“บิ๊กจิน” ส่งมอบตำแหน่ง ผบ.ทอ. “พล.อ.อ.ตรีทศ” ย้ำต้องสืบสานพัฒนา ทอ. บุคลากร ชมมีความรู้นำ ทอ.เจริญ ผบ.ทอ.ใหม่ลั่นทำงานสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ นำ ทอ.ผงาดในภูมิภาค วางตัวเหมาะกับรัฐ-คสช. ด้าน ทร.มอบตำแหน่ง ผบ.ทร.ใหม่เช่นกัน “พล.ร.อ.ไกรสร” พร้อมสานต่อยกระดับ ทร.สู่สากล วางกรอบ 10 ปี ยัน ทร.เป็นเครื่องมือ รบ.-คสช.ต้องทำตามนโยบาย
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ระหว่าง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ในฐานะ ผบ.ทอ.คนเก่า กับ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผบ.ทอ.คนใหม่ โดยมีพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ จากนั้นได้ลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ ผบ.ทอ. ต่อมาเวลา 07.00 น. พล.อ.อ.ประจิน และ พล.อ.อ.ตรีทศได้ร่วมพิธีสวนสนามจากภาคพื้นดินและภาคอากาศ เนื่องในโอกาสรับ-ส่งหน้าที่ ผบ.ทอ.และมอบการบังคับบัญชา ที่ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศ ทั้งนี้ การสวนสนามทางอากาศได้ใช้เครื่องบินขับไล่กริปเพน และเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 เข้าร่วมการสวนสนามครั้งนี้ด้วย โดยมีผู้ช่วยทูตทหาร ผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมทั้งข้าราชการของกองทัพอากาศเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจินกล่าวส่งมอบหน้าที่ตอนหนึ่งว่า เป็นหน้าที่ของทหารอากาศทุกคน ที่ต้องช่วยกันสืบสานพัฒนากองทัพอากาศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม และขอให้ทหารอากาศทุกคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความสามัคคี ยึดมั่นในคุณธรรม เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้กองทัพอากาศ ทั้งนี้ ผบ.ทอ.คนใหม่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเป็นผู้นำกองทัพอากาศให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงต่อไป
ด้าน พล.อ.อ.ตรีทศกล่าวรับหน้าที่ว่า ตนขอรับหน้าที่และการบังคับบัญชาในตำแหน่ง ผบ.ทอ. และพร้อมปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะอย่างเต็มกำลังความสามารถให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ รวมถึงสนับสนุนการทำงานในหน้าที่ของ พล.อ.อ.ประจินต่อไปอย่างเต็มที่ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำพากองทัพปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม พัฒนากองทัพอากาศให้ก้าวหน้าสู่การเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาคต่อไป
จากนั้น พล.อ.อ.ตรีทศให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีฯถึงกรณีการสานต่อนโยบาย ผบ.ทอ.ว่า กองทัพอากาศมียุทธศาสตร์ ไม่ว่าจะ ผบ.ทอ.คนใดที่มารับตำแหน่งก็ต้องเดินตามแนวทางยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศทั้งสิ้น ซึ่งเรามีแบบแผนและแนวทางที่ชัดเจน ส่วนการวางตัวในช่วงที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ควบคู่กับรัฐบาลนั้น ตนพร้อมสนับสนุนตามแนวทางทุกนโยบาย และกำลังพลก็ต้องมีการวางตัวให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมด้วย สำหรับการรักษาสัมพันธ์กับมิตรประเทศมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสานสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต เพื่อที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นแนวทางที่เราดำเนินการทำมาอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ ได้มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ระหว่าง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ท่านเก่า )กับ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ท่านใหม่) โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือเข้าร่วมพิธี ซึ่งในพิธีเริ่มด้วยการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ บริเวณลานหน้า กองบัญชาการกองทัพเรือ จากนั้น พล.ร.อ.ณรงค์ได้มอบการบังคับบัญชา ส่งมอบตราประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ และลงนามในสมุดรับส่งหน้าที่ให้แก่ พล.ร.อ.ไกรสร ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ต่อมา พล.ร.อ.ไกรสรได้มอบของที่ระลึกให้แก่ พล.ร.ณรงค์ และเชิญชวนดื่มถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งกล่าวอำลา และแสดงความยินดีแก่ พล.ร.อ.ไกรสร พร้อมทั้งสดุดี และดื่มอวยพร จากนั้น พล.ร.อ.ณรงค์ และ พล.ร.อ.ไกรสรเดินทางไปยังลานหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่ออำลากองทหารเกียรติยศ ในการนี้กองทหารเกียรติยศได้ยิงสลุต 19 นัด เพื่อเทิดเกียรติให้แก่ พล.ร.อ.ณรงค์ ก่อนที่จะอำลาชีวิตการรับราชการโดย พล.ร.อ.ไกรสรได้ส่ง พล.ร.อ.ณรงค์ เดินทางกลับ ทั้งนี้ตลอดเส้นทางที่รถของ พล.ร.อ.ณรงค์เคลื่อนผ่านได้มีข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ยืนเรียงรายเพื่อมอบดอกไม้แสดงความอาลัยด้วย
โดย พล.ร.อ.ไกรสรให้สัมภาษณ์ว่า ตนขอขอบคุณที่มาร่วมแสดงความยินดีรับมอบตำแหน่ง ผบ.ทร. ทั้งนี้ในการนำพากองทัพเรือต่อไปในอนาคต ก็ต้องสานต่องาน และส่วนงานที่ พล.ร.อ.ณรงค์ที่ท่านฝากไว้นั้นเป็นเรื่องวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ในปี 2558-2567 เป็นเวลา 10 ปีข้างหน้าที่จะต้องทำให้กองทัพเรือเป็นหน่วยกำลังทางทะเลชั้นนำทางภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ พร้อมกันนั้นในช่วงเวลา 10 ปี ตนจะดำเนินการในเรื่องสร้างมาตราฐานกองทัพเรือให้เป็นที่ยอมรับของประชาคมอาเซียน และชาติพันธมิตรจะต้องได้รับเกียรติ อีกทั้งพยายามให้กำลังพลปฏิบัติงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ ทุ่มเทเสียสละ และต้องภาคภูมิใจในการเป็นทหารเรือ
เมื่อถามว่า การวางกำลังพลรับมือสถานการณ์ทางการเมืองนั้น พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ทว่ากองทีพเรือเป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่จัดว่าเป็นหน่วยงานรัฐ ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายมาก่อน ซึ่งจะไปคิดก่อนไม่ได้
เมื่อถามถึงในฐานะที่เป็นสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วยนั้น จะดำเนินการอย่างไร พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า คิดว่าก็เช่นเดียวกัน กองทัพเรือเป็นส่วนหนึ่งในการบริหานจัดการเพื่อให้ ประเทศชาติมีความสงบ ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจของประเทศเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเราต้องการให้ทุกคนอยู่ดีมีสุขทุกๆ คน ฉะนั้นคงต้องช่วยกัน ไม่ใช่กองทัพเรืออย่างเดียว แต่ต้องทุกหน่วยงานทั้งหมด แล้วก็ต้องประชาชนร่วมด้วย