xs
xsm
sm
md
lg

ประกบ “ยิ่งลักษณ์” ทุกฝีก้าว-อ้างถูกรังแกขอลี้ภัยสหรัฐฯ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ถ้าบอกว่าสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มต้องลุ้นกันตัวโก่งสองสามเรื่องหลักๆ ก็คือ คดีที่จะตามมาเป็นพรวน และที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานหลังจากนี้ก็คือ “คดีแพ่ง” ที่จะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว โดยที่ผ่านมาทางกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) “วิชา มหาคุณ” ที่ดูแลเกี่ยวกับสำนวนคดีดังกล่าว ได้เปิดเผยว่าได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมหมาย ภาษี เพื่อยื่นฟ้องทางแพ่งจาก อดีตนายกฯคนดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งมีการประเมินความเสียหายเบื้องต้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนล้านบาท ตามที่คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของ กระทรวงการคลังเคยสรุปตัวเลขเอาไว้

นอกเหนือจากคดีอาญาในความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 จากการปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังมีการนัดหมายจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อนัดส่งตัวให้อัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

แต่เฉพาะหน้าก็คือกำลังจับตามองกันว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูก “กรรม” ไล่หลังจะ “หนี” หรือไม่หนี และถ้าหนีจะหนีแบบไหนและไปไหน!!

ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังอยู่ในช่วงของการทำบุญไหว้บรรพบุรุษที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันหลายประการ อย่างแรกเป็นการ “หยั่งเชิง” รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะมีท่าทีอย่างไร จะปล่อยให้เธอเคลื่อนไหวได้โดยอิสระหรือไม่หลังก่อนหน้านี้ไม่อนุญาตให้เธอเดินทางออกนอกประเทศ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังอยู่ในช่วงของการเตรียมส่งฟ้องต่อศาลในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีการระบุในเวลาต่อมาว่าเป็นไปตามความเห็นของอัยการสูงสุด

แต่ภาพที่เห็นก็คือมีฝ่ายทหารและฝ่ายความมั่นคงติดตามประกบ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกฝีก้าว ซึ่งแน่นอนว่าการจะหนีออกไปทางชายแดนภาคเหนือน่าจะเป็นไปได้ยาก!!

ถามว่าหากจะหนีน่าจะหนีก่อนหรือหลังถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คำตอบจากกูรูทางกฎหมายระบุว่า เป็นไปได้สูงที่จะต้องหนีก่อนส่งฟ้อง แม้ว่าตามขั้นตอนในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ การส่งฟ้องของอัยการไม่จำเป็นที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปปรากฏตัวก็ได้ จนกว่าศาลประทับรับฟ้องจากจากนั้นก็จะมีการพิจารณาคัดเลือกองค์คณะผู้พิพากษาขึ้นมาชุดหนึ่ง จากนั้นก็จะนัดคู่ความมาขึ้นศาลนัดแรก ซึ่งวันนั้นเธอต้องมา ถ้าไม่มาก็จะเจอหมายจับและจะจำหน่ายคดีชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวมา

หรืออีกกรณีหนึ่งเป็นไปตามที่อ้างก่อนหน้านี้ว่าจะ “สู้ตายคาประชาธิปไตย” ก็เล่นกระแสเพื่อหวังสร้างแรงสั่นสะเทือนกระแทกกลับไปยัง คสช. ในภาพว่าเธอถูกไล่ต้อน ถูกรังแกทางการเมือง สร้างภาพแบบนี้ไปอีกสักพักและเมื่อเห็นท่าไม่ดีคิดว่า “โดนแน่” ค่อยหาจังหวะมั่วๆ ตอนไหนก็ได้ “เผ่นแน่บ” ไปเลย แบบนี้เรียกว่าหนีก่อนมีคำพิพากษาแบบที่ พี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร ทำเอาไว้เป็นตัวอย่างเอาไว้จนถึงบัดนี้

ทีนี้ถ้าหนีก่อนขึ้นศาลจะหนีไปไหน สิ่งที่สังคมกำลังจับตามองมากที่สุด และน่าจะเป็นไปแบบทางสะดวกก็คือหนีไปสหรัฐอเมริกา อาจข้ามชายแดนไปตั้งหลักในสถานทูตสหรัฐฯในประเทศนั้นแล้วค่อยลี้ภัย (หนี) ไปสหรัฐฯ หรือไม่เช่นนั้นก็หลบเข้าสถานทูตสหรัฐฯในไทยแล้วค่อยเปิดเจรจาบังคับให้ไทยปล่อยตัวไปต่างประเทศ ซึ่งข้ออ้างในการลี้ภัย (หนี) คือ ถูกคุกคาม ไม่ได้รับความเป็นธรรม และที่สำคัญจะอ้างว่าเป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ประมาณนี้แหละ

แม้ว่าล่าสุดอุปทูตสหรัฐฯ ทำหน้าที่เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย แพทริก เมอร์ฟี จะบอกว่า “ไม่ทราบ” เรื่องการขอลี้ภัยของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ตาม แต่ความหมายไม่ใช่การปฏิเสธ เพียงแต่บอกว่าไม่ทราบ ก็ใช่ตอนนี้ยังไม่รู้แต่ต่อไปอาจจะรู้หรือรู้แล้วยังไม่บอก เพราะยังไม่ถึงเวลา

อย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้สูงที่สุด ก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยื่นขอลี้ภัยกับทางการสหรัฐฯเป็นไปได้สูงยิ่ง เพราะที่ผ่านมาถือว่ารับส่งลูกกันมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่ทุกอย่างอาจพลิกผันได้ในนาทีสุดท้าย หากผลประโยชน์ด้าน “พลังงาน” จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอย่างหลังก็น่าจับตาไม่แพ้กัน เพราะมัน “คนละเรื่องเดียวกัน” !
กำลังโหลดความคิดเห็น