ผู้จัดการรายวัน 360 - "บิ๊กต๊อก" เผยเคลียร์ปม “ปลัดคลัง” เบี้ยวถกประชุมคดีข้าวแล้ว เผยไม่ติดใจ หลังโทรมาขอโทษ-แจ้งเหตุผล ยันเรียกค่าเสียหายได้ทัน นายกฯมอบ รัฐมนตรี-ปลัดคลังเซ็นต์ทวงเงิน “ยิ่งลักษณ์” ตามคาด ด้าน “ศรีสุวรรณ” ยื่นผู้ตรวจฯฟัน “บิ๊กป้อม ฮาวาย” ผิดจริยธรรม-ขัดค่านิยม 12 ประการ รับข้องใจ เล็งยื่นสอบ สตง.ด้วย
วานนี้ (11 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณี นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังไม่ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาข้อมูลตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องรับผิดชอบทางละเมิด ในโครงการรับจำนำข้าว อีกร้อยละ 80 เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า ทางกระทรวงการคลังไม่ได้เบี้ยวประชุม โดยนายสมชัยได้โทรศัพท์มาขอโทษตนภายหลังการประชุมว่า เกิดจากข้อผิดพลาดในการส่งเอกสารแจ้งประชุม จึงบอกว่าไม่เป็นไร สำหรับเรื่องข้าวนั้น การตรวจสอบจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน แต่เมื่อมีกรอบเวลากำหนดไว้จำเป็นต้องทำให้ทัน ทุกคนต้องทำทั้งวันทั้งคืนหากจำเป็น เบื้องต้นจากที่คุยในที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนมีข้อมูลเรื่องข้าว ในส่วนของคดีอาญามีการฟ้องไปยังศาล ส่วนเรื่องทางแพ่งมีการเรียกค่าเสียหายในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 20 ไปแล้ว จึงไม่น่าจะช้า เพียงแต่เราต้องการข้อมูลให้ครบถ้วน
“ผมไม่ได้บอกว่าปลัดกระทรวงการคลังเบี้ยว แต่เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ไม่สามารถประชุมได้ เพราะกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก เมื่อไม่ครบองค์คณะจะประชุมทำไม และได้ให้เลขานุการ ศอตช.นัดประชุมใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเขาโทรศัพท์มาชี้แจงถือว่าจบ ไม่จำเป็นต้องรายงานนายกฯ แต่ถ้าไม่โทรศัพท์มาคงต้องรายงาน” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
** “บิ๊กตู่” เมินเซ็นต์ทวงเงิน “ปู”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ่งว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ รมว.คลัง หรือ รมช.คลัง เป็นผู้ลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ จำนวน 3.57 หมื่นล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า น่าจะมีการลงนามได้ภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้
ด้าน นายสมชัย เปิดเผยว่า พร้อมที่จะลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ซึ่งการลงนามนั้นเป็นไปตามข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ โดยยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะทำตามกระบวนการของกฎหมาย และปฏิบัติตามหน้าที่เท่านั้น
** “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯฟัน “บิ๊กป้อม”
วันเดียวกัน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีนำคณะเดินทางร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯอย่างไม่เป็นทางการ ที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2551 และการไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ขัดต่อค่านิยมหลัก 12 ประการของหัวหน้า คสช. โดยมี นายดนัย จันทิม ผอ.สำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เป็นผู้รับเรื่อง
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเน้นความประหยัด มัธยัสถ์ มีการวางหลักค่านิยม 12 ประการ ให้มีการปฏิบัติตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง การที่ พล.อ.ประวิตร นำคณะทำงานชุดใหญ่รวม 38 คน เดินทางไปประชุมที่ฮาวายอย่างไม่เป็นทางการ ใช้วงเงินงบประมาณ 20.9 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐอย่างไม่เหมาะสม
“เมื่อวันที่ 10 ต.ค. รองนายกฯออกมาพูดว่า ผมเป็นโสดจะยุ่งกับใครก็ได้ ท่านเป็นถึงรองนายกฯ น่าจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม ดังนั้นเห็นว่าอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการฯ จะตรวจสอบ อย่างน้อยก็ให้มีคำวินิจฉัยเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปฏิบัติตนไปในแนวทางที่จะไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี หรือเตือนว่าอย่าได้มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้เกิดขึ้นอีก” นายศรีสุวรรณ ระบุ
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า อีกทั้งสิ่งที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ และออกมาบอกว่า ไม่พบความผิดปกติ ตนยังคลางแคลงใจ สตง.น่าจะทำหน้าที่ได้มากกว่านี้ ใช้ระยะเวลามากกว่านี้ สิ่งที่ สตง.ออกมายืนยันส่อพิรุธ ตนอาจจะมาร้องผู้ตรวจการฯ ว่า สตง.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ สตง. แจ้งผลการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน.
วานนี้ (11 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณี นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังไม่ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาข้อมูลตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องรับผิดชอบทางละเมิด ในโครงการรับจำนำข้าว อีกร้อยละ 80 เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า ทางกระทรวงการคลังไม่ได้เบี้ยวประชุม โดยนายสมชัยได้โทรศัพท์มาขอโทษตนภายหลังการประชุมว่า เกิดจากข้อผิดพลาดในการส่งเอกสารแจ้งประชุม จึงบอกว่าไม่เป็นไร สำหรับเรื่องข้าวนั้น การตรวจสอบจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน แต่เมื่อมีกรอบเวลากำหนดไว้จำเป็นต้องทำให้ทัน ทุกคนต้องทำทั้งวันทั้งคืนหากจำเป็น เบื้องต้นจากที่คุยในที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนมีข้อมูลเรื่องข้าว ในส่วนของคดีอาญามีการฟ้องไปยังศาล ส่วนเรื่องทางแพ่งมีการเรียกค่าเสียหายในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 20 ไปแล้ว จึงไม่น่าจะช้า เพียงแต่เราต้องการข้อมูลให้ครบถ้วน
“ผมไม่ได้บอกว่าปลัดกระทรวงการคลังเบี้ยว แต่เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ไม่สามารถประชุมได้ เพราะกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก เมื่อไม่ครบองค์คณะจะประชุมทำไม และได้ให้เลขานุการ ศอตช.นัดประชุมใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเขาโทรศัพท์มาชี้แจงถือว่าจบ ไม่จำเป็นต้องรายงานนายกฯ แต่ถ้าไม่โทรศัพท์มาคงต้องรายงาน” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
** “บิ๊กตู่” เมินเซ็นต์ทวงเงิน “ปู”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ่งว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ รมว.คลัง หรือ รมช.คลัง เป็นผู้ลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ จำนวน 3.57 หมื่นล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า น่าจะมีการลงนามได้ภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้
ด้าน นายสมชัย เปิดเผยว่า พร้อมที่จะลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ซึ่งการลงนามนั้นเป็นไปตามข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ โดยยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะทำตามกระบวนการของกฎหมาย และปฏิบัติตามหน้าที่เท่านั้น
** “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯฟัน “บิ๊กป้อม”
วันเดียวกัน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีนำคณะเดินทางร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯอย่างไม่เป็นทางการ ที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2551 และการไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ขัดต่อค่านิยมหลัก 12 ประการของหัวหน้า คสช. โดยมี นายดนัย จันทิม ผอ.สำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เป็นผู้รับเรื่อง
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเน้นความประหยัด มัธยัสถ์ มีการวางหลักค่านิยม 12 ประการ ให้มีการปฏิบัติตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง การที่ พล.อ.ประวิตร นำคณะทำงานชุดใหญ่รวม 38 คน เดินทางไปประชุมที่ฮาวายอย่างไม่เป็นทางการ ใช้วงเงินงบประมาณ 20.9 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐอย่างไม่เหมาะสม
“เมื่อวันที่ 10 ต.ค. รองนายกฯออกมาพูดว่า ผมเป็นโสดจะยุ่งกับใครก็ได้ ท่านเป็นถึงรองนายกฯ น่าจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม ดังนั้นเห็นว่าอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการฯ จะตรวจสอบ อย่างน้อยก็ให้มีคำวินิจฉัยเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปฏิบัติตนไปในแนวทางที่จะไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี หรือเตือนว่าอย่าได้มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้เกิดขึ้นอีก” นายศรีสุวรรณ ระบุ
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า อีกทั้งสิ่งที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ และออกมาบอกว่า ไม่พบความผิดปกติ ตนยังคลางแคลงใจ สตง.น่าจะทำหน้าที่ได้มากกว่านี้ ใช้ระยะเวลามากกว่านี้ สิ่งที่ สตง.ออกมายืนยันส่อพิรุธ ตนอาจจะมาร้องผู้ตรวจการฯ ว่า สตง.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ สตง. แจ้งผลการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน.