xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เบรกปรับ ครม.ลดแรงกระเพื่อม-เดินหน้าลุยแก้ ศก.!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เปิดทำงานปีใหม่กันมาสองสามวันแล้ว กลับมาพบกับสภาพความเป็นจริงกันอีกครั้ง แน่นอนว่ามีสารพัดปัญหาที่รอการแก้ไขจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลักๆ ก็มีทั้งเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจ เป็นตัวชูโรงหลัก เพราะเวลาที่เหลือนับจากนี้ล้วนเข้าสู่ทางตรงกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเป้าหมายการปฏิรูป การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะยกร่างกันรายมาตราภายในนี้ แน่นอนว่าต้องมีความเคลื่อนไหวทั้งสนับสนุนและคัดค้านตามมาอย่างเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้ได้ฟังการวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในปีใหม่ 2558 ของกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่อ่านสถานการณ์ล่วงหน้าได้ตรงใจพอสมควร โดยเขามองว่าขึ้นอยู่ตัวแปร 3 ประการ นั่นคือ 1. คือ ความคาดหวังจากสังคมว่าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) จะเข้ามาแก้ปัญหาการทุจริตและเอาผิดต่อนักการเมืองที่ทำผิดอย่างจริงจัง แม้ว่าในระยะแรกจะได้เห็นภาพการโยกย้ายปรับเปลี่ยนแต่ระยะหลังดูจะไม่ค่อยสมหวังนัก รวมไปถึงกรณีการถอดถอนนักการเมือง คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว หากผลออกมาไม่เป็นที่พอใจของประชาชนที่เฝ้ามองอยู่ นั่นคือออกมาเป็นลบ มันก็จะเกิดปัญหาตามแน่

ประการที่ 2 ที่ บัญญัติ บรรทัดฐาน มองเห็นเหมือนกับที่ทุกคนมองเห็นก็คือ “คลื่นใต้น้ำ” จะเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น แต่เขาก็เตือนว่ารัฐบาลต้องแยกให้ออกระหว่างพวกเจตนาป่วน กับพวกที่แสดงความเห็นทางวิชาการ เสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ อย่าเหมารวมปิดกั้นหมด จะทำให้เกิดคยามกดดันและเกิดความเครียดเพิ่มขึ้น

ประการที่ 3 ที่เห็นว่าสำคัญที่สุดก็คือ ด้าน “เศรษฐกิจ-ปากท้อง” ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ โดยมองว่าเวลานี้กำลังซื้อของชาวบ้านแทบไม่มีเลย บรรยากาศตามต่างจังหวัดเวลานี้เงียบเหงามาก เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การส่งออกทรุดเนื่องจากประเทศคู่ค้าหรือตลาดของไทยมีภาวะเศรษฐกิจแย่หมด ขณะที่การลงทุนก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง แม้ว่าพิจารณาจากตัวเลขขอการส่งเสริมการลงทุนจะมีมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นการลงทุนจริง และช้าต้องใช้เวลา ซึ่งภาวะเหล่านี้หากยังแก้ไขไม่ได้เร็วก็จะเกิดความเครียด โดยเฉพาะต้องแก้ปัญหาความคาดหวังของชาวบ้านที่เคยมีมาในช่วงที่เข้ามาในตอนแรก และที่ต้องระวังก็คือ"เมื่อมีแรงกดดันมาก ก็จะมีแรงต่อต้านมาก"แม้ว่าจะมีกฎอัยการศึกบังคับเอาไว้ แต่ในที่สุดแล้วก็จะคลายความศักดิ์สิทธิ์ลงไปเรื่อยๆ

นั่นเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์จากผู้อาวุโสทางการเมืองคนหนึ่ง ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธได้ยาก ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยอมรับว่ามีปัญหาแบบนี้จริงหรือเปล่า

เพราะสิ่งที่น่าสังเกตก็คือ เมื่อวันก่อน แม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นเป็นประธานโน่นนี่นั่น รวมทั้งเป็นกรรมที่ที่มีนายกฯ เป็นประธานอีกนับไม่ถ้วน ยังเอ่ยปากยอมรับออกมาเองว่าเวลานี้ “การเบิกจ่ายเงินยังลงไปไม่ถึงข้างล่าง” นั่นคือชาวบ้าน ความหมายก็คือการเบิกจ่ายงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นงบค้างท่อ หรืองบประมาณปี 58 ยังไปไม่ถึงไหน รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังล่าช้า

ล่าสุดมีการระบุว่า การจ่ายเงินชดเชยให้ชาวสวนยางพาราจะดำเนินการเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม คำถามก็คือต้องรอลุ้นกันไปถึงปลายปีเชียวหรือ นี่ก็คือปัญหาของระบบราชการที่มีขั้นตอนยุบยิบไปหมด ถึงขนาดที่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็เคยบ่นออกมาดังๆ ให้ได้ยินมาแล้ว

เมื่อพิจารณาจากภาพรวมเท่าที่เห็นถือว่ายังหนักหนาไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และอย่าได้แปลกใจที่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาเบรกเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงยืนยันข่าวรัฐมนตรี 3 นายพล ไม่ทิ้งตำแหน่งในกองทัพ และย้ำว่าไม่มีการปฏิวัติเด็ดขาด ความหมายก็เพื่อต้องการให้ทุกอย่าง “นิ่ง” ที่สุด ซึ่งหากเป็นแบบนี้ก็ทำให้คาดการณ์การปรับคณะรัฐมนตรีคงไม่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ในช่วง 3 เดือนนี้ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าทีมขันนอต” รัฐมนตรีรายบุคคลกันไปแล้ว ก็ต้องให้เวลาปรับปรุงแก้ไขอีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้นหากทุกอย่างนิ่งจริง ก็สามารถมีสมาธิในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องนี้แหละสำคัญที่สุด!!
กำลังโหลดความคิดเห็น