xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” ย้ำทำแผนพัฒนาจังหวัดเพื่อลูกหลาน ล้มประชานิยม ยัน ตร.ไร้วิ่งเต้น รับตั้งยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
รมว.กลาโหมนั่งประธานประชุมมอบนโยบายยุทธศาสตร์เสริมความมั่นคง แจงแผนรัฐ สั่งทำแผนพัฒนาจังหวัด ยึดมิติมั่นคง จี้ผู้ว่าฯ นำทุกหน่วยวางแผนใช้งบฯ ร่วม เลิกประชานิยม เน้นพัฒนาท้องถิ่นยั่งยืน ร่วมกับ ตร.-ทหาร-ผู้นำท้องถิ่น ลั่นทำเพื่อลูกหลาน ไม่ใช่ตัวเอง พร้อมคุยสันติสุขใต้ รอความชัดเจนมาเลย์ รับห่วงน้ำท่วมใต้ ชี้ตนลงพื้นที่ไม่ได้ช่วยอะไร ยัน ตร.ไม่มีวิ่งเต้น รับแต่งตั้งไม่ง่าย

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดี สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดประชุมชี้แจง และมอบนโยบายการดำเนินงานยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยมีผู้เข้าร่วมงาน อาทิ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. เพื่อรับนโยบายการดำเนินงานยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ พ.ศ. 2556-2560 อันเป็นการบูรณาการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบ 9 รูป ตามแนวชายแดนทางบก และทางทะเล เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ยาเสพติด โรงระบาด การก่อการร้ายข้ามชาติ การตัดไม้ทำลายป่า ค้าของเถื่อน แรงงานต่างด้าว

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับแผนงานด้านการพัฒนาเพื่อมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชุมชนหมู่บ้านในพื้นที่เป้าหมาย โดยผนึกกำลังของหน่วยงานทั้งส่วนกลาง จังหวัด ท้องถิ่น ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร องค์กรท้องถิ่น วางแผนบูรณาการแผน และงบประมาณร่วมกัน โดยให้ผู้บริหารหน่วยงานไปวางแผนและทำงานเชิงรุกประสานแผนระหว่างส่วนกลางกับจังหวัดให้สนับสนุนกัน และต้องสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้ความสำคัญกับแผนงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในหมู่บ้าน รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดทำแผนระดับจังหวัดให้ตระหนักถึงมิติความมั่นคงด้วย

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ที่จังหวัดมีส่วนดำเนินการนั้น ผู้นำชุมชน และ ชุมชนต้องเข้าใจงานพัฒนาเพื่อความมั่นคงของรัฐ แต่ปีนี้อยากให้บูรณาการร่วมกันโดยใช้งบประมาณของ กอ.รมน.ที่มีทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน รวมถึงองค์กรส่วนท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนรวมเพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศ คนที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องมีแนวคิดบูรณาการ ตั้งแต่ระดับรากหญ้าขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ประเทศเกิดความเข้มแข็ง ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงสำคัญมากในเรื่องการประสานแผนงาน ถ้าต่างคนต่างทำต่างคิดก็จะไม่เกิดประโยชน์โดยรวม ปีนี้เป็นปีแรกที่นายกฯต้องการให้งานด้านความมั่นคงสอดแทรกเข้าไปในงานพัฒนาตั้งแต่ระดับท้องถิ่น

“ผมหวังอย่างยิ่งว่าทุกคนต้องเข้าใจว่ารัฐบาลต้องการอะไร ถ้าเข้าใจและพูดจากัน โครงการและงบประมาณก็จะไม่ซ้ำซ้อน และเป็นประโยชน์กับประชาชน เราไม่ได้สร้างไปเพื่อทำประชานิยม เอาเงินไปสร้างถนนให้หมู่บ้านนั้นหมู่บ้านนี้ แต่ให้มาบูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดผลชัดเจนตั้งแต่ท้องถิ่นถึงจังหวัด และเดินไปด้วยกันได้ กำหนดได้ว่าจะดำเนินการอะไรก่อนหรือหลัง ไม่ใช่ต่างคิดต่างทำเพื่อให้ได้ประโยชน์กับหน่วยงาน หรือชุมชนของตัวเอง ทั้งนี้ถือเป็นความหวังของ สมช. ที่ต้องการให้ทุกส่วนเข้าใจว่ารัฐจะทำอะไร โดยท้องถิ่นและจังหวัดต้องไม่ดูว่าอะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์หรือความก้าวหน้าของตัวเอง ให้มองไป 5-10 ปี เพื่อลูกหลานของเรา รองรับประชากรที่อาจต้องมากขึ้นเป็นร้อยล้านคน แต่ที่ดินและอาชีพก็เท่าเดิม จึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนอนาคตประเทศของเรา ถือเป็นห้วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่มีความสำคัญที่เราต้องช่วยกัน อย่าปล่อยให้ประเทศเดินไปโดยใช้ประชานิยม คงไม่ได้อีกแล้ว ถ้ามัวแต่กลัวว่าใครจะแขวะก็เดินหน้าไม่ได้ รัฐบาลต้องการทำให้ประเทศมีความมั่นคง และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถนำพาประเทศไปได้” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทางไทยไม่ได้ขัดข้องต่อการพูดคุยดังกล่าว เพราะเราอยากจะพูดคุย และขอให้ทุกกลุ่มเข้ามาพูดคุยกัน ตนเชื่อว่าทางมาเลเซียรวบรวมรายละเอียดได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะเริ่มการพูดคุย

“ผมพร้อมตลอดเวลาทั้งทางทีมงาน และประชาชนก็พร้อม เพราะเราต้องการให้เกิดความสันติสุขบังเกิดขึ้น ทุกคนต้องช่วยทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า แต่ขอให้เข้าใจว่าต้องรอความชัดเจนจากทางมาเลเซียที่จะหากลุ่มที่จะมาพูดคุยด้วยกับเรา สื่อไม่ต้องเป็นห่วง ผมเป็นคนดูแล ผมก็เป็นห่วง” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน ทางผู้ว่าราชการจังหวัด กองทัพภาค และตำรวจ ได้ประสานงานช่วยเหลือประชาชน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเหลือประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อน เช่น การช่วยขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามตนก็ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ เพราะมีหน่วยงายในพื้นที่ดูแลอยู่ ซึ่งถ้าตนลงไปก็จะทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อมาดูแลตนเอง ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ดีกว่า ส่วนกรณีมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตขณะช่วยเหลือประชาชนนั้น ตนได้กำชับเรื่องความปลอดภัยว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รวมถึงผู้บังคับบัญชาทุกระดับก็ได้กำชับอยู่แล้ว

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงการโยกย้ายตำรวจว่า เรื่องดังกล่าวไม่เห็นจะมีอะไรเลย อย่าไปคิดว่าจะต้องเสียเงินเสียทอง ตนยืนยันว่าไม่มี เมื่อไม่มีคนรับเงิน ก็จะไม่มีคนเสียเงินด้วย ทั้งนี้เราพยายามทำให้ดีที่สุด โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแล โดยกฎหมายระบุชัดเจนอยู่แล้ว ตำแหน่งของผู้กำกับการ ไม่ได้แต่งตั้งง่ายๆ แบบสมัยก่อน เพราะจะต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อย่างไรก็ตามตนจะไม่คาดโทษผู้ทำผิด เพราะถ้าเกิดทำผิดจริงๆ จะมีกฎหมายลงโทษอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น