xs
xsm
sm
md
lg

"ประยุทธ์"สยบข่าวป่วน-ปฏิวัติ ไม่โยกย้ายไม่ปรับครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (6 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับ ครม.ว่า ข่าวลือที่ว่าจะให้รัฐมนตรีบางคนที่ควบตำแหน่งข้าราชการประจำ ลาออกจากตำแหน่งข้าราชการประจำเพื่อมาทำหน้าที่รัฐมนตรีอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นความจริง
"คนอนุมัติมีเพียงคนเดียว คือผม คนที่จะปรับรัฐมนตรี ก็คือผม วันนี้ผมยังไม่ได้อะไรทั้งสิ้น ไม่มีใครลาออกทั้งสิ้น และผมไม่ได้ให้ใครลาออก ถ้าจะให้ใครลาออก ผมคงไม่ให้เขาเข้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว วันนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ก็บัญญัติไว้ชัดเจนให้ข้าราชการประจำสามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและบริหารงานได้ ซึ่งรัฐมนตรีที่เป็นข้าราชการประจำก็ทำงานหนักเป็นสองเท่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ทำงาน ทั้งท่านผบ.ทบ. และรอง ผบ.ทบ. ก็ทำงานสองอย่าง ซึ่งผมว่าทำงานสองอย่าง ทำได้เยอะกว่าคนทำอย่างเดียวจะบอกให้ เพราะเขาทำสองอย่าง ทำงานด้วยความตั้งใจ พวกผมตั้งใจทำงานเพราะรู้ว่าเวลาเรามีจำกัด และปัญหามีเยอะ ผมจึงได้ขอร้องให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ บางคนทำงานทั้งเช้าเย็น กลางคืนก็ทำงาน หรือจัดแบ่งเวลาซึ่งผมคิดว่าไม่ยาก บริหารงานให้ได้เพราะมีลูกน้อง มีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ ก็มอบหมายคนที่ไว้วางใจให้ทำงานต่อให้นโยบายสั่งงานลงไป หรือบางอย่างก็ไปทำเองก็ไม่เห็นยาก ถ้าจะทำ มันมีเวลา มีใจ ทุก คนมีใจในการทำงาน ไม่มีใครลาออก ผมไม่ได้ให้ใครลาออก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการปรับย้ายแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพใหม่ เป็นสิทธิเป็นอำนาจของตนในการอนุมัติ ซึ่งก็มีคณะกรรมการแต่งตั้งอยู่แล้ว ตาม พ.ร.บ.กลาโหม ก็จะมีการเสนอขึ้นมาตามขั้นตอน และการปรับย้าย จะไม่ทำกันกลางปี เว้นแต่จะมีความผิด ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีการปรับ จะไปดำเนินการในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการปรับย้ายหลัก ส่วนการปรับในเดือนเมษายนนั้น ถือเป็นการปรับเพื่อหมุนเวียน เพื่อรอเกษียณ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการปรับย้ายใดๆทั้งสิ้น
" ยืนยันว่า ผบ.เหล่าทัพยังไม่มีการปรับย้าย และไม่เห็นว่าจะไปเดือดร้อนใคร ไม่ใช่ว่าจะปรับเพราะไม่มั่นใจอำนาจ เพราะผมไม่ได้ต้องการอำนาจ วันนี้ผมเพียงต้องการอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินในการปกครอง เพื่อบังคับบัญชาเท่านั้น ไม่ใช่เอามาปกป้องผม ผมถือว่าทุกคนทำงานพื่อชาติบ้านเมือง คิดว่าทุกคนจะไปคิดอะไรที่ไม่ใช่เรื่อง ทหารไม่ได้คิดแบบพลเรือนทั่วไป อย่ามากังวลผมในเรื่องนี้ ถ้าอยู่ได้ก็คืออยู่ได้ ประชาชนยอมรับในการทำงาน แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็คืออยู่ไม่ได้ ประชาชนไม่ยอมรับการทำงาน วันนี้ต้องดูว่ามันดี หรือแย่กว่าเดิม ก็ต้องไปหาคำตอบเองเอง ถ้าการทำงานแย่กว่าเดิม ก็ขอให้บอกมา จะได้แก้ไข" นายกรัฐมนตรี กล่าว

**ไม่คิดดัน"น้องชาย"นั่งผบ.ทบ.

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีรัฐมนตรีคนใดมาบ่นถึงเรื่องการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครมาบ่น ตนเองก็ได้ให้กำลังใจกับทุกคน โดยเฉพาะกับรัฐมนตรี 3- 4 คน ที่ทำงานหนัก ซึ่งทุกคนก็บอกว่าไหว “ทุกคนบอกผมทำให้ได้ ช่วยพี่ได้ ผมทำเพื่อบ้านเมือง ไม่เห็นใครเดือดร้อนเลย”
เมื่อถามว่ามองว่าเป็นเรื่องของคลื่นใต้น้ำ ที่มีการเคลื่อนไหวอยากให้มีการปรับตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“ไม่มีคลื่น ข่าวก็ปล่อยมาจากพวกเรานั่นแหละ สื่อก็อย่าเขียนข่าวกันมาก นักข่าวที่ออกมายืนยันว่าไม่มีมูล โดยเฉพาะเรื่องน้องชาย ( พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ) ของผม ก็ไม่เกี่ยว วันนี้ไม่มีคำว่า น้องชาย มีแต่ข้าราชการกองทัพบก วันนี้ผมไม่ได้อยู่ในกองทัพบก ก็ให้สิทธิ ผบ.ทบ. เป็นผู้ตัดสินเป็นผู้พิจารณา อย่ามากังวลกับผม ยืนยันว่าไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่ในทางที่ผิดอยู่แล้ว กองทัพบกเขามีคำว่าอาวุโส ถึงแม้จะมีรุ่น หรือเกษียณพร้อมกัน แต่ก็ต้องดูว่าใครอาวุโสกว่า หรือหากมีความจำเป็นเหตุผลอย่างอื่น เช่น ทำงานได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า คณะกรรมการพิจารณาของกองทัพบก ก็ต้องว่ากันไปไม่เกี่ยวกับผม อย่ามากังวลว่าผมจะต้องเอาคนนั้น คนนี้มา ที่ผมพูดใครจะเป็น ก็เป็นไป ไม่ได้มีผลกับผม เพราะผมถือว่ากองทัพบกก็คือกองทัพบกของชาติ และประชาชน และผมก็ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน และเชื่อว่าทุกกองทัพมีความเข้มแข็งอยู่แล้วผมไว้ใจทุกคน ไม่มีใครทำนอกกรอบ และผมก็ไม่เคยไปละลาบละล้วง คนเราต้องเคารพในกติกา เคารพในสิทธิ์และอำนาจของคนอื่นบ้าง อย่าไปถืออำนาจอยู่คนเดียว ทุกคนอาจจะมองว่า ผมมีอำนาจล้นฟ้า แต่ผมไม่ได้ใช้ ความจริงผมจะใช้ก็ได้ แต่ผมไม่ได้ใช้ ผมเคารพคนอื่นด้วยเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศอยู่ได้ ถ้ามัวแต่เลือกคนนั้น คนนี้ ก็จะทำให้เสียหายไปเรื่อยๆ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กังวลมากกว่าตำแหน่งต่างๆ"
เมื่อถามว่าเป็นการตีกันในการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้อนถามว่า ก็ใครเป็นคนและปล่อยข่าว ก็ต้องไปถาม เรื่องนี้ไม่เห็นมีใครมาพูดกับตนสักคน และการแต่งตั้งโยกย้าย ก็เพิ่งทำในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะให้ตั้งใหม่อีกแล้วหรือ ยังเหลือเวลาอีก 9 เดือน จะรีบร้อนไปไหนกัน ไม่ต้องมาวิเคราะห์ วางแผนแทนทหาร ไม่เช่นนั้นก็เป็น รมว.กลาโหมกันหมดแล้ว ใครจบแล้ว ก็จบไป ตนหมดหน้าที่จาก ผบ.ทบ. ก็ไม่ต้องไปปรับย้าย ผบ.ทบ.หรือปรับย้ายในกองทัพบก วันนี้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ประธานในการพิจารณาปรับย้ายคือ รมว.กลาโหม ก็จะมีการพิจารณาแต่งตั้งกันเอง จากนั้นก็เสนอมายังตนเพื่อเซ็นต์รับสนองพระบรมราชโองการ ก็เท่านั้น

** แค่รถถังวันเด็ก ยันไม่มี "ปฏิวัติ"

"วันนี้ไม่มีปฏิวัติ ไม่มีปลด ไม่มีย้าย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ยืนยันว่าไม่มี"
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันมั่นใจในอำนาจของตัวเองที่มีอยู่ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า " ผมไม่เคยมั่นใจในอำนาจผม เพราะว่าผมไม่มีอำนาจ มีอำนาจที่ไหน ผมบอกว่าผมมีอำนาจในการปกครองบังคับบัญชาในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีอำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์ หรือเพื่อสร้างฐานอำนาจใหม่ไม่มี ไม่เคยคิด"
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะไม่มีใครมาปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ใครละ ก็มาซิ มาปฏิวัติไปเลย ใครล่ะ สื่อจะเขียนไปทำไม คงไม่มีใครเขาโง่ที่จะมาปฏิวัติ อย่าไปเขียนนิยาย วันนี้สถานการณ์ในประเทศสงบพอสมควร"
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการจัดงานวันเด็กก็จะเป็นเหมือนกับทุกปี ก็จะมียุทโธปกรณ์และรถถังต่างๆ เคลื่อนย้ายเข้ามาก็อย่าตกใจ หรือมีข่าวลือ อย่างไรก็ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการปฏิวัติอย่างแน่นอน เพียงแต่เน้นการสอนให้ประชาชน และเยาวชนเรียนรู้ว่าความมั่นคง คืออะไร มีช่องทางใดบ้างในการช่วยดูแลบ้านเมืองต่างๆ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่อง การปฏิวัติ และการลาออกของ 3 นายพลกองทัพบก ว่า อย่าถามเรื่องการปฏิวัติ อย่าถามเรื่องการลาออกของ 3 นายทหารที่เป็นข่าว เพราะเขาตอบมากันเท่าไหร่แล้ว เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ระบุว่ามีการลาออกจริง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครลาออก ก็ไปถาม พล.อ.ชวลิต อย่ามาถามผม หากลาออกก็ยืนยันมาว่าลาออก มีที่ไหนในเมื่อผมเป็นรมว.กลาโหม เมื่อถามอีกว่า มีการยุแหย่กันเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ผมไม่รู้ แต่ผมเอาข้อเท็จจริงมาพูด อย่าไปเขียน เรื่องมโน อะไรอย่างนี้ไม่เอา ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน" รมว.กลาโหม กล่าว

**วอนเลิกปล่อยข่าว 3นายพลลาออก

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยม ให้โอวาท และอวยพรกำลังพล ข้าราชการ และลูกจ้างสังกัด กอ.รมน. เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า 3 นายพล ได้แก่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และ รอง ผบ.ทบ. และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และหัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองทัพบก จะลาออกจากตำแหน่งทหารก่อนเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อไปทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว ว่า ไม่รู้ว่าเกิดข่าวนี้มาได้อย่างไร และคิดว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้เกิดมาได้อย่างไร เพราะจากที่เราทำงานกันมาทุกคนที่มีตำแหน่ง และได้รับการแต่งตั้งเพิ่มเติมได้ทำหน้าที่มาด้วยดีและไม่มีปัญหาอะไร สามารถแบ่งเวลาในการปฏิบัติงานได้
"คิดว่าสิ่งต่างๆ ผู้ที่เริ่มข่าวจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ผมไม่สามารถรับทราบได้ แต่คิดว่าถ้าเริ่มข่าวโดยมีความตั้งใจแอบแฝง ผมคิดว่าท่านไม่ปรารถนาดีเท่าไหร่ ขอให้กลับไปคิดว่า เริ่มข่าวนี้อย่างไร และทำไม ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เรามีสภาวะเหมือนปกติ ทั้งที่ผ่านมาจริงๆ แล้วไม่ปกติจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เสียสละตั้งแต่เป็นหัวหน้า คสช. เข้ามาดำเนินการจนขณะนี้มีรัฐบาลตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการ อีกทั้งต่างชาติก็ยอมรับรัฐบาลแล้ว สามารถควบคุมสถานการณ์ให้ทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีม็อบ ไม่มีความร้ายแรง ไม่มีใครใช้อาวุธสงครามในพื้นที่เมืองกทม. ไม่มีเอ็ม 79 ตกลงไปในกลุ่มคนที่ทำให้เด็ก ผู้หญิง และคนชราเสียชีวิต เราอย่าลืมตรงนี้ไปว่าถ้าไม่มีการควบคุมสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นแล้วเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด ดังนั้นต้องเข้าใจกัน" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
การที่เราต้องทำงานหลายๆด้านนั้น มีความจำเป็น ต้องมาช่วยกันดูแลเมื่อผ่านพ้นขั้นตอนที่นายกฯ กำหนดตามโรดแมป ก็เข้าสู่การเลือกตั้งที่สมบูรณ์ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามขั้นตอน แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่า ทุกอย่างเริ่มมาจากสภาวะที่ไม่ปกติและเราต้องรักษาสถานการณ์ให้ปกติ ซึ่งขณะนี้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นปกติจนลืมไปว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่กี่เดือน มันไม่ปกติ และมีความรุนแรงมาก สิ่งเหล่านั้นทุกคนต้องช่วยกันให้ทุกอย่างเป็นปกติที่สมบูรณ์ตาม โรดแมป ระยะที่ 3
"วันนี้อยากให้ข่าวนี้เป็นวันสุดท้าย เพราะเกี่ยวข้องกับคนในกองทัพบก ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นในเรื่องของข่าวสารที่ทุกคนก็พูดว่า ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่ทราบ ไม่ควรเป็นเรื่องที่ต้องนำมาขยายความกันต่อไป จริงๆ ผมอยากพูดเรื่องนี้ให้น้อย แต่ถ้าถามก็จะพูดว่า ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนแบ่งเวลาและแบ่งงานได้ ผมเองก็มีหลายหน้าที่ที่เกื้อกูลต่องานของฝ่ายความมั่นคง ทำให้ผมเห็นภาพงานที่จะทำให้กระชับและราบรื่นยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการเสริมงานด้วยซ้ำไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น