ทำได้แค่เตือน! มติผู้ตรวจฯยุติปม “ศานิตย์” นั่งที่ปรึกษาไทยเบฟ โยน ป.ป.ช.ตัดสิน

ผู้ตรวจฯมีมติยุติเรื่องปม “ศานิตย์” รับเงินที่ปรึกษา บ.ไทยเบฟ อ้างหลักฐานยังไม่ชัดเจน ชี้หน้าที่พิสูจน์รับจริงไม่จริงเป็นของ ป.ป.ช. แต่เตรียมร่อนหนังสือเตือน เป็น ขรก. ชั้นผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี จะอ้างผิดหลงในการให้ข้อมูล จนทำให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ ตร. ไม่ได้

วันนี้้ (14 มี.ค.) นายรักษเกชา แฉฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติให้ยุติเรื่องกรณีที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า รับเงินจากการเป็นที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เดือนละ 50,000 บาท เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ รับเงินดังกล่าวจริง เพราะแม้ พล.ต.ท.ศานิตย์ จะแจ้งต่อ ป.ป.ช. ก็เป็นแค่เอกสารประกอบที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลต่อผู้ตรวจฯว่า ป.ป.ช. จะตรวจสอบก็ต่อเมื่อพ้นจากตำแหน่ง จึงจะนำทรัพย์สินมาเปรียบเทียบว่ามีหนี้สินและทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหรือลดลงจริงตามที่ได้มีการแจ้งหรือไม่ ประกอบกับทั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ และบริษัท ไทยเบฟฯ ก็มีหนังสือแจ้งผู้ตรวจฯ ว่า ไม่ได้จ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ และ พล.ต.ท.ศานิตย์ ก็ได้แจ้งว่าที่มีหนังสือแจ้งต่อ ป.ป.ช. นั้น เป็นการผิดหลงในการให้ข้อมูล เพราะให้คนอื่นเป็นผู้ทำเอกสาร

อย่างไรก็ตาม ทางผู้ตรวจฯ เห็นว่าแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าว แต่ก็จะมีข้อสังเกตตักเตือนไปยังพล.ต.ท.ศานิตย์ ว่า เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ต้องมีความรอบคอบในการให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารให้ เพราะตัวเองต้องเป็นผู้เซ็นรับร้องและรับผิดชอบกับเอกสารนั้น เพื่อยื่นให้หน่วยงานสำคัญ การจะมาอ้างเรื่องผิดหลงจึงไม่สมควร

“การเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และโดยตำแหน่งท่านมีหน้าที่ต้องควบคุม กำกับดูแลเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การแจ้งข้อมูลโดยอ้างว่าผิดหลงดังกล่าวจึงเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ล่อแหลม หมิ่นเหม่ อาจทำให้ถูกกล่าวหาได้ว่ามีผลประโยชน์กับบริษัทเครื่องดื่ม ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์การทำหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้การดำเนินการในอนาคตต้องระมัดระวังมากกว่านี้” เลขาธิการผู้ตรวจฯ กล่าวและว่า หลังจากนี้ ทางผู้ตรวจฯจะได้ทำการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการแจ้งไปยังผู้ร้องรวมทั้งผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ทั้งในฐานะ ผบช.น. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

นายรักษเกชา ยังกล่าวด้วยว่า คำวินิจฉัยของผู้ตรวจในครั้งนี้ไม่ได้บอกว่าผิดหรือไม่ผิด เพราะผู้จะชี้ว่าพล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นที่ปรึกษารับเงินจริงหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ส่วนทางผู้ตรวจฯพิจารณาในเรื่องของจริยธรรมเท่านั้น เมื่อยังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนจึงไม่สามารถบอกได้ แต่ถ้าในอนาคตปรากฏว่า ทาง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นที่ปรึกษาจริงจะต้องพิจารณากันอีกที่หนึ่ง