xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลือ “วางยา” หรือ “บังเอิญ” ในภาวะเพื่อไทยนิ่ง – คนกันเองขยับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

เจอข่าวลือปั่นหุ้นจนรัฐบาลภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงกับออกอาการง่อนแง่นไม่เป็นทรง โดยเฉพาะ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ผู้ซึ่งเคยมีบาดแผลเรื่องหุ้นถึงกับหัวคิ้วติดกัน เดินวุ่นทั้งวันเช็กสถานการณ์ กลัวหนังจะฉายซ้ำ

งานนี้เห็นได้ชัด รัฐบาลที่ว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แถมยังกองทัพค้ำยันแบบเหนียวแน่น แต่พอโดนวางยาเข้าอย่างจังก็มีอาการสำลักเหมือนรัฐบาลทั่วไป ไม่ได้มีเสถียรภาพเหมือนกับเปลือกที่เห็นกันภายนอก เรียกว่า ยังต้องการภูมิคุ้มกันอีกหลายจุด เลยไม่รู้ว่า หากเจอของหนักกว่านี้จะรับมือไหวหรือไม่

แต่ช็อตนี้ยังถือว่า เป็นออเดอร์เรียกน้ำย่อยแบบน้ำจิ้มๆ จับยามสามตาดูแล้ว “รัฐบาลบิ๊กตู่” มีของแข็งพร้อมจะประดังเข้ามาอีกหลายชุด โดยเฉพาะหลังหมดเทศกาลแห่งความสุข ฉลองปีใหม่กันเสร็จแล้ว

ลำพังศัตรูที่มองเห็นตัวเป็นๆ บนภาคพื้นดินไม่มีปัญหา ประเภท “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ยังสแกนความเคลื่อนไหวกันได้ตลอด แต่ศัตรูที่มองไม่เห็นน่ากลัวกว่าเยอะ เพราะไม่รู้ว่า จะโผล่มาล่อรัฐบาลตอนไหน และด้วยวิธีไหน จึงยากจะรับมือ

ว่ากันตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่มีเฉพาะองคาพยพของ “ทักษิณ” เท่านั้นที่จ้องจะหาทางเล่นงาน แต่ยังมีอีกหลายก๊กหลายกลุ่มที่เริ่มออกอาการหมั่นไส้รัฐบาลมากขึ้นทุกวัน

ตามกระแสข่าวที่ลือกันแซ่ดว่า “คนกันเอง” นี่แหละให้ระวัง

โดยเฉพาะปมวัดรอยเท้ากันระหว่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์กับผู้มากบารมีแห่งบ้านน้อยเสา ที่ข่าวคราวหนาหูว่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งขั้วอำนาจเก่าไม่ค่อยแฮปปี้ เลยมักไฟเขียวให้เด็กในคาถาออกมาตอดเล็กตอดน้อยรัฐบาลอยู่เรื่อย แม้ช่วงนี้จะทำตัวโลว์โปรไฟลหายเงียบไปไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตา

และแม้จะไม่ได้มีกองกำลังในกองทัพมากมายมหาศาล แต่เป็นประเภทเขี้ยวเล็บแพรวพราวที่สามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้ทั้งชุดหากคิดจะลงมือ

นอกจาก “คีย์แมน” ผู้นี้แล้ว อีกจุดที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” มองข้ามไม่ได้ เพราะอันตรายหากจะแท็กทีมล้ม นั่นคือ ค่ายเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่แม้จะเป็นศัตรูคนเดียวกันคือ “ทักษิณ” แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเออออห่อหมกกับรัฐบาลทุกเรื่อง โดยเฉพาะระยะหลังเห็นกันจะๆ ว่า ตามไล่อัดรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่รับหน้าที่ทหารอาสาให้ชาวสวนยางบุกเข้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอพบ “อำนวย ปะติเส” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถกวิธีลดปัญหา

เรียกว่า ลงทุนแต่งตัวเล่นเองเลย ขณะเดียวกัน ยังปักหลักแน่นไล่ค้านข้อเสนอของคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แบบหัวชนฝา กลายสภาพเป็น “ตัวชน” ของค่ายสีฟ้ากันแล้ว นอกจากนี้ ยังมีคอหอยกับลูกกระเดือกอย่าง “สองลูกกอก” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ คอยกระตุกหนวดทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล

“ค่ายสีฟ้า - ทีมงานสวนโมกข์” เป็นอะไรที่รัฐบาลจะละสายตาไม่ได้ อย่าลืมว่า มันมีอาการกินแหนงแคลงใจกันอยู่ โดยเฉพาะปมค่ายเก่าแก่ย่านสามเสนแทบไม่ได้อะไรเป็นการคืนทุน ทั้งที่เป็นคนลงทรัพย์ลงแรงตะเพิดรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จนง่อยเปลี้ยเสียขามากับมือ แต่สภาพในปัจจุบันนอกจากไม่ได้อะไรแล้ว ในบางครั้งบางคราวยังถูกไล่บี้

สัญญาณค่อนข้างชัด “พี่น้อง 3 ป.” ไม่ใช่มิตรที่จะไว้วางใจได้ทุกเรื่องสำหรับค่ายสีฟ้า!!

ยิ่งเป็นอะไรที่ต้องระวัง โดยเฉพาะม็อบสวนยางที่ฮึ่มๆ กันอยู่ดินแดนด้ามขวาน รู้ๆ กันอยู่ว่า แบ็คอัพข้างหลังเป็นใคร หากเกิดอาการวีนแตกเมื่อไหร่ ไม่ต่างจากวัตถุไวไฟที่จุดแปบเดียวก็ลุกพรึ่บ ให้ดูกรณีสมัย “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” เป็นมรณานุสติ ดังนั้น หากปล่อยให้ราคายางพาราตกชนิด 3 กิโลร้อยต่อเนื่อง รับรองเป็นช่องอ่อนไหวรูเบ้อเร่อ

ขณะเดียวกัน ก็มีพ่อค้าวานิชจำนวนไม่น้อยที่ก่อนหน้านี้เคยหนุนหลังรัฐบาลเต็มสูบ ระยะหลังเริ่มออกอาการหงุดหงิดเหมือนกัน โดยเฉพาะมาตรการเอาใจรากหญ้า แต่เตะตัดขากันเองอย่างการจัดเก็บภาษีมรดก และภาษีที่ดิน ที่เล่นเอาเศรษฐีจ้องตาเขม็งเกลียว เพราะเข้าเนื้อเต็มเหนี่ยว

ดังนั้น หาก 3 องคาพยพคิดอยากลงขันกันเมื่อไหร่ รับรองต่อให้กฎอัยการศึกที่ว่าเป็นยักษ์ถือกระบองก็ไม่น่าจะเอาอยู่ ส่วนวิธีล้มไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหารเสมอไป ที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยใช้กึ๋นกับมวลชนเป็นพอ ยิ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ใช่งานยากอะไร

ขณะที่ “นายใหญ่” และองคาพยพระบอบทักษิณ ว่ากันว่างานนี้ขอวางตัวนิ่ง จับตาดูสถานการณ์ในที่ลับ ออกมาแหกปากค้านบ้างพอเป็นพิธี ปล่อยให้ “คนกันเอง” ล่อกันไป ใช้วิธียืนดูไกลๆ แบบไม่ต้องออกแรง เพราะรู้ดีว่า สู้เองตอนนี้ยากจะชนะรัฐบาล

โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจที่ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกำลังประเมินว่า ฝีมือบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สมราคาคุย ไม่ว่าจะเป็น “หม่อมอุ๋ย” หรือ “สมหมาย ภาษี” รมว.คลัง ที่ยังคิดแบบกรอบเดิมๆ ไม่ขยับเขยื้อนให้ถูกใจคนไทย

แล้วยิ่งหัวเราะชอบใจหลังรู้ปมเกาเหลากันเองระหว่างขงเบ้งเศรษฐกิจของรัฐบาล ระหว่าง “หม่อมอุ๋ย” กับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” สมาชิก คสช. ที่ระยะหลังแพ็กกันแน่นกับ “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และรอง ผบ.ทบ.

สำทับกันแว่วมา แม้ “หม่อมอุ๋ย” จะมีฐานะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่การเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนเดียวโดยไม่ได้ถ่างขาไปควบกระทรวงใดๆ สุดท้ายก็ไม่มีใครฟัง เพราะจัดเป็นพวกขาลอย นาทีนี้ลิ่วล้อในระบอบทักษิณเลยขอทำตัวเป็นผู้ชมดีกว่า

สถานการณ์หลังปีใหม่ของรัฐบาลเลยกลายเป็นงานหนัก นอกจากจะหาภูมิคุ้มกันให้ตัวเองด้วยการสร้างผลงานออกมาเพื่อดึงประชาชนให้มาเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กแล้ว ยังต้องระแวงหลังจาก “คนกันเอง” ที่อาจจะเกิดอาการหมันไส้ด้วยการวางยาแรงๆ กันอีกสักรอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น