เลขาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยมติที่ประชุมยุติสอบปม “กกต.ธีรวัฒน์” ทุจริต หลัง ป.ป.ช.รับเรื่องแล้ว พร้อมเลื่อนฟันพฤติกรรมเข้าข่ายขัดจริยธรรมร้ายแรง เหตุเจ้าตัวเพิ่งส่งหนังสือชี้แจง ยันพิจารณาตามวาระไม่เกี่ยวกับปัญหาภายใน กกต. คาดรู้ผลสัปดาห์นี้ เผยศาล รธน.และประธานองค์กรอิสระ เตรียมประชุมนัดแรกกำหนดมาตรฐานจริยธรรม 14 ก.ย.นี้
วันนี้ (13 ก.ย.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานสภาพัฒนาการเมืองส่งมาเมื่อปี 2558 ขอให้ตรวจสอบนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กรณีกระทำการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุธรณ์ และมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดจริยธรรมร้ายแรงว่า ในประเด็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ซึ่งเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่นั้นทราบว่า ผู้ร้องคนเดียวกันได้ไปร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีการเรียกผู้ร้องมาให้ถ้อยคำแล้วทางผู้ตรวจฯ จึงมีมติให้ยุติเรื่องและพิจารณาว่าจะส่งข้อมูลที่ผู้ตรวจฯ ได้จากการตรวจสอบไปให้แก่ ป.ป.ช.ดำเนินการหรือไม่ต่อไป
ส่วนประเด็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดจริยธรรมร้ายแรงนั้น เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจฯ เห็นว่านายธีรวัฒน์ผู้ถูกร้องเพิ่งจะได้ส่งหนังสือชี้แจงมาจึงขอที่จะนำไปพิจารณาให้รอบคอบกับข้อมูลที่ผู้ตรวจมีอยู่ว่าจะสามารถหักล้างได้หรือไม่ คาดว่าจะทราบผลในสัปดาห์ ทั้งนี้ขอที่จะไม่เปิดเผยว่าพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดจริยธรรมนั้นคือพฤติกรรมใด แต่จากการร้องเรียนของผู้ร้องระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาในศาลอุทธรณ์ต่อเนื่องมาถึงการเป็น กกต.
“หากที่สุดผู้ตรวจมีมติว่ามีการกระทำผิดจริยธรรม ตามขั้นตอนถ้าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปพิจารณาดำเนินการถอดถอน แต่ถ้าเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐต้องส่งให้กลไกบังคับการต้นสังกัดในที่นี้คือ กกต.พิจารณา แต่ถ้าเกิดกรณีที่ต้นสังกัดไม่ยอมดำเนินการ ผู้ตรวจสามารถไต่สวนได้เอง และเปิดเผยต่อสาธารณะ ตามมาตรา 39 พ.ร.บ.ผู้ตรวจฯ” นายรักษเกชากล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมผู้ตรวจจึงมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้ที่ กกต.กำลังมีปัญหาขัดแย้งภายใน นายรักษเกชากล่าวว่า การพิจารณาของผู้ตรวจไม่เกี่ยวกับปัญหาภายในของ กกต. หรือแม้แต่เรื่องที่มีข้อเสนอให้เซตซีโร่ กกต. แต่เป็นการพิจารณาไปตามวงรอบ ซึ่งถ้าหากผู้ถูกร้องส่งคำชี้แจงมาก่อนหน้านี้ ก็คงหยิบคำร้องดังกล่าวมาพิจารณาได้เร็วกว่านี้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ตรวจจะเสนอ คสช.ใช้มาตรา 44 เซตซีโร่ กกต.ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับผู้ตรวจ แต่ทั้งนี้ต้องดูประเด็นที่เสนอแนะถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมีเหตุมีผล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อกฎหมายไม่อาจล่วงเกินอำนาจกันได้
นายรักษเกชากล่าวอีกว่า ในวันที่ 14 ก.ย. เวลา 13.30 น. ประธานศาลรัฐธรรมนูญและประธานองค์กรอิสระจะนัดประชุมร่วมกันนัดแรกเพื่อพิจารณาจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 กำหนดไว้
