รัฐบาลห่วงสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ เรียกร้องสื่ออย่าขยายประเด็นเล็กๆ ให้เป็นปัญหา ชี้การแสดงจุดยืนของมะกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย ยันไทยไม่ยึดติดกลุ่มประเทศใด แต่จะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดจากหลายๆ ประเทศ พร้อมปฏิเสธ “ประยุทธ์” ให้สัมภาษณ์ทหารพร้อมยึดอำนาจอีก แค่ต้องการสื่อสารให้เห็นว่าเมื่อประเทศมีความขัดแย้งรุนแรง กองทัพต้องเข้ายุติปัญหา วอนสื่อตรวจสอบข่าวก่อนเขียน “ยิ่งลักษณ์” ขอลี้ภัย ย้ำคดีอดีตนายกฯ เป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมของคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.พ.) ว่าที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงข่าวเกี่ยวกับทางสหรัฐฯ ที่ออกมาในขณะนี้ดูเหมือนมีปัญหากันระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จึงขอชี้แจงว่า การแสดงบทบาทของสหรัฐฯ ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาของประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่จะแสดงจุดยืนและบทบาทของเขา และที่ผ่านมาเขาก็แสดงความเห็นอย่างนี้มาตลอดกับหลายประเทศ ขณะเดียวกัน เราก็มีจุดยืนของเราชัดเจนว่าเราไม่ต้องการขัดแย้ง หรือไม่เป็นมิตรต่อใคร เราพยายามรักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อทุกประเทศ และไม่เคยคิดจะเอาประเทศหนึ่งมาแทนอีกประเทศหนึ่ง
“ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่กับใคร แต่ประเทศไทยอยู่กับโลก หมายถึงอยู่กับทุกประเทศ เราไม่ได้คิดว่าจะต้องยึดใครเป็นที่พึ่งแต่เพียงประเทศเดียว เราต้องเลือกและคัดสรรทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีที่สุดจากหลายประเทศ ตรงนี้ถือเป็นความชัดเจนของประเทศไทย เราไม่ต้องการขยายประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเห็นไม่ตรงกันออกไป แต่เราต้องการรักษาสัมพันธภาพที่ดี”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ที่ประชุมคณะที่ปรึกษาฯ ยังหารือถึงการแถลงของ น.ส.เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ออกมาแสดงความเป็นห่วงถึงคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไปพูดในประเทศญี่ปุ่น ในลักษณะที่ว่าทหารพร้อมที่จะยึดอำนาจและควบคุมอำนาจอีกในอนาคตว่า คำพูดของนายกฯ ไม่ได้สื่อไปแบบนั้น เพียงแต่นายกฯ ต้องการทำความเข้าใจให้เห็นว่าที่ผ่านมาประเทศมีปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มการเมืองจนรัฐบาลในขณะนั้นไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศได้ ทางกองทัพหรือ คสช. จึงจำเป็นต้องเข้ามายุติความขัดแย้ง โดยมีโรดแมปในการปฏิรูปประเทศชัดเจนเพื่อให้ประเทศเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พร้อมทั้งรับฟังทุกความคิดเห็น ไม่ได้ทำแบบควบคุมอำนาจเหมือนประเทศอื่นๆ ในโลกที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ใช้กฎหมายตามปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางโฆษกสหรัฐฯ อาจจะไม่เข้าใจ จึงสื่อออกมาอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตรวจสอบกับกระทรวงการต่างประเทศ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกับคนไทยมากกว่าว่า หากเกิดปัญหาขึ้นอีกในวันข้างหน้าไม่ได้หมายความว่าทหารจะเข้ามาควบคุมอีก แต่นายกฯหมายความว่ามันเป็นวัฏจักรที่วนเวียนอยู่ ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกัน
ส่วนที่ผ่านมารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ พยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับทางสหรัฐฯ มาตลอด แต่สหรัฐฯ เองก็ยังคงแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอด เหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เราพยายามสื่อสารไป พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เขามีจุดยืน มีบทบาทหน้าที่ของเขา ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็มีจุดยืนของเรา และไม่ใช่ว่าเราจะไม่รับฟังเสียงของชาวโลก เรารับฟังหมด แต่สิ่งที่เร่งด่วนและสำคัญของเรา คือ การแก้ปัญหาของบ้านเรา เราต้องแก้ปัญหาบ้านเราก่อน ถ้าเราปล่อยให้มีการเลือกตั้งเลย อย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้อง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงต้องมีกฎกติกาและการปฏิรูปด้านต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เกิดการเอื้ออำนวยและไม่ขัดแย้งกันในวันข้างหน้า ลำดับสิ่งที่ต้องทำก่อนหลัง และสุดท้ายก็จะไปสู่จุดหมาย ตามที่หลายประเทศเรียกร้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะขอลี้ภัยไปต่างประเทศหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่มีการหารือในเรื่องนี้ ต้องสอบถามฝ่ายความมั่นคง แต่เท่าที่ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ที่บ้าน ดังนั้น อยากให้สื่อตรวจสอบข่าวคราวที่ออกมาด้วย และอยากให้เข้าใจว่าคดีต่างๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นคดีอาญาและทางแพ่งที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องปกติที่ทุกฝ่ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สื่ออย่าไปมองให้เป็นกระบวนการทางการเมือง และที่ผ่านมานายกฯ ก็พูดเรื่องนี้ชัดเจนและพยายามทำให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือไล่ล่ากลุ่มหนึ่งกลุ่มใด