รองนายกฯ-รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะประชุม กก.ป้องกันค้ามนุษย์ เตรียมส่งรายงานแจงสหรัฐฯ สิ้นเดือนนี้ ออกโรงป้อง “ศรีวราห์” เด้งนายตำรวจพัวพันป้ายโฆษณาฉาว ยันย้ายตามขั้นตอน เป็นเรื่องของ ก.ตร. ถ้าไม่เป็นธรรมร้อง ผบ.ตร.ได้ ไล่ไปถาม “บิ๊กจิ๋ว” ปูด 3 นายทหารลาออก เตือนเรื่องมโนอย่าไปเขียน ยัน “สมยศ” สานต่อโรงพักทดแทนทำตามขั้นตอน ชัดถ้อยชัดคำ “ไม่มีฮั้ว”
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการค้ามนุษย์ รวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวในการประชุมว่า ผลความคืบหน้าในการดำเนินการทั้งหมดจะนำรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทราบในวันที่ 7 ม.ค. ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการและต้องจัดทำรายงานส่งให้สหรัฐอเมริกาภายในสิ้นเดือนมกราคม เพราะมีห้วงระยะเวลากำหนดรัฐบาลไทยต้องจัดทำรายงานส่ง เพราะฉะนั้นเราต้องทำเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ และอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ต้องชี้แจงส่งรายละเอียดที่ชัดเจนให้สหรัฐฯ อีกครั้ง เพื่อลดระดับจากเทียร์ 3 ต่ำสุดในการตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย ปรับขึ้นมาเป็นเทียร์ 2
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โยกย้ายนายตำรวจที่พัวพันคดีป้ายโฆษณาติดตั้งบนป้อมจราจรออกนอกหน่วยว่า “เขาผิดหรือเปล่าล่ะ” เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมถามว่าเขาผิดหรือเปล่า ผิดไหมล่ะ ถ้าย้ายต้องผิด ถ้าไม่ผิด เขาย้ายได้ไหม ต้องถามว่าเขาผิดหรือเปล่าก่อน” เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้ทางตำรวจที่ถูกโยกย้ายจะขอความเป็นธรรม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาผิดหรือเปล่าถึงขอความเป็นธรรม เป็นอำนาจของทางผู้บัญชาการ เขาเป็นคนทำ ซึ่งต้องตกลงรับผิดชอบ ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วไปย้ายคนส่งเดชได้เมื่อไหร่ และตนไม่ต้องให้นโยบายกับทางตำรวจด้วย เพราะถือเป็นอำนาจของผู้บัญชาการ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาทุกคน
“ถามว่าเขาผิดหรือเปล่า การย้ายเขามีคณะกรรมการ ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ในการตรวจสอบ ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ เพราะว่าเขามีเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ การโยกย้ายไม่ใช่อยากจะย้ายใครก็ย้ายได้ เพราะเขามีขั้นตอนการดำเนินการ และผมไม่ต้องให้นโยบาย เขาก็ต้องหาคนดีมาทำงาน ใช่ไหมล่ะ” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่ายังไม่ได้รับรายงานอะไรทั้งสิ้น การโยกย้ายเป็นอำนาจของผู้บัญชาการ ส่วนตนเป็นประธาน ก.ตร.ซึ่งต้องเข้าใจ ตอนนี้ต้องสร้างความเป็นธรรม
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวมีกำหนดเวลาในการสอบสวนหรือไม่ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากอยู่ในคดี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก.ตร. กำหนดประชุมเป็นระยะเวลานาน และวันที่ 7 ม.ค. ก็จะมีการประชุม แสดงว่ามีการดำเนินการมาในทุกขั้นตอนแล้ว ไม่สามารถทำผิดขั้นตอนได้ เมื่อถามว่าแสดงว่าเริ่มมีมูลความผิดใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรื่องนี้คณะกรรมการ ก.ตร.ต้องไปดำเนินการ ส่วนผู้บัญชาการก็ต้องชี้แจงว่าจะย้ายใคร ไม่ใช่ทำโดยตามอำเภอใจ
“นี่ถามเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ส่วนเรื่องร้องเรียนกับ ผบ.ตร. ผมไม่รู้ แต่โดยธรรมชาติผู้บังคับบัญชาต้องรับเรื่องร้องทุกข์ในทุกระดับขั้น คนไหนมีทุกข์เขาก็ทำเรื่องร้องทุกข์ ก็โอเคต้องรับแล้วต้องพิจารณากันไปตามขั้นตอน แล้วผู้มีอำนาจก็จะให้อำนาจในการดูแลว่าควรหรือไม่ควรอย่างไร” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่าเมื่อมีการตรวจสอบแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องต่อ ผบ.ตร.ได้ ที่ผ่านมาก็มีการเยียวยาไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาไม่ทำอย่างที่คิดกันหรอก
เมื่อถึงการปฏิวัติรวมถึงการลาออกของ 3 นายพลกองทัพบก พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า อย่าถามเรื่องการปฏิวัติ อย่าถามเรื่องการลาออกของ 3 นายทหารที่เป็นข่าว เพราะเขาตอบมากันเท่าไหร่แล้ว เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีการลาออกจริง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใครลาออก ก็ไปถาม พล.อ.ชวลิต อย่ามาถามตน หากลาออกก็ยืนยันมาว่าลาออก มีที่ไหนในเมื่อผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อถามอีกว่ามีการยุแย่กันเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่รู้ ผมไม่รู้ แต่ผมเอาข้อเท็จจริงมาพูด อย่าไปเขียน เรื่องมโน อะไรอย่างนี้ไม่เอา ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการสานต่อโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน รองนายกฯ กล่าวว่า เขาทำไปตามกฎหมาย อะไรที่ผิดอะไรที่ถูกหรือเมื่อได้งบประมาณมาเขาก็ทำ เมื่อตนเข้ามาดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
“ไม่มีฮั้วนะ หากมีการฮั้วก็จะมีกฎหมายเข้าไปตรวจสอบ คนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ” พล.อ.ประวิตรกล่าว
