xs
xsm
sm
md
lg

เสวนาผู้ตรวจฯ เมินให้นักการเมืองจุ้นสรรหา หนุน แบนตลอดชีพ จี้ กำหนดคำว่า อิสระ ให้ชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ตรวจฯ จัดเสวนา “ตอบโจทย์ : องค์กรตรวจสอบบนเส้นทาง รธน. ใหม่ ชี้ ควรมีวาระดำรงตำแหน่งเท่ากัน 6 ปีทุกองค์กร ไม่เห็นด้วยให้ 7 อรหันต์ - นักการเมืองร่วมสรรหา แนะกำหนดนิยามคำว่า “อิสระ” ให้ชัด หลังมีตีความใช้ตามอำเภอใจ พร้อมให้ ปชช. ร่วมถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระ ขณะเดียวกัน ขานรับแนวคิดผิดจริยธรรมตัดสิทธิการเมืองชั่วชีวิต

วันนี้ (18 ม.ค.) ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ โคฟ เกาะช้าง จ.ตราด สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้จัดเสวนาเรื่อง “ตอบโจทย์ : องค์กรตรวจสอบบนเส้นทางรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มี นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินและอดีตสมาชิกวุฒิสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายศรีราชา วงศารยางกูร ร่วมเสวนา โดยนายพิเชต เห็นว่า องค์กรตรวจสอบ คือ ป.ป.ช. คตง. กรรมการสิทธิมนุษยชน ผู้ตรวจการแผ่นดิน กกต. ต้องอยู่ต่อไป แต่ก็ต้องแก้ไข เรื่องการสรรหา โดยขยายฐานคณะกรรมการสรรหาให้หลากหลาย และมีมากให้มีจำนวนมากกว่า 7 คน เพื่อกลั่นกรองให้ได้บุคคลที่เหมาะสมมีคุณภาพ ลดวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการองค์กรอิสระให้เหลือ 6 ปี ทุกองค์กรและเป็นได้วาระเดียว แก้ไขกำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อนกัน และที่สำคัญ ควรมีการกำหนดนิยามคำว่า “อิสระ” ให้ชัดเจน ว่าหมายถึงอะไร เพราะบางคนมองว่า หมายถึงทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรให้หมายถึงการทำงานที่ปลอดจากการถูกอิทธิพลทางการเมืองครอบงำ

ส่วนในภารกิจของผู้ตรวจการแผ่นดินก็เห็นว่า ควรเพิ่มอำนาจให้ผู้ตรวจฯเป็นยักษ์ที่มีกระบองเล็ก เช่น หากผู้ตรวจมีคำวินิจฉัยให้หน่วยงานนั้นต้องปรับปรุงแก้ไขแล้วภายใน 90 วัน หน่วยงานดังกล่าวไม่ดำเนินการ เพราะเพิกเฉยให้ถือเป็นความผิดทางวินัย รวมทั้งควรให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทำหรือมีส่วนในเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองต่อไป เพราะเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมีหน่วยงานใดเพียงหน่วยงานเดียวทำ ซึ่งไม่เชื่อว่าสมัชชาคุณธรรมจริยธรรมที่จะตั้งขึ้นเพียงหน่วยงานเดียวจะทำได้

ขณะที่ นายศรีราชา กล่าวว่า จริงอยู่ที่การสรรหากรรมการองค์กรอิสระโดย 7 อรหันต์ไม่เหมาะสม แต่จะเอาองค์กรอื่นเข้ามาจะต้องคิดให้แตกว่า จะก่อให้เกิดความดีงาม เป็นธรรมในการเลือกคนที่ดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้จริงหรือไม่ และไม่อยากให้ฝ่ายการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหาเลย เพราะมันก็ทำให้เกิดการวิ่งเต้นแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อให้ได้รับการคัดเลือก และเห็นควรกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นกรรมการฯให้ชัดเจนว่าต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องสามารถให้คนคัดค้านได้

นายศรีราชา ยังกล่าวด้วยว่า ในการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้นอกจากทางผู้ตรวจจะเสนอขอให้มีอำนาจร้องต่อศาลให้คุ้มครองชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน ในระหว่างที่ผู้ตรวจพิจารณาคำร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน แล้วยังเสนอว่า อยากให้ผู้ตรวจมีอำนาจฟ้องคดีแพ่ง หรือคดีอาญาแทนประชาชนได้ การตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของรัฐทุกระดับรวมทั้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่สำคัญ อยากให้กำหนดให้การกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างแรงกลายเป็นคุณลักษณะต้องห้ามในการเข้าสู่การตำแหน่งทางการเมืองอย่างเด็ดขาดเพื่อ เพิ่มมาตรฐานกับสถาบันการเมือง

ด้าน นายสุรชัย ก็เห็นด้วยที่จะกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการองค์กรอิสระเพียง 6 ปี และเป็นได้วาระเดียวเพื่อให้การทำหน้าที่ไปอย่างอิสระ รวมทั้งไม่ควรให้ฝ่ายการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการสรรหา เพราะเมื่อสร้างองค์กรอิสระมาตรวจสอบฝ่ายการเมือง ถ้าคนที่จะตรวจสอบเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตรวจสอบ มันก็จะกลายเป็นเหมือน “ลิเกโรงใหญ่” ที่มาเล่นหลอกเขา มันก็จะไม่พัฒนาไปเป็นการถ่วงดุลและแบ่งแยกอำนาจอย่างสุจริต อย่างไรก็ตาม เห็นว่าองค์กรตรวจสอบจะเข้มแข็งได้ คิดว่าขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย คือ 1. ต้องมีความเป็นอิสระแท้จริง 2. บทบาทอำนาจหน้าที่ต้องสามารถดูแลผลประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริงได้ 3. ต้องติดดาบให้ลงโทษผู้ทำผิดได้ 4. ผลงานองค์กรต้องเป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่เอียงไปมา หลายมาตรฐาน ใน 3 ปัจจัย สามารถแก้ไขได้โดยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ในข้อสุดท้ายขึ้นอยู่กับบุคคลกรขององค์กรนั้นๆที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เห็นว่าเพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้องค์กรอิสระใช้อำนาจตามอำเภอใจก่อความเสียหายให้กับประเทศ และเป็นการป้องกันการเอื้อประโยชน์กันระหว่างนักการเมืองกับกรรมการองค์กรอิสระ เห็นควรให้ประชาชนมีสิทธิที่จะเข้าชื่อถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระได้ และเสนอแก้ไขกฎหมายองค์กรอิสระได้

ส่วนในเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่ต่อไปไม่เพียงจะกำหนดเฉพาะเรื่องจริยธรรมเท่านั้น แต่จะมีการรวมเรื่องคุณธรรมนักการเมือง เข้าไปไว้ด้วย ซึ่งยังเชื่อว่าผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรที่เหมาะสมจะทำในเรื่องการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป และเห็นด้วยกับที่นายศรีราชาเสนอว่าควรกำหนดให้การกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างแรงกลายเป็นคุณลักษณะต้องห้ามในการเข้าสู่การตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป เพื่อที่ได้เป็นยกระดับของนักการเมืองด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น