xs
xsm
sm
md
lg

เจรจา “แม้ว” ปรองดองกับโจร แลกสัญญาเลิกป่วน!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน


หวังว่าเป็นเพียงข้อเสนอเลอะเทอะอย่างหนึ่งที่ไม่มีทางเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้เลย กับความพยายามที่จะให้มีการเจรจากับ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี หนีหมายจับในคดีทุจริตหลายคดี คนที่เคยถูกศาลตัดสินยึดทรัพย์จากการทุจริตจำนวนกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท คนที่ถูกกล่าวหาว่าชักใยปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ที่สำคัญ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวกันนี้แหละยังถูกระบุพร้อมหลักฐานปรากฏหลายครั้งว่ามีพฤติกรรมหมิ่นเหม่กระทบกระเทือนต่อสถาบันเบื้องสูง แต่ก็ยังมีคนเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติไปเจรจาปรองดองกันถึงต่างประเทศ

แน่นอนว่าข้อเสนอที่ว่าอาจจะมาจากใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บางคน คนในกองทัพ คนในรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเป็นพวกมองโลกสวย มองในมุมไร้เดียงสาประเภท “ถ้าเรายื่นมือไปให้เขาจับแล้วจะได้มิตรภาพกลับมา” แบบหวานแหววโลกสีชมพูน่าเคลิบเคลิ้ม หรือกระทั่ง “โยนหินถามทาง” ก็ต้องบอกกลับไปทันทีว่า “เสียเวลาเปล่า” และไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย ที่สำคัญนอกจากเป็นการเข้าใจผิดแล้วยังเป็นการกระตุ้นความโกรธของชาวบ้านขึ้นมาอีก

เพราะปัญหาที่แท้จริงมันไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้ง ความแตกความสามัคคีของคนในชาติ แต่เป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่างความถูกกับผิด ระหว่างคนที่ต้องการทุกอย่างตัดสินกันตามกระบวนการยุติธรรม กับพวกที่พยายามละเมิดกฎหมาย และเอาเปรียบคนอื่นในสังคมเท่านั้น เป็นเรื่องของคนโกงที่ถูกชาวบ้านจับได้แล้วพยายามไล่ออกไป แต่ก็ยังขัดขืนและต่อสู้เจ้าทรัพย์หรือเจ้าของบ้านเท่านั้น ไม่มีเรื่องใดที่ซับซ้อน

แต่ที่ยังวุ่นวายไม่จบเป็นเพราะโจรแก๊งนี้มันเป็นขบวนการใหญ่ มีเครือข่ายกว้างขวาง เพราะทำการปล้นมานานซื้อลูกน้องทุกประเภทเข้ามาทำให้การกำจัดทำได้ยาก

อุปมาเหมือนกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้มีความผิด มีข้อกล่าวหามากมาย เป็นเรื่องของคดีอาญาถูกฟ้องในคดีทุจริต ซึ่งมองมุมไหนมันก็ไม่มีทางปรองดองกันได้ หรือละเว้นโทษได้ มีทางเดียวก็คือต้องพิสูจน์ในชั้นศาล พิสูจน์ข้อกล่าวหาให้ได้เท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องรอให้ศาลยุติธรรมตัดสินออกมาก่อนถ้าผิดก็อาจขอพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอน เหมือนคนทั่วไป

ลักษณะเดียวกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นคนในเครือข่ายเดียวกัน กำลังจะถูกฟ้องในคดีอาญาจากกรณีปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว และต่อมาทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะส่งหนังสือไปถึงกระทรวงการคลังให้เรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากโครงการดังกล่าวตามมาอีกไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ก็ปรองดองไม่ได้ และรับรองว่าไม่ใช่เรื่องของการเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกไล่ล่าทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของต้นตอทำให้เกิดความเสียหายในบ้านเมือง เป็นความเสียหายที่ทำให้คนไทยที่เสียภาษีต้องรับภาระกันไปชั่วลูกหลาน

อย่างไรก็ดี แนวทางปรองดองอาจเป็นข้อเสนอที่เป็นความหวังดีก็ได้ หากมองในแง่ดี แต่ถึงอย่างไรมันก็ต้องมีการพิสูจน์ความถูกต้องโดยกระบวนการยุติธรรมออกมาให้เห็นก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน หรืออาจเป็นพวกชาวบ้านธรรมดา ที่ทำผิดพระราชบัญญัติความมั่นคง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือแม้แต่พวกที่ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกในบางเรื่องอาจจะอนุโลมได้บ้าง แต่สำหรับคดีอาญาร้ายแรงเช่น พวกสารพัดเผา ใช้อาวุธสงครามแบบนี้ก็ปรองดองนิรโทษไม่ได้เป็นอันขาด

ดังนั้น เมื่อความหมายเป็นแบบนี้ก็อย่าพยายามเสนออะไรที่สร้างความวุ่นวายขึ้นมาอีก เพราะที่ผ่านมาหรือในเวลานี้ปัญหาไม่ใช่เกิดจากความขัดแย้งของประชาชน หรือความแตกแยกของประชาชน แต่เป็นเรื่องของความถูกผิด ที่คนกลุ่มหนึ่งไม่ยอมให้มีการเอาเปรียบ ไม่ยอมให้เกิดการทุจริตละเมิดกฎหมายในบ้านเมือง และหนทางปรองดองมีอยู่ทางเดียวง่ายๆเท่านั้นคือทุกฝ่ายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดออกมาเสียก่อน ซึ่งทุกฝ่ายต้องยอมรับ

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายคนของเขาไม่ยอมรับในกระบวนการนี้ กลับพยายามบิดเบือนไปเรื่องการเมือง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม และพยายามข่มขู่ใช้ความรุนแรง ขณะที่ยังมีบางกลุ่มในบ้านเมืองก็ยังหลงเชื่อว่าถ้าเจรจากับคนพวกนี้แล้วจะทำให้บ้านเมืองสงบ ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ และคนที่คิดจะเจรจากับคนที่ทำผิดกฎหมายมันก็ไม่ต่างจากเจรจากับโจร ก็น่าจะเดาออกมาว่าจะมีอนาคตเช่นไร!!
กำลังโหลดความคิดเห็น