ผอ. สถาบันปฏิรูปประเทศไทย เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” หาทางยื้อคดีจำนำข้าวยาวไปจนมีรัฐบาลชุดใหม่ หลัง "ประยุทธ์" ย้ำมีเลือกตั้งต้นปีหน้า บี้ อสส.- ป.ป.ช. ลุยต่อ เตือนอนุมัติให้อดีตนายกฯ บินได้คงหนีเพื่อให้คดีถูกจำหน่ายแน่
วันนี้ (15 ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ตนเห็นว่า ในขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทีมทนายกำลังหาทางยื้อคดีทุจริตจำนำข้าวที่อัยการสูงสุดจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 18 ก.พ. นี้ เพื่อให้คดีล่าช้าออกไปจนถึงรัฐบาลสมัยหน้าซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และในขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ยืนยันว่าจะไปศาลหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีภารกิจสำคัญอะไรแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอ้างเหตุผลอะไรที่จะไม่ไปศาล เพราะใครๆ ก็เห็นตระเวนทัวร์ชิมอาหารอยู่ทุกวัน แต่ไม่มีเวลาไปศาล จะอธิบายกับสังคมอย่างไร และที่น่าแปลกก็คือทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นการเมือง สร้างประเด็นใหม่ๆ เพื่อเบี่ยงเบนคดีและยื้อเวลา แทนที่จะเอาเวลาไปเก็บข้อมูล หาพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมสู้คดีในชั้นศาล
“ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาย้ำบ่อยๆ ว่า จะเลือกตั้งต้นปีหน้า ยิ่งเป็นไปได้ที่ทีมทนายจะยื้อคดีให้ลากยาวออกไปจนถึงปีหน้าเพื่อรอให้โมเมนตัมทางการเมืองเปลี่ยนและอาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งถ้าดูกระบวนการพิจารณาคดีตามปกติไม่เกินปีนี้ก็สามารถพิพากษาคดีได้แล้ว หากคุณยิ่งลักษณ์ไม่หลบนี้หรือหาแทกติคยื้อคดีออกไป” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ อสส. ป.ป.ช. หรือแม้แต่ศาลที่จะต้องระมัดระวัง เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีเดินหน้าไปได้ ส่วนจะตัดสินออกมาอย่างไรสังคมก็ต้องยอมรับอยู่แล้ว แต่หากมีการพิจารณาให้ออกนอกประเทศก็เป็นไปได้ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะหลบหนีเพื่อให้คดีถูกจำหน่ายชั่วคราว ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมสะดุดเหมือนหลายๆ คดีที่คนผิดมักหลบหนีออกนอกประเทศหลังจากก่อเหตุไว้ จนทำให้กระบวนการปรองดองถูกกระทบและเกิดความขัดแย้งเรื้อรังเพราะคนที่สร้างปัญหามีความผิดไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซ้ำร้ายยังไปเคลื่อนไหวโจมตีทำลายความน่าเชื่อถือของระบบยุติธรรมไทยอีกด้วย