xs
xsm
sm
md
lg

สำนวน “คดีจีทูจี” ถึงมือ อสส.แล้ว จับตายื้อเวลาหวังโยกคดีถึงรัฐบาลหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ยะใส” จับตาโมเมนตัมเปลี่ยนยื้อคดีทุจริตจำนำข้าว เชื่อทีมทนายยิ่งลักษณ์เบี่ยงเบนคดีและยื้อเวลาหวังคดีล่าช้าถึงรัฐบาลสมัยหน้า ด้าน “ถาวร” ย้ำมีการข่าว เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” เช่าเครื่องบินเตรียมหนีไปต่างประเทศ ย้อนรอย “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เคยพูดว่าไม่หนี ด้าน ป.ป.ช.ส่งสำนวนคดี “บุญทรง” ถึงมืออัยการสูงสุดแล้ววันนี้

วันนี้ (16 ก.พ.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการส่งสำนวนคดีอาญา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก กรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ให้แก่อัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ป.ป.ช.จะส่งสำนวนคดีอาญาจีทูจีไปยัง อสส.ในวันนี้ กรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนลงนามครบก็จะเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ เรามั่นใจในความสมบรูณ์ของสำนวนที่จะส่งไปยัง อสส.เมื่อ อสส.รับสำนวนไว้พิจารณาก็จะดูว่าสำนวนครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบถ้วนก็จะต้องตั้งคณะทำงานร่วมแล้วพิจารณาอีกครั้ง หากตั้งคณะทำงานร่วมแล้วพบว่าสำนวนไม่สมบรูณ์ก็ต้องดูเพิ่มเติมว่าไม่สมบรูณ์ในประเด็นไหนบ้าง และทาง ป.ป.ช.เห็นสมควรที่จะให้เพิ่มเติมในส่วนต่างๆ หรือไม่

“เรามั่นใจว่าสำนวนที่ส่งไปสมบรูณ์แล้ว อย่างไรก็ตาม สำนวนดังกล่าวก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ อสส.ว่าจะส่งสำนวนฟ้องไปยังศาลฎีกาฯ หรือไม่ หรือจะต้องข้อเพิ่มเติมในประเด็นใดบ้าง” นายปานเทพกล่าว

นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ท้าขอให้แสดงหลักฐานหลังระบุผ่านเฟซบุ๊กถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เช่าเครื่องบินเตรียมหนีไปต่างประเทศว่า คนเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีน่าจะรู้ดีว่างานด้านการข่าว ไม่มีที่ไหนในโลกจะนำหลักฐานมาโชว์กัน ยืนยันว่าคนอย่างตนมีเครือข่ายงานด้านการข่าว และไม่นิยมดิสเครดิตใคร ที่สำคัญเมื่อนายสุรพงษ์ยืนยันแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าไม่หลบหนี จะต่อสู้คดีแล้ว ขอให้จำคำพูดนี้ถือเป็นสัญญาประชาคมกับสังคม เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยพูดเช่นนี้เหมือนกันว่า ไม่หนี แต่สุดท้ายก็หนี ทำแม้มีทนายฯบางคนเอาถุงขนมใส่เงินเป็นล้านไปทิ้งที่ศาลก็ทำแล้ว

ที่ตนออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อต้องการสื่อถึงนักวิชาการบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนโดยไม่มองถึงกฎหมาย ในเมื่อลั่นคำว่าไม่หนี ขอสู้คดี ก็ขอให้เกิดขึ้นจริง และถ้าแน่จริงก็อย่าประกันตัวด้วย หากกล้าสู้ว่าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ส่อทุจริต ไม่เคยทำให้ชาติเกิดความเสียหาย ที่สำคัญหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี แล้วนายสุรพงษ์จะรับผิดชอบอย่างไร แค่ไหน ขอให้ตอบสังคมมา

ทั้งนี้ ทราบว่าอัยการสูงสุด (อสส.)ระบุขอให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อ อสส.เพื่อที่จะนำตัวไปปรากฏต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่จะส่งตัวฟ้องศาลในวันแรก โดยมีการให้ข่าวผ่านสื่อต่อสังคม หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ทีมทนายบ่ายเบี่ยงสารพัดเหตุผล ไม่ขอไปปรากฏตัวที่ศาลในก็จะเห็นพฤติกรรมที่ส่อในเรื่องนี้ว่างานด้านการข่าวของตนกับนายสุรพงษ์เป็นอย่างไร ขอให้สังคมจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้นนายสุรพงษ์ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความคิดที่จะหลบหนีไปไหน ตั้งใจจะสู้คดีเพื่อหาความยุติธรรมจนถึงที่สุด เพราะคดีความที่ท่านถูกกล่าวหานั้นเป็นการละเว้นไม่ยับยั้งการทุจริต ตัวท่านไม่ได้ทำการทุจริตแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่นายถาวร ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เช่าเครื่องบินเหมาลำจำนวน 2 ลำไว้ ทั้งที่ จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เพื่อหลบหนี หาก คสช.อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศนั้น ถ้านายถาวรมีหลักฐานก็นำมาแสดง อย่ามาพูดโกหกพล่อยๆ แบบนี้ เคยเป็นถึงรัฐมนตรีมาพูโอย่างนี้ไม่ได้ พูดใส่ร้ายให้คนอื่นเสียหาย วันนี้บ้านเมืองต้องการความจริง ต้องการความปรองดอง แต่นายถาวรต้องการเพิ่มความขัดแย้งหรือย่างไร

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก “สุริยะใส กตะศิลา” แสดงความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตการ เรื่องคดีจำนำข้าว มีใจความว่า “ยื้อคดีจำนำข้าว รอโมเมนตัมเปลี่ยน ดูเหมือนขณะนี้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และทีมทนายกำลังหาทางยื้อคดีทุจริตจำนำข้าวที่อัยการสูงสุดจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 19 กพ.นี้ เพื่อให้คดีล่าช้าออกไปจนถึงรัฐบาลสมัยหน้าซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และในขณะนี้คุณยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่ยืนยันว่าจะไปศาลหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีภารกิจสำคัญอะไรแล้ว คุณยิ่งลักษณ์จะอ้างเหตุผลอะไรที่จะไม่ไปศาล เพราะใครๆ ก็เห็นตระเวนทัวร์ชิมอาหารอยู่ทุกวันแต่ไม่มีเวลาไปศาล จะอธิบายกับสังคมอย่างไร

และที่น่าแปลกก็คือ ทีมทนายคุณยิ่งลักษณ์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นการเมือง สร้างประเด็นใหม่ๆ เพื่อเบี่ยงเบนคดีและยื้อเวลา แทนที่จะเอาเวลาไปเก็บข้อมูล หาพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมสู้คดีในชั้นศาล ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาย้ำบ่อยๆว่าจะเลือกตั้งต้นปีหน้า ยิ่งเป็นไปได้ที่ทีมทนายจะยื้อคดีให้ลากยาวออกไปจนถึงปีหน้าเพื่อรอให้โมเมนตัมทางการเมืองเปลี่ยนและอาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งถ้าดูกระบวนการพิจารณาคดีตามปกติไม่เกินปีนี้ก็สามารถพิพากษาคดีได้แล้ว หากคุณยิ่งลักษณ์ไม่หลบนี้หรือหาแทกติคยื้อคดีออกไป

ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ อสส. ป.ป.ช. หรือแม้แต่ศาลที่จะต้องระมัดระวัง เพื่อให้กระบวนการพิจรณาคดีเดินหน้าไปได้ ส่วนจะตัดสินออกมาอย่างไรสังคมก็ต้องยอมรับอยู่แล้ว แต่หากมีการพิจารณาให้ออกนอกประเทศก็เป็นไปได้ที่คุณยิ่งลักษณ์จะหลบหนีเพื่อให้คดีถูกจำหน่ายชั่วคราว ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมสะดุดเหมือนหลายๆ คดีที่คนผิดมักหลบหนีออกนอกประเทศหลังจากก่อเหตุไว้ จนทำให้กระบวนการปรองดองถูกกระทบและเกิดความขัดแย้งเรื้อรังเพราะคนที่สร้างปัญหามีความผิดไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซ้ำร้ายยังไปเคลื่อนไหวโจมตีทำลายความน่าเชื่อถือของระบบยุติธรรมไทยอีกด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น