xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง “พี่ใหญ่” ขันนอตเสนาบดี ส่งสัญญาณยกเครื่อง ครม.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หลังปีใหม่ส่อแววยกเครื่องใหญ่กันแน่ หลังส่งสัญญาณเป็นนัยๆ ตั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ เป็นประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาล หลังผลงานหลายอืดอาด ไม่เป็นชิ้นเป็นอันตามนโยบายที่ชูธงเอาไว้ ทั้งที่กลายพันธุ์จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาเป็นรัฐบาลนานกว่า 3 เดือนแล้ว

เลยงัดไม้มาตีปี๊บดังๆ ให้เหล่าเสนาบดีทั้ง 34 คน ได้ยินเสียงเพื่อจะให้รีบเค้นผลงานออกมาโชว์ ด้วยเพราะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. รู้สึกลำบากใจไม่อยากใช้วิธีปรับ ครม. เพราะรัฐมนตรีหลายคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อุตส่าห์ไปเชิญให้มาเสี่ยงตายด้วยกัน จู่ๆ พอไม่พอใจผลงานอยากจะเขี่ยทิ้งดื้อๆ ก็น่าเกลียดเกินไป เลยใช้วิธีนี้

ถือเป็นการขันนอตแบบซอล์ฟๆ เตือนให้ทุกคนรู้เนื้อรู้ตัวก่อนเพื่อรีดผลงานออกมา ไม่อย่างนั้นจะมานั่งคล่อมเก้าอี้บริหารกันไปวันๆ แบบความเลวไม่มี ความดีไม่ปรากฏ

โดยโหมดนี้ ตัดสินใจเลือก “พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์มาประเมินผลงาน เพราะพอมีบารมีมากสุดในรัฐบาลชุดนี้ คนอื่นน่าจะเกรงใจ ป้องกันการระหองระแหงกันภายหลัง

แต่ดูแล้วสุดท้ายหากฝืนสังขารไม่ไหว ที่สุดคงต้องเคลียร์กระดานฟอร์มทีมอีกหนเป็นแน่ โดยเฉพาะจุดตายของรัฐบาลทุกชุดอย่างสถานการณ์เศรษฐกิจและปากท้องประชาชน ซึ่ง “รัฐบาลบิ๊กตู่” กำลังเผชิญแรงเสียดทานอย่างหนักว่า ไม่มีฝีมือสร้างความแตกต่างได้ระหว่างรัฐบาลจากการเลือกตั้งกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร แม้มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เศรษฐกิจกลับค่อยๆ กระดึ๊บเป็นเต่า

เอาแต่ทฤษฎีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าอ้างว่าต้องใช้เวลา ซึ่งไม่ทันใจชาวบ้านที่ต้องการเห็นความเป็นรูปธรรม ไม่มีใครทนอดอยากปากแห้งได้นาน กับเสียงสะท้อนในระยะหลังดังขึ้นเรื่อยๆ ฝีมือขุนพลเศรษฐกิจ “บิ๊กตู่” ไม่ค่อยเฟี้ยวฟ้าว

แล้วนั่นเป็นเป้าที่หลายคนมองว่า หากมีการยกเครื่องครม.ใหม่ เหล่าเสนาบดีด้านเศรษฐกิจมีสิทธิ์โดนโละกันหลายคน โดยเฉพาะ “ขุนคลัง” นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ที่ไม่มีผลงานโดดเด่นอะไร แถมยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำงานแบบคนรุ่นเก่า ไอเดียบางอย่างใช้กับยุคนี้ไม่ได้

ส่วนหนึ่งจะโทษ “สมหมาย” เสียทีเดียวไม่ได้ เพราะรู้กันว่า ที่มานั่งอยู่ตรงนี้ได้ เพราะ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เป็นคนดึงมา ดังนั้น การตัดสินใจใดๆ หรือแนวความคิดๆ ของ “สมหมาย” ย่อมต้องได้รับการไฟเขียวจาก “หม่อมอุ๋ย” ก่อนทั้งสิ้น

แต่ “หม่อมอุ๋ย” เองคงไม่ถูกปรับออกง่ายๆ เพราะเป็นประเภทพวกสายแข็ง ซี้ย่ำปึ้กกับ “บิ๊กป้อม” ร่วมหัวจมท้ายกันตั้งแต่ก่อนยึดอำนาจ คงจะให้นั่งอยู่ต่อเพื่อรักษามารยาทในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ บนบทบาทเดิมคือ ขาลอยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ อย่างเดียว โดยไม่ควบเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใด

ขณะที่แคนดิเดต “ขุนคลัง” หาก “สมหมาย” โดนปรับออก น่าจับตาไปที่คู่เกาเหลาของ “หม่อมอุ๋ย” อย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” สมาชิก คสช. เป็นอย่างมาก แม้ตัว“สมคิด” เองจะนั่งเก้าอี้เองไม่ได้ เพราะติดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติ แต่เด็กในคาถาของเขามีพวกชั้นเซียนอยู่หลายคน

โดยเฉพาะในรายของ “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ที่เคยถูก “สมคิด” ส่งชื่อประกวดไปยัง “บิ๊กป้อม” เมื่อครั้งตอนฟอร์มทีม “ครม.ตู่ 1” แต่แพ้พิษสง “หม่อมอุ๋ย” ที่ว่าใช้ยุทธวิธีเหนือเมฆเอาชนะคู่เกาเหลาของเขาไปได้

แต่ในเมื่อครั้งนี้ “หม่อมอุ๋ย” ไม่สามารถแสดงฝีมือให้ประทับใจได้ ก็จำเป็นต้องถอยให้กุนซือหลังม่านอย่าง “สมคิด” ได้พรีเซนต์แบบจำยอม ยิ่งในระยะหลังๆ ทั้ง “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม” ออกอาการปลื้ม “สมคิด” ไม่น้อย ไปต่างประเทศทีไรมีอันเหน็บติดไปทุกครา โอกาสที่จะเลือกใช้บริการทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จึงมีไม่น้อย

ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ที่ต้องจับตา ยังคงอยู่ในมิติเศรษฐกิจอยู่ อย่างในราย “กอบกาญจน์ รัตนวรางกูร” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่แม้ “บิ๊กตู่” จะรักเหมือนน้องสาวในไส้ แต่ระยะหลังๆ โดนวิจารณ์ผลงานเยอะว่า ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา ผิดกับดีกรีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ บางทีหากผลงานไม่ขยับ อาจต้องจำใจเรียนเชิญหลีกทาง

เช่นเดียวกับรัฐมนตรีโลกลืมหลายๆ คนที่อาจโดนโละออกไปด้วย อาทิ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ที่ทำตัวโลว์โปรไฟล์ ปล่อยให้ “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และ รอง ผบ.ทบ. รับบทหน้าเสื่ออย่างเดียว อาจจะถูกโยกให้คนอื่นมาช่วยงานแทน

ขณะที่ “คุณเหลน” ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แม้จะภาพลักษณ์จะดูดี แต่ไปๆ มาๆ เหมือนจะกลายเป็น “สายล่อฟ้า” ของรัฐบาลเสียอย่างนั้น ตั้งแต่ปมแฉนักการเมืองท้องถิ่นซดไวน์หรูราคาแพง จน อปท. ตั้งม็อบด่า ต่อเนื่องมาถึงเรื่องข้าวที่เจ้าตัวได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจับ “ล่อเป้า” อยู่เป็นระยะ อาจมีการเฟดตัวออกมาให้เหลือเก้าอี้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว เพราะภารกิจตรวจข้าวเสร็จแล้ว

ซึ่งดูแล้ว “คุณเหลน” เองน่าจะไม่ขัดข้องอะไร เพราะเก้าอี้หัวหน้าส่วนราชการที่นั่งอยู่ทุกวันนี้ก็ใหญ่โตสมอายุงาน แถมยังมีข่าวลือกระฉ่อนมาจากย่านคลองหลอดว่า หาก “ภาณุ อุทัยรัตน์” เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไม่ได้ขึ้นชั้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหาแคนดิเดตคนอื่นไม่ได้ “คุณเหลน” นี่ล่ะ อาจกลับถิ่นเก่าไปเป็นใหญ่

อีกกระทรวงที่ต้องจับตา เพราะปัญหาเยอะมาตลอดตั้งแต่วันเข้าคือ กระทรวงสาธารณสุข ที่ช่วงแรก “หมอรัชตะ” นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข โดนคัดค้านเรื่องการรักพี่เสียดายน้อง ไม่ยอมคายเก้าอี้อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล จนที่สุดต้องปลดล็อกให้ ต่อเนื่องมาถึงกรณี “หมอสมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขถูกปลดเพราะไปยื่นให้ ป.ป.ช. ป.ป.ท. สตง. สอบเรื่องทุจริต “หมอรัชตะ” กับ “นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์” รมช.สาธารณสุข จนป.ป.ช. ต้องร่อนหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ให้พิจารณาคุ้มครอง

ดูแล้วกระทรวงหมอมีแววโละใหญ่ไม่น้อย!!

นอกจากนี้ อาจจะมีการเกลี่ยเก้าอี้ สลับคนทำงานที่ยังตกสำรวจอยู่ให้เลื่อนชั้นเข้ามานั่งบ้าง โดยเอาคนที่ได้เป็นแล้วกลับไปนั่งที่เดิม อาทิ “พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” รมช.ศึกษาธิการ ที่เอากลับไปอยู่กรมกองในสายทหารต่อไป

ดูท่าแล้วอย่างไรก็ปรับ ไม่ช้าก็เร็ว เพราะหากปล่อยให้ผลงานจืดชืดต่อไป มีหวังช่วงระยะเวลาที่เหลือรัฐบาลอาจกระท่อนกระแท่น เพราะไม่มีแรงสนับสนุนจากประชาชน จะทำเอาทุกอย่างเดือดร้อนกันไปหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น