ตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังคอร์รัปชัน ร้องนายกฯ ผ่าน สปช.ให้เลิกประกวดราคาซื้อรถเมล์ NGV ชี้ ขสมก.ดำเนินการมิชอบ ตั้งราคากลางคันละ 3.6 ล้าน มีประโยชน์ทับซ้อนเอื้อประโยชน์ ยกผลสอบ ป.ป.ช.ราคาต้องไม่เกิน 3 ล้าน บี้นิ่งเฉยจะฟ้องศาลปกครอง
วันนี้ (26 ม.ค.) ตัวแทนสมาชิกเครือข่ายประชาชนเพื่อเฝ้าระวังการคอร์รัปชันในภาครัฐ นำโดยนายชัยสิทธิ์ รูโปบล ได้เข้ายื่นรับหนังสือต่อนายประมนต์ สุธีวงศ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ได้ร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประกวดราคาซื้อรถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สืบเนื่องจากที่ผ่านมานั้น ทาง ขสมก.ได้ประกาศประกวดราคากลางไว้ที่คันละ 3.65 ล้านบาท ทางเครือข่ายเห็นว่าการประกวดราคาดังกล่าวมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ และผู้ที่มีส่วนในการจัดซื้อ
โดยหนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า เพราะว่าจากการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่าราคารถเมล์ต่อคัน เมื่อรวมภาษีแล้วจะอยู่ที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ป.ป.ช.จึงได้เสนอเรื่องนี้ไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และต่อมา คสช.มีคำสั่งให้ทบทวนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก.แล้ว แต่ต่อมานั้นทาง ขสมก.ก็ได้มีประกาศออกมา ซึ่งประกาศดังกล่าวก็ไม่ได้ยึดถือหลักในการจัดซื้อตามราคากลางที่ ป.ป.ช.กำหนดไว้ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงราคาจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิม ที่กำหนดราคาไว้ที่ 4.5 ล้านบาท ก็ไม่ได้มีการขอความเห็นชอบจาก ครม.และ คสช. จึงถือว่าทาง ขสมก.นั้นได้ดำเนินการประกวดราคาจัดซื้อโดยมิชอบ และแสดงถึงความไม่โปร่งใส ดังนั้นเครือข่ายจึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยับยั้งการจัดซื้อในครั้งนี้ และถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์เพิกเฉย ทางเครือข่ายก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไป