xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโด่ง” ให้พรปีใหม่ กอ.รมน. สั่งลุยปรองดองเพื่อปฏิรูป โต้ 3 นายพลเออร์ลีฯ จี้เลิกกุข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก(แฟ้มภาพ)
ผบ.ทบ.อวยพรปีใหม่ กอ.รมน.เผยนายกฯ ชี้เป็นหน่วยหลักสร้างสามัคคี ปกป้องสถาบัน ยกเป็นส่วนหนึ่งแก้ปัญหาชาติ ก่อนย้ำให้เดินหน้าปรองดองเพื่อปฏิรูป สั่งเข้มยาเสพติด-ป่าไม้-จชต. รับคุยสันติสุขใต้ต้องใช้เวลา ทุกอย่างทำตามขั้นตอน งงข่าว 3 นายพลเออร์ลีรีไทร์มานั่งแต่ รมต. ยันแบ่งทำงานได้ไร้ปัญหา ขอเลิกจุดประเด็น ให้เดินตามโรดแมป ยันไม่กดดัน แนะอยากให้เรือถึงฝั่งเร็วอย่าทำให้มีคลื่น

วันนี้ (6 ม.ค.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้โอวาทและอวยพรกำลังพล ข้าราชการ และลูกจ้างสังกัดกอ.รมน.เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ โดยมี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. และข้าราชการของ กอ.รมน.ให้การต้อนรับ

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนได้นำสารอวยพรปีใหม่ประจำปี 2558 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะ ผอ.รมน. มาเผยแพร่ให้ได้รับทราบ โดยมีเนื้อหาดังนี้ กอ.รมน.ถือเป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติหน้าที่แก้ปัญหาเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ พร้อมทั้งทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องพิทักษ์เทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์ กำลังพลของ กอ.รมน.ทุกคนจึงต้องทำหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ด้วยสติปัญญา จึงขอขอบคุณกำลังพลของ กอ.รมน.ทุกคนที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ลดความขัดแย้งจนนำไปสู่ความผาสุกของประเทศ

หลังจากนั้น พล.อ.อุดมเดชได้ให้โอวาทและอวยพรกำลังพลว่า ขอชมเชยกำลังพล ข้าราชการและลูกจ้าง กอ.รมน.ที่ปฏิบัติงานได้ดีมาโดยตลอด ทุกคนตั้งใจ ทุ่มเท เสียสละ แม้งานบางอย่างยังไม่สมบูรณ์ แต่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงทราบว่างานของ กอ.รมน.นั้นมีอุปสรรคพอสมควร จึงพยายามทำความเข้าใจและปรับปรุงให้การทำงานก้าวหน้ายิ่งขึ้น ตนมั่นใจว่าที่ผ่านมา กอ.รมน.ได้แสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ที่ได้ทำไว้ให้กับประเทศชาติในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดอยู่เสมอว่า กอ.รมน.เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ ดังนั้นอยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตัวเอง และมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้

พล.อ.อุดมเดชยังให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลเรื่องความปรองดองของคนในชาติในปี 2558 ว่า ในปีนี้ได้มีการเน้นย้ำเรื่องการสร้างความปรองดอง เพราะเป็นปีที่จะต้องดำเนินการเรื่องปฏิรูป โดยที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้นโยบายไว้แล้วว่างานปฏิรูปและการสร้างความปรองดองเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) โดย กอ.รมน.ได้ดูแลเรื่องดังกล่าวนี้ และได้สั่งการไปยัง กอ.รมน.จังหวัดทำหน้าที่งานปรองดองสมานฉันท์ทั้งนี้ทุกคนจะต้องเข้าใจงานปฏิรูป พร้อมทั้งจัดเวทีรวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ นำมาให้กับคณะกรรมการที่รัฐบาลได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังได้เน้นย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่รัฐบาลได้ขอให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็วางโครงข่ายหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองกำลังป้องกันชายแดน กับ กอ.รมน.ต้องมีการเชื่อมโยงด้านข้อมูลการข่าวร่วมกับส่วนราชการอื่น ซึ่งต้องเพิ่มผลการปฏิบัติให้ดีขึ้นต่อไป รวมถึงการดูแลเรื่องป่าไม้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องวางแผนรวมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการใช้กำลังคนร่วมกับ กอ.รมน.และกองทัพช่วยดูแลเสริมจากส่วนราชการหลัก อีกทั้งเรื่องการดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปรับปรุง โดยนายกฯ ได้ออกคำสั่งให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ดำเนินการบูรณาการกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ โดยเฉพาะแผนงานหรือโครงการจะต้องรับทราบความต้องการของประชาชนที่แท้จริงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานแผนงานในรอบปี 2558 ผมได้เน้นย้ำให้กำลังพลของ กอ.รมน. ขอให้มองประชาชนในพื้นที่ด้วยความรักและความอบอุ่น ใครก็ตามที่เห็นแตกต่างทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องพยายามเข้าไปทำความเข้าใจ เราไม่ได้ไปปราบปราม แต่ไปเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ถ้าทุกคนเข้าใจตนคิดว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น

พล.อ.อุดมเดช กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขว่า ที่ผ่านมาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพูดคุยเพื่อสันติสุขแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องรายละเอียดซึ่งจะต้องให้ พล.ออักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขเป็นผู้ชี้แจงด้วยตนเอง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน ไม่สามารถเร่งรีบได้ เนื่องจากเราไม่ได้ดำเนินการฝ่ายเดียว เพราะต้องมีทุกฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยที่จะต้องไปดำเนินการประสานงาน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจและเต็มใจ แต่จะต้องใช้เวลา โดยทุกอย่างไม่ได้หยุดนิ่ง โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ทาง พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้ดำเนินการในพื้นที่พยายามให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันและเกิดความไว้ใจระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเราก็พยายามรับข้อมูลและรวบรวมข้อคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป

พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า 3 นายพล ได้แก่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์และรอง ผบ.ทบ. และพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการและหัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชากองทัพบก อาจจะลาออกจากตำแหน่งทหารก่อนเกษียณอายุราชการ (เออร์ลีรีไทร์) ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อไปทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวว่า ตนไม่รู้ว่าเกิดข่าวนี้มาได้อย่างไรและคิดว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่รู้ว่าข่าวนี้เกิดมาได้อย่างไร เพราะจากที่เราทำงานกันมาทุกคนที่มีตำแหน่งและได้รับการแต่งตั้งเพิ่มเติมได้ทำหน้าที่มาด้วยดีและไม่มีปัญหาอะไร สามารถแบ่งเวลาในการปฏิบัติงานได้ ทุกคนทำหน้าที่ได้ไม่มีปัญหา

“คิดว่าสิ่งต่างๆ ผู้ที่เริ่มข่าวจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ผมไม่สามารถรับทราบได้ แต่คิดว่าถ้าเริ่มข่าวโดยมีความตั้งใจแอบแฝง ผมคิดว่าท่านไม่ปรารถนาดีเท่าไหร่ ขอให้กลับไปคิดว่าเริ่มข่าวนี้อย่างไรและทำไม ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เรามีสภาวะเหมือนปกติ ทั้งที่ผ่านมาจริงๆแล้วไม่ปกติจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เสียสละตั้งแต่เป็นหัวหน้า คสช. เข้ามาดำเนินการจนขณะนี้มีรัฐบาลตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการ อีกทั้งต่างชาติก็ยอมรับรัฐบาลแล้ว สามารถควบคุมสถานการณ์ให้ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว ไม่มีม็อบ ไม่มีความร้ายแรง ไม่มีใครใช้อาวุธสงครามในพื้นที่เมือง กทม. ไม่มีเอ็ม 79 ตกลงไปในกลุ่มคนที่ทำให้เด็ก ผู้หญิง และคนชราเสียชีวิต เราอย่าลืมตรงนี้ไปว่าถ้าไม่มีการควบคุมสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นแล้วเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด ดังนั้นต้องเข้าใจกัน” พล.อ.อุดมเดชกล่าว

พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า การที่เราต้องทำงานหลายๆด้านนั้นมีความจำเป็น ต้องมาช่วยกันดูแลเมื่อผ่านพ้นขั้นตอนที่นายกฯกำหนดตามโรดแมปก็เข้าสู่การเลือกตั้งที่สมบูรณ์และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามขั้นตอน แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเริ่มมาจากสภาวะที่ไม่ปกติและเราต้องรักษาสถานการณ์ให้ปกติ ขณะนี้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นปกติจนลืมไปว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่กี่เดือนมันไม่ปกติและมีความรุนแรงมาก สิ่งเหล่านั้นทุกคนต้องช่วยกันให้ทุกอย่างเป็นปกติที่สมบูรณ์ตามโรดแมประยะที่ 3 แต่ข่าวต่างๆที่ออกมาจากบางคนที่จุดประเด็นอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ขอให้พอและไม่ต้องพูดอะไรตรงนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปได้และจะตั้งใจทำให้ดี

“วันนี้อยากให้ข่าวนี้เป็นวันสุดท้าย เพราะเกี่ยวข้องกับคนในกองทัพบก ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นในเรื่องของข่าวสารที่ทุกคนก็พูดว่าไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่ทราบ ไม่ควรเป็นเรื่องที่ต้องนำมาขยายความกันต่อไป จริงๆ ผมอยากพูดเรื่องนี้ให้น้อย แต่ถ้าถามก็จะพูดว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนแบ่งเวลาและแบ่งงานได้ ผมเองก็มีหลายหน้าที่ที่เกื้อกูลต่องานของฝ่ายความมั่นคง ทำให้ผมเห็นภาพงานที่จะทำให้กระชับและราบรื่นยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการเสริมงานด้วยซ้ำไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร” พล.อ.อุดมเดชกล่าว

เมื่อถามว่ามองว่าข่าวนี้มีเป้าหมายกดดันตัวท่านเองหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนไม่ได้กำหนดตัวเอง และเป็นอะไรก็ได้ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาเห็นความเหมาะสม รวมถึงผู้ที่มีชื่อถูกพาดพิงนั้นเป็นอะไรก็ได้ ถ้าถูกสั่งการหรือถูกกำหนดให้มาช่วยกันทุกคนก็ยินดีที่จะทำทุกอย่างตามกำลังตามสามารถที่สติปัญญาของตนเองมี คิดว่าไม่ได้กดดันอะไร เพราะไม่มีผลว่าจะกดดันอะไร เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสข่าวจากคนที่เข้าใจในทางไม่ดี แต่ผู้ที่ปฏิบัติงานก็ไม่มีอะไร ตนไม่อยากให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้ เพราะมีเรื่องต่างๆที่ต้องทำอีกมาก อย่างไรก็ตามการทำงานในขณะนี้มีความรู้สึกที่เรียบร้อย ราบรื่น และสามัคคี อย่าไปย้อนนำเรื่องต่างๆ ที่อาจมีคนตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หากไม่ตั้งใจก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าตั้งใจคนที่เริ่มขอให้พอได้แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าคนที่เริ่มคือคนในกองทัพหรือคนนอกกองทัพ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า “ผมไม่ทราบเหมือนกัน คนที่เริ่มจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คนที่พูดคนแรกรู้ตัวดี ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน ไม่ขอขยายความต่อไป ทุกคนที่มาลงเรือพยายามแก้ไขปัญหา แต่ทุกอย่างต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน หากยังคิดแล้วมาพูดต่างๆมันทำให้รัฐนาวาของเราเดินได้ไม่เรียบ ถ้าเดินเรียบมันจะแก้เร็ว หากคลื่นแรงเรือก็ช้า ถ้าเราอยากให้เรือไปถึงฝั่งเร็วก็ต้องไม่ให้มีคลื่น เพราะฉะนั้นใครจะคิดอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดคลื่นต้องไม่ตอกเรื่องเหล่านั้น มันจะได้เรียบและสำเร็จโดยเร็ว”

เมื่อถามต่อว่า หมายความว่าถ้ามีคลื่น คสช.จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า นายกฯ ได้ระบุโรดแมปแล้วและทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน


กำลังโหลดความคิดเห็น