม่ และตนก็อยากจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรเพิ่มเติมกันทั้งสองฝ่าย ที่ผ่านมาก็ฟัง ทำไมตนต้องไปนั่งท่ามกลางตรงนั้น ตนให้ความสำคัญทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องพลังงานอย่างเดียว ปัญหาประเทศชาติมีมากมายหลายอย่าง และทำไมต้องไปฟังเองทุกอย่าง ถึงไม่ได้ไปนั่งอยู่ตรงนั้นก็ต้องฟัง ทีวีก็มีถ่ายทอด ระหว่างนั้นตนก็ฟังไปด้วยและทำงานอื่นไปด้วย

“ผมทราบดีว่าจะมีการมาตั้งคำถามอะไรใส่ผมด้วยซึ่งมันไม่ใช่เรื่อง ผมเป็นผู้ที่จะตัดสินใจฟังความคิดเห็นจากทั้งสองฝ่าย ทั้งสองข้าง ทั้งรัฐบาล ทั้งประชาชน ผมเป็นผู้นำองค์กรของฝ่ายรัฐก็ต้องฟังทั้งสองฝ่าย อะไรที่เป็นกติกาที่เป็นกฎหมายก็ต้องมาว่ากัน การตัดสินใจไม่ใช่ตัดสินใจง่าย ไอ้นี่ได้ไอ้นี่ไม่ได้ ไอ้นี่ใช่ไอ้นี่ไม่ใช่ มันต้องผ่านกลไกอีก และพอฟังทั้งสองฝ่ายเสร็จแล้วก็จะสรุปออกมา เพื่อหาทางออกให้ได้ว่าจะไปทางไหน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 20 ก.พ.ยืนยันว่าจะมีเวทีดังกล่าวอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องมีอยู่แล้ว แต่ถ้าใครจะไม่มาตนก็ไม่รู้ แต่ก็ได้เปิดเวทีให้แล้ว แล้วไปพูดข้างนอกจะได้ไหม ไปเคลื่อนไหวตรงนั้นตรงนี้มันก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กติกาก็มีกันอยู่ เนี่ยเปิดเวทีให้แล้วก็ไม่มาพูด แล้วจะมาบังคับอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่อง ตนทำให้นี่ ก็ถือว่าฟังแล้ว เมื่อถามว่า เวทีครั้งนี้มีการตั้งธงของแต่ละฝ่าย นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานไม่ใช่ธง เขาทำตามหน้าที่ ไม่มีธง หน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ตาม พ.ร.บ.พลังงานเขียนว่าอย่างไรเขาก็ทำตามกฎหมาย ไม่ทำก็ไม่ได้ ถือว่าผิด แต่วิธีการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายแล้วจะเปลี่ยนหลักการเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ มันแก้ไขเสร็จหรือยัง ถ้าแก้ไขยังไม่ได้จะทำอย่างไร ก็ต้องไปหาทางแก้ไขให้ได้ ถ้าแก้ไขได้เขาถึงจะทำได้ ผลประโยชน์จะคุ้มค่าหรือไม่ไปว่ามา มันขึ้นอยู่กับข้อมูลรายละเอียดข้างใน วันนี้ข้อมูลรายละเอียดไม่ตรงกันเลย จะไปกันอย่างไร ภาคประชาชนก็ต้องฟัง กลุ่มที่มาต่อต้านคัดค้านก็กลุ่มเดิมๆ อยู่แล้ว ก็มีการชี้แจงมาหลายครั้ง ที่ผ่านมาก็เปิดเวทีภายนอก พระก็เปิด เปิดเองก็เปิด และวันนี้มาถึงรัฐบาลก็สุดท้าย ซึ่งตนไม่อยากเห็นการเดินไปพูดที่นี่ที่โน่นโดยที่ไม่ให้รัฐได้มีโอกาสชี้แจง ถ้าชี้แจงแล้วรัฐมีเหตุผลสู้ไม่ได้ เราก็มาทบทวนว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป

เมื่อถามว่า ที่นายกฯระบุว่าทราบว่าจะมีการมาตั้งคำถามอะไรใส่ การที่นายกฯ ไม่เข้าร่วมเท่ากับเป็นการเลี่ยงการเผชิญหน้า จากฝ่ายคัดค้านบางส่วนที่อาจตั้งธงมาและไม่รับฟังภาครัฐใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อีกฝ่ายเขามีธงหรือไม่ แต่ฝ่ายรัฐมีธงเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ มันมีผลประโยชน์ตรงไหน ตนไม่มี รัฐก็ไม่มี และคิดว่าที่มาไม่กล้ามี วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ไม่มี มีไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าเท้าความไปในอดีต แต่ที่ผ่านมาอดีตก็คืออดีต วันนี้ทำปัจจุบันให้มันดี แล้วย้อนหลังกลับไปแก้อดีตจะแก้ได้หรือไม่ ถ้าแก้ได้ก็แก้ ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะมันเป็นอดีต เข้าใจไหม ฉะนั้นอย่ามาบอกว่าตั้งธง รัฐตั้งธงไม่ได้ รัฐตั้งธงได้คือตามกฎหมาย กฎหมายเขาให้ทำก็ต้องทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ ประชาชนไม่เห็นชอบ และมีกฎหมายตรงไหนที่ให้ประชาชนมามีส่วนร่วมตรงนี้ ถ้าไม่มี เห็นว่ามันถูกต้องทำ ก็ต้องแก้กฎหมาย ก็แค่นั้น รัฐต้องถือกฎหมายเป็นหลัก

เมื่อถามว่า กระทรวงพลังงานเดินหน้าเปิดสัมปทาน แต่ฝ่ายคัดค้านบอกให้ไขแก้กฎหมายและรอระยะเวลาไปก่อน นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดู รอถึงเมื่อไหร่ ถ้าต้องแก้กฎหมายเสร็จภายใน 3 เดือน ทางนี้ยอมไหม มันก็ต้องมาพูดกัน ถ้าจะต้องแก้กฎหมายก็ดูว่าต้องแก้ตรงไหน ก็แก้กฎหมายและส่งให้กฤษฎีกาดู และเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาให้เสร็จภายใน 3 เดือน และถามว่า 3 เดือน กฎหมายออกมาแล้วต้องเปิดสัมปทานรับได้หรือไม่ หรือจะไม่รับอีก และจะไปอย่างไร เมื่อถามว่า รัฐบาลตั้งใจจะให้เวทีนี้เป็นเวทีสุดท้าย แล้วตัดสินใจเลยหรือไม่ว่าจะเปิดสัมปทานหรือไม่เปิด นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องหาคำตอบออกมาให้ได้ เพื่อให้ตนตัดสินใจ ถ้าตัดสินใจตามกฎหมายตามกติกาก็ต้องเปิดสัมปทาน กฎหมายว่าอย่างนั้น

เมื่อถามว่า แสดงว่ามติของคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่จะเปิดในวันที่ 16 มี.ค.ก็จะเลื่อนออกไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในเมื่อขยายเวลาไปถึงวันที่ 16 มี.ค. ก็ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายในเดือน มี.ค. หาคำตอบมาให้ได้ว่าจะแก้อะไรตรงไหน มีมาตรการอะไรออกก็ออกมา ถ้าจะเลื่อนอีกก็ต้องหาเหตุผลเลื่อนมา เมื่อถามว่า ฝ่ายคัดค้านมองว่านายกฯฟังเหตุผลด้านเดียว นายกฯ กล่าวว่า ด้านเดียวด้านไหน ปัดโธ่ ตนเอามาดูทั้งหมด ฝ่ายนี้พูดอะไรมาก็เอามาจดมาเขียนดูอยู่ข้างบนเป็นปึก รัฐว่าอย่างนี้อีกฝ่ายว่าอย่างนี้ โดยเอาแต่ละอันมาเทียบกัน และก็เห็นว่ามีบางอย่างไม่ตรงกัน และทำอย่างไรจะตรง ในเมื่อรัฐมีตัวเลขอ้างอิงเยอะแยะ อีกฝ่ายจะพูดลอยๆ ไม่ได้ ต้องมีเหตุผลเชิงพื้นฐาน และเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มา น้ำมันมีมากน้อยอย่างไร หากเป็นสัมปทาน จะแบ่งผลผลิตอย่างไร รัฐจะเสียเปรียบตรงไหน แต่ถ้าเปิดสัมปทานรัฐไม่ต้องรับผิดชอบการลงทุน หรือค้นแล้วเจอไม่เจอ และเราก็ได้ค่าภาษี ค่าสัมปทาน นั่นคือรัฐไม่ต้องเสียเงินลงทุน ไม่ต้องอยู่ในความเสี่ยงตรงนั้น เพราะถ้าสำรวจเองแล้วไม่พบก็จะเสียเงิน ซึ่งที่ผ่านมาบางอันสำรวจมาถึงวันนี้เสียเงินไปหลุมละหลายร้อยล้านยังไม่พบเลย เขาก็ยังต้องสำรวจต่อ นี่คือสิ่งที่เป็นความเสี่ยง และถ้าเป็นระบบแบ่งปันผลประโยชน์ ถ้าปริมาณน้ำมันน้อยก็จะมีค่าเท่ากัน เว้นแต่พบน้ำมันมาก แต่จะมาจะน้อยอะไรจะเป็นตัวประกัน อะไรจะเป็นตัวชี้วัดยังไม่รู้ ก็ต้องเอาวิทยาศาสตร์มาว่ากัน และเราก็ต้องลงทุนร่วมสำรวจกับภาคเอกชน ถ้าไม่พบเราก็เสียเงินเปล่า แต่ถ้าพบเป็นจำนวนน้อยจะคุ้มค่าหรือไม่ก็ยังไม่รู้ อีกวิธีหนึ่งคือรัฐลงทุนทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มสำรวจและขุดเจาะ ตรงนี้เราพร้อมหรือยังซึ่งเราไม่พร้อมในเรื่องการขุดเจาะ แต่เป็นหน่วยบริหารจัดการ เรื่องกฎหมาย ข้อมูลธรณีวิทยา เราไม่ได้มีบริษัทน้ำมันขุดเจาะอยู่ในมือ รัฐบาลไม่มี

เมื่อถามว่า นายกฯมีแผนสำรองหรือไม่ถ้าเวทีกลางยังมีความเห็นไม่ตรงกัน นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องหาข้อยุติ เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ภาครัฐกับภาคประชาชนที่คัดค้านต้องเผชิญความคิดที่เห็นต่างกันต้องมาเผชิญหน้ากัน นายกฯ กล่าวว่า คงลำบากที่ตนจะไปตัดสิน ในเมื่อตนห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวเขาก็ยังทำ จึงให้มาพูดกันตามช่องทาง เพื่อหาข้อยุติอะไรรับกันได้ และอะไรรับกันไม่ได้ ไม่ใช่ร้อยเรื่องรับกันไม่ได้ทั้ง 100 เรื่อง แต่หาก 10 เรื่องรับกันได้ 3 เรื่องก็ควรจะทำไป 3 เรื่องก่อน อีก 7 เรื่องก็ไปหากกฎหมายมา รัฐกับประชาชนมันต้องเจอกันอย่างนั้น ถ้ารัฐบอกว่าสิ่งนี้จะต้องทำแต่ประชาชนไม่ยอม ซึ่งบางอย่างเป็นเรื่องของนโยบาย และบางอย่างเป็นเรื่องการบริหารจัดการ วันหน้าถ้ามีปัญหามาก็จะมาต่อว่ารัฐว่าทำไม่ไม่ทำ มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่แล้ว ฉะนั้นทำอย่างไรจะไม่ให้เกิดปัญหาตรงนี้ เราต้องการลดแรงกดดันตรงนี้

“ผมอยากให้ไปถามประชาชนคนทั้งประเทศส่วนใหญ่ เขามีความเห็นอย่างไร วันนี้มีกลุ่มนี้กับรัฐ แล้วกลุ่มที่เขายังไม่ได้พูดอยู่ตรงไหน ลองถามสิ สื่อลองถามคนอื่นๆว่าอย่างไร หลังจากการพูดคุยเวทีกลาง ถ้าฟังข้างนี้ข้างเดียว ก็จะเป็นข้อมูลเดิมของฝ่ายที่ต่อต้าน ถ้าฟังรัฐก็เป็นข้อมูลที่เขามีอยู่ ด้วยหลักการเดิม ถ้าฟังสองพวกก็มีอยู่แค่นี้ ก็จะขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้หรือเปล่า ผมไม่รู้ ต้องไปถามคนที่เหลือเขาฟังแล้วเขาเข้าใจอย่างไร เพราะมีการถ่ายทอด ต้องไปเรียกคนมาฟังเยอะๆ ดูซิเขาเชื่อใคร ให้เขาตัดสิน อย่าให้ตัดสินโดยคนจำนวนไม่กี่คน เพราะประเทศไทยมีตั้ง 60 กว่าล้านคน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯอยู่ตรงกลางระหว่างรัฐกับฝ่ายที่คัดค้าน จะตัดสินใจอย่างไร เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกรุมสกรัม นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องรอฟังผล จะถามให้ตนใช้อำนาจใช่หรือไม่ ยืนยันสัมปทานออกไป อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่ตนใช่ไหม ต้องว่าอย่างนั้นใช่หรือไม่ เมื่อถามว่า ไม่ได้บอกจะให้ใช้อำนาจ แต่หมายความว่าคนที่ตัดสินคือตัวนายกฯ และท้ายที่สุดจะถูกรุมสกรัมจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่ง พร้อมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมมาถามตน ต้องไปถามคนที่จะมารุมสกรัมโน้น ถ้าบ้านเมืองลุกลามบานปลาย มีการตีกันทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะเรื่องพลังงาน ใครจะรับผิดชอบ เขารับผิดชอบด้วยหรือไม่ ถ้าต้องฝ่าฝืนกฎอัยการศึกที่เขาประกาศมา พอถูกดำเนินคดีแล้วโวยวาย และมีผลกระทบภาพออกไปต่างประเทศ เสียหายหรือไม่ ใครเสียหาย ประยุทธ์ก็เสียหายอีก ก็จะมาโทษตนอีก

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจะทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลังเปิดเวทีกลาง นายกฯ กล่าวว่า ข่าวจากไหน แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีการปฏิบัติ ซึ่งมีเยอะแยะ จะมาถามเสียหมด มันต้องมาสิ่งที่เตรียมคิดเก็บไว้ในสมอง ไว้แก้ปัญหา ต้องมารู้ทุกเรื่องที่อยู่ในหัวฉันหรอ หัวจะแบนอยู่แล้ว











กำลังโหลดความคิดเห็น