xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” เชื่อหลัง รธน.ใหม่คลอด การเมืองดุเดือด เหตุมีคนจ้องลองของ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิษณุ เครืองาม (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ คาดหลังคลอดรัฐธรรมนูญใหม่ การเมืองดุเดือน เชื่อมีคนจ้องลองของใหม่ ชี้การห้ามชุมนุม หรือสร้างความเกลียดชัง จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา พร้อมแย้มข้อเสนอควบรวมผู้ตรวจการฯ กับคณะกรรมการสิทธิฯ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษเรื่อง “องค์กรตรวจสอบ : ความหวังหลังการปฏิรูป” ตอนหนึ่งว่า การปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ซึ่งก็คนตั้งคำถามว่าหวังจะเห็นอะไรจากการปฏิรูป ก็มีคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ปฏิรูปเพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ซึ่งเราต้องมานั่งคิดว่าหากการปฏิรูปสำเร็จจะสามารถผ่อนปัญหาที่จะเกิดในอนาคตที่หนักให้เป็นเบาได้หรือไม่ โดยตนลำบากใจที่จะพูดถึงความหวังหลังการปฏิรูป เพราะยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรออกมาเป็นรูปธรรมบ้าง และจะต้องสถาปนาองค์กรหนึ่งขึ้นมา รับไม้ต่อจาก สปช. ในเรื่องการปฏิรูป เพราะเราจะทิ้งทุกอย่างกลางคันไม่ได้

โดยในการร่างรัฐธรรมนูญมีปฏิทินให้เสร็จภายในเดือน ก.ย. นี้ แต่หากมีการลงประชามติก็จะยืดเวลาออกไป แต่เราไม่ได้ปิดกั้น เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวก็มีการระบุให้แก้ไขได้ ก็เพื่อเปิดช่องให้มีการทำประชามติ แต่การทำประชามติมี 3 อย่างที่ต้องคำนึง คือ การยืดเวลา งบที่ใช้ในการลงประชามติ และเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการลงประชามติ ก็จะต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว โดยจะไม่เป็นการยื้อเวลาในการยกร่างรัฐธรรมนูญออกไปอีก เพราะสามารถทำได้เลย โดย คสช. สามารถทำเรื่องเสนอแก้ไขไปยัง สนช. แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องรอให้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อน

“ขณะนี้เราควรตั้งความหวังหลังจากได้รัฐธรรมนูญใหม่ เพราะหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว เชื่อว่า การเมืองจะมีความแหลมคม ดุเดือดขึ้น เพราะกติกาจะเปลี่ยนไป การลองดีลองของก็จะมีมากขึ้น จะมีการลองวิชา ลองบทบัญญัติแต่ละมาตราว่าที่เขียนมาแก้ได้หรือไม่ ซึ่งวิธีทดสอบก็คือสร้างปัญหาเพื่อทดสอบการแก้ไขปัญหา จึงถือเป็นความยากลำบากของประเทศอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างน้อยหากรัฐธรรมนูญระบุว่าจะเข้มงวดเรื่องการชุมนุม ห้ามเรื่องเฮตสปีชหรือการสื่อสารสร้างความเกลียดชัง ก็คงผ่อนหนักเป็นเบาลงมาได้ 1 ใน 100 ต้องดูที่ว่าจะรับมือได้ขนาดไหน ผู้เกี่ยวข้องก็รู้และกำลังคิดอยู่ว่าจะรับมือได้ขนาดไหน ถ้าปฏิรูปดีก็สามารถเป็นเกราะป้องกันได้”

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ องค์กรที่จะตั้งความหวังหรือฝากผีฝากไข้ได้ ก็คือ องค์กรตรวจสอบ ที่มีรัฐธรรมนูญรับรอง ที่จะตรวจสอบองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐ โดยองค์กรที่ควรจะมีก็คือผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะมีลักษณะนี้ถือเป็นมาตรฐานสากลไปทั่วโลก แม้ตนไม่ได้เป็นกรรมาธิการร่างแต่ก็เชื่อว่าผู้ตรวจฯ จะยังอยู่ โดยมีอำนาจตรวจสอบ และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ส่วนเรื่องการตรวจสอบคุณธรรมจริยธรรมนั้น วันนี้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะเอาออกไปจากผู้ตรวจฯแล้วโดยมีสมัชชาคุณธรรมทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะผู้ตรวจฯถูกออกแบบให้ตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียน

อย่างไรก็ตาม มองว่า งานคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเป็นงานที่น่าจะผนวกกับผู้ตรวจฯเพราะในหลายประเทศผู้ตรวจฯดูเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย ซึ่งตนคิดว่าความหวังหลังการปฏิรูปอยู่ที่องค์กรตรวจสอบ แต่องค์กรตรวจสอบต้องปฏิรูปตัวเองให้มีความน่าเชื่อถือ


กำลังโหลดความคิดเห็น