ปธ.สปช.ขอ กมธ.ปฏิรูป 18 ด้าน เร่งดำเนินการปฏิรูป ทั้งเรื่องด่วน-เรื่องที่ใช้เวลานาน พร้อมส่งการบ้านให้พิจารณา 8 ต.ค.ประชุมเตรียมวิสัยทัศน์ภาพรวม คาดก่อนสิ้นเดือนประชุมใหญ่ สมาชิก แนะเปิดประชุมกำหนดประเด็นก่อน จี้จัดลำดับเรื่องปฏิรูป ชงวิป ควรมีกระบวนการสื่อสารคณะยกร่างฯ “บวรศักดิ์” กำชับแจกสำเนาร่าง รธน.ก่อนลงมติเห็นชอบ พร้อมเปิดให้สมาชิกรับฟัง
วันนี้ (5 ม.ค.) ในการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวกับสมาชิกฯ ว่า ในระยะการทำงาน 1 ปีต่อจากนี้ไป ขอให้คณะกรรมาธิการปฏิรูปทั้ง 18 ด้านเร่งดำเนินการตามหลักการปฏิรูป คือ การรวบรวมทำแผนปฏิรูปทั้งระดับงานเร่งด่วน, งานระยะปานกลาง เช่น การแก้ไขกฎหมาย ระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือยกเลิก พ.ร.บ.บางฉบับ และงานระยะปฏิรูปที่ใช้เวลาเกินกว่า 1 ปี อาทิ การรื้อโครงสร้างและระบบ โดยแผนที่ได้ดำเนินการจะมีขั้นตอนอย่างไร แล้วเร่งส่งงานหรือการบ้านดังกล่าวมายัง สปช. ให้พิจารณาและขอให้สมาชิกร่วมมือกับกรรมาธิการฯ ดำเนินการงานตามเป้าหมายให้แล้วเสร็จ โดยวันที่ 8 ม.ค.นี้ตนพร้อมคณะกรรมการประสานงาน ที่ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูป 18 คณะ, คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สปช. และคณะกรรมาธิการวิสามัญอีก 5 คณะจะประชุมเพื่อเตรียมการระดมความเห็นทำวิสัยทัศน์ในภาพรวมการปฏิรูป เบื้องต้นคาดว่าจะประชุมได้ก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้
นายบุญเลิศ คชายุทธเดช สปช.หารือว่า ควรจะมีการเปิดประชุมเพื่อให้สมาชิกฯ อภิปรายในประเด็นการปฏิรูปเชิงระบบและเชิงโครงสร้าง โดยใช้เวลา 2 วัน 2 คืน หรือ 3 วัน 3 คืน ก่อนที่จะเข้าสู่การประชุมเวิร์กชอปเพื่อพูดคุยประเด็นวิสัยทัศน์ กำหนดแผนปฏิบัติที่สำคัญ นอกจากนั้น สปช.ต้องออกไปเปิดเวทีรับฟังความเห็นของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
ด้าน นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สปช.หารือว่า ตนกังวลต่อประเด็นอายุการทำงานของสปช. แต่ที่ผ่านมาการทำงานของ สปช.ยังไม่สะท้อนภาพรวมงานปฏิรูป ดังนั้นตนขอเสนอให้ภายในสัปดาห์นี้ กมธ.ปฏิรูปทั้ง 18 ชุด ต้องจัดประชุมเพื่อเรียงลำดับงานปฏิรูปในแต่ละเรื่องว่าประเด็นใดอยู่ในประเภทความเร่งด่วน, เป็นแผนภายใน 1 ปี และแผนระยะยาว จากนั้นให้นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สปช. (วิป สปช.) ให้จัดลำดับเรื่องที่ต้องพิจารณาเร่งด่วน ผ่านการสอบถามตามแบบสำรวจความเห็นจากสมาชิก สปช.
นายนิมิต สิทธิไตรย์ สปช. เสนอให้มีกระบวนการหรือกลไกประสานงานและรับฟังความคืบหน้าของการยกร่างรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กับ สปช. เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องให้ สปช.พิจารณาลงมติเห็นชอบ ดังนั้นการสื่อสารระหว่างกันถือมีความจำเป็น นอกจากนั้นแล้วบทบาทในปี 2558 ต้องมีการทำงานที่ชัดเจนด้วยว่า ไม่ว่าคนไกล หรือคนใกล้ต้องได้ยินเสียงเท่ากัน
ด้านนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธาน สปช.คนที่ 1 ฐานะประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่าที่ผ่านมาได้ส่งเอกสารเป็นรายงานการประชุมของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมายัง สปช. ผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แล้ว ซึ่งตนได้กำชับให้ทำสำเนาแจกกับสมาชิก สปช.ด้วย อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณารัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.นั้น ได้เปิดโอกาสให้สมาชิก สปช.ได้ร่วมรับฟังด้วย นอกจากนั้นแล้วตนเตรียมหารือกับที่ประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าหากการพิจารณาในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ, หมวดสิทธิเสรีภาพ และการปฏิรูปที่เป็นข้อเสนอของกมธ.ปฏิรูปชุดต่างๆ จะเชิญ กมธ.ชุดนั้นๆ เข้าร่วมประชุมด้วย
“ข้อเสนอที่ สปช.ส่งมานั้นต้องสกัดเอาแก่น บางทีก็นำคำมาเขียนเป็นบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญใหม่ยาวเกินไป อย่างไรก็ตาม ผมยินดีและเต็มใจให้ สมาชิก สปช.เข้าร่วมรับฟังการพิจารณา” นายบวรศักดิ์ชี้แจง