แกนนำ กปปส.เตือนผิด ม.157 หาก “ประยุทธ์” เจรจาปรองดอง “ทักษิณ” ระบุการปรองดองให้บ้านเมืองเรียบร้อยเป็นเรื่องดี แต่กระบวนการกฎหมายต้องดำเนินต่อไปอย่างเคร่งครัด ท้า “ปึ้ง” รับผิดชอบหาก “ยิ่งลักษณ์” หนีคดีจำนำข้าว ขณะเดียวกันต้องไม่ประกันตัวถ้าคิดสู้คดีจริง แนะจับตา 19 ก.พ. ถ้า “ปู” งอแง ไม่ไปศาล พิสูจน์ชัดเตรียมเผ่นนอก
นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวถึงข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประเทศกลับสู่ความปรองดองว่า เรื่องนี้ตนพูดเป็นร้อยครั้งแล้ว การพูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย หรือเจรจาเพื่อรับทราบความต้องการนั้นทำได้ แต่การจะไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นตนไม่เห็นด้วยแน่ เพราะเป็นการกระทำที่มองข้ามกฎหมายไทยไปให้ความสำคัญกับนักโทษหนีคดี ซึ่งเจ้าพนักงานก็จะต้องมีความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 และงานนี้ พล.อ.ประยุทธ์เองก็จะถูกกล่าวโทษไปด้วย
ทั้งนี้ การที่ กมธ.ยกร่างฯ จะตั้งคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติ เห็นว่าการคิดหาทางปรองดองนั้นเพื่อความสงบเรียบร้อยในชาติคือเรื่องดี แต่กระบวนการกฎหมายต้องดำเนินอย่างเคร่งครัดถูกต้อง และการดำเนินการตามกฎหมาย กับเรื่องการปรองดองก็ทำไปพร้อมกันได้ ที่สำคัญกฎหมายต้องไม่มีการละเว้นโทษ โดยเฉพาะคดีคนโกง เผาบ้านเผาเมือง
ส่วนกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ท้าขอให้แสดงหลักฐานยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เช่าเครื่องบินเตรียมหนีไปต่างประเทศนั้น นายถาวรกล่าวว่า คนเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีน่าจะรู้ดีว่างานด้านการข่าวไม่มีที่ไหนในโลกจะนำหลักฐานมาโชว์กัน ยืนยันว่าคนอย่างตนมีเครือข่ายงานด้านการข่าว และไม่นิยมดิสเครดิสใคร
“ที่สำคัญเมื่อนายสุรพงษ์ยืนยันแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าไม่หลบหนี จะต่อสู้คดีก็ขอให้จำคำพูดนี้ถือเป็นสัญญาประชาคมกับสังคม เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยพูดเช่นนี้เหมือนกันว่า ไม่หนี แต่สุดท้ายก็หนี ทำแม้มีทนายฯบางคนเอาถุงขนมใส่เงินเป็นล้านไปทิ้งที่ศาลก็ทำแล้ว”
นายถาวรกล่าวว่า ที่ตนออกมาพูดเพื่อต้องการสื่อถึงนักวิชาการบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนโดยไม่มองถึงกฎหมาย ในเมื่อลั่นคำว่าไม่หนี ขอสู้คดี ก็ขอให้เกิดขึ้นจริง และถ้าแน่จริงก็อย่าประกันตัวด้วย หากกล้าสู้ว่าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ส่อทุจริต ไม่เคยทำให้ชาติรับความเสียหาย 6-7 แสนล้านบาท ที่สำคัญหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี แล้วนายสุรพงษ์จะรับผิดชอบอย่างไร แค่ไหน ขอให้ตอบสังคมมา
ทั้งนี้ ทราบว่าอัยการสูงสุด (อสส.) ระบุว่าขอให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อ อสส.เพื่อที่จะนำตัวไปปรากฏต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 19 ก.พ.ที่จะส่งตัวฟ้องศาลในวันแรก โดยมีการให้ข่าวผ่านสื่อต่อสังคมให้รู้กันแล้ว หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ทีมทนายบ่ายเบี่ยงสารพัดเหตุผล ไม่ขอไปปรากฏตัวที่ศาลในวันนั้นก็จะเห็นพฤติกรรมที่ส่อในเรื่องนี้ว่างานด้านการข่าวของตนกับนายสุรพงษ์เป็นอย่างไร ขอให้สังคมจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด