xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.ปัดไทยเป้าก่อการร้าย สอบไอซิสเข้า จชต. แย้มที่มานายกฯ ต้องอ้อมบ้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กตี๋” ตรวจเยี่ยม ทบ. มอบนโยบายหลังขึ้นเป็น ผบ.สส. ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ยันไทยไม่ใช่เป้าก่อการร้าย ไม่ต้องดูแลเข้ม ชี้สถานการณ์ไทยยังปกติ เร่งสอบกลุ่มไอซิสดอดเข้าไทย เชื่อ ปชช.ได้ความสุขจาก คสช. ยก “บิ๊กตู่” คนดีตามรับสั่ง “ในหลวง” หนุนแนวคิด “เทียนฉาย” ได้ ปชต.ที่เหมาะกับไทย แย้มที่มา นายกฯ-ครม. ต้องอ้อมบ้างขึ้นอยู่กับสถานการณ์


วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพบก เพื่อมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบกให้การต้อนรับ จากนั้น พล.อ.วรพงษ์ยังได้เป็นประธานการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ครั้งที่ 2/2558 โดยมี ผบ.เหล่าทัพ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.อ.วรพงษ์แถลงภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้มีการตรวจเยี่ยมกองทัพบก ภายหลังจากที่ตนมาดำรงตำแหน่ง ผบ.สส. จากนั้นได้มีการประชุมผบ.เหล่าทัพ โดยในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่ผ่านมา ผบ.เหล่าทัพได้หารือร่วมกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร สำหรับนโยบายที่ได้เน้นย้ำกองทัพบกในการดูแลพื้นที่ชายแดนและกองกำลังต่างๆ นั้น ได้มีระเบียบปฏิบัติตั้งแต่มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปี2543 (เอ็มโอยู 43) พื้นที่ใดที่ยังมีปัญหาก็ยังไม่ได้ดำเนินอะไรทั้งสองฝ่าย โดยให้ดำเนินการตามที่ได้หารือร่วมกันไว้

เมื่อถามว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น เช่น การลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและเรื่องอุบัติเหตุได้มีการเน้นย้ำเหล่าทัพอย่างไรบ้าง พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกันก่อนหน้านี้แล้วว่าในช่วงหยุดยาวของเทศกาลต่างๆให้มีการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง พร้อมจัดสถานที่ต่างๆ เช่น บริเวณด้านหน้าค่ายทหารจัดเครื่องดื่มและผ้าเย็นไว้แจกจ่ายให้แก่ประชาชน ส่วนเรื่องอาชญากรรมที่แอบแฝงมานั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองกำลังป้องกันชายแดนต่างๆไม่ได้เพิ่มความเข้มงวดอะไร โดยทำหน้าที่ดูแลตามปกติ สำหรับการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ทาง ตร.ร่วมกับทางทหารได้ตั้งตามปกติ ไม่ได้ดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกส่วนราชการได้ดำเนินการอย่างเต็มที่

“ทางกองทัพเรามีหน้าที่รับผิดชอบให้ประชาชนที่สัญจรเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เดินทางไปและกลับอย่างปลอดภัย รวมทั้งท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลใดๆ ส่วนการคืนความสุขนั้นทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็คืนความสุขให้อยู่แล้ว ผมหวังว่าประชาชนจะได้รับความสุขเช่นกัน พร้อมทั้งคิดว่ายิ่งนานวันไปประชาชนจะได้รับความสุขมากยิ่งขึ้น” ผบ.สส.กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ก่อการร้ายจับประชาชนชาวออสเตเรียเป็นตัวประกันนั้น มีการวิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า เราไม่ใช่เป้าหมาย ดังนั้นคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยและการประชุมอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ก็ได้มีการเตรียมการเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติประจำตามปกติ ทุกอย่างถือว่าเป็นปกติ ที่มีผู้รับผิดชอบและหน่วยปฏิบัติที่ชัดเจน

เมื่อถามว่าจะมีการประชุมหรือติดตามกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้โดยเฉพาะหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะมีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทย พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า มีหน่วยงานหลายส่วนราชการที่รับผิดชอบดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว หากมีสถานการณ์ที่เป็นประเด็นเกิดขึ้นก็จะนำมาหารือในที่ประชุมว่ามีที่มาและที่ไปอย่างไร รวมถึงจะมีผลกระทบกับเราอย่างไร อีกทั้งจะป้องกันและแก้ไขอย่างไร แต่ในภาพรวมแล้วประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมาย ซึ่งก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่าทางสหรัฐฯ ได้เตือนประชาชนสหรัฐฯที่อยู่ในประเทศไทยให้ระวังตัวมากขึ้น เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ไม่ถึงกับต้องเพิ่มความเข้มข้นในการดูแล เพียงแต่ให้ความสนใจมากขึ้น เพราะว่าทางสหรัฐฯก็เตือนเป็นระยะอยู่แล้ว หากมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ประเทศไทยก็เพียงแต่ช่วยดู หรือถ้ามีการร้องขอในเรื่องการรักษาความปลอดภัยก็จะให้การสนับสนุนเต็มที่

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางกลุ่มไอซิสได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการป้องกันอย่างไร พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวก็ต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่เป็นอันดับแรก ถ้าเกิดจริงจะทำอย่างไร หากไม่จริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่และยังไม่มีการยืนยัน ทั้งนี้สถานการณ์ของไทยอยู่ในระดับปกติ

ด้าน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญติดตามเฝ้าระวังการข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายมาโดยตลอด ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ดูแลเรื่องการก่อการร้ายอยู่แล้ว ทั้งนี้ การข่าวติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายยังไม่พบ หรือได้รับสัญญาณใดๆ ที่จะลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงมีแผนการและขั้นตอนในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างชัดเจนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะนอกจากการที่เราจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจากต่างประเทศแล้วยังมีการประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศไทยด้วยเช่นกัน จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงกับเรื่องดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังกล่าวถึงกรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มีการระดมความคิดเห็นชั้นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ตนเข้าใจว่าขณะนี้กำลังหารือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน จากนั้นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะสรุปว่าการออกแบบการได้มาซึ่งนักการเมืองที่ดีที่สุดจะเป็นเช่นใด เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะยังอยู่ในกระบวนการรวบรวมความคิดเห็นที่มีความเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้รับทราบจากข่าวว่านายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ได้พูดถึง 6 ประเด็นการปฏิรูปที่ไม่เสียของ คิดว่าเป็นแนวคิดที่ดี เพื่อจะออกแบบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสังคมเรา

“ทำอย่างไรก็ได้ ตามที่ในหลวงท่านทรงรับสั่งไว้ว่า เอาคนดีมาบริหารประเทศ ออกแนวทางมาอย่างไรก็ได้ในการได้คนไทยที่ดีเข้ามาบริหารประเทศ แค่นั้นก็จบ” พล.อ.วรพงษ์ ระบุ

เมื่อถามว่า คิดว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีทางตรงหรือทางอ้อมดีกว่ากัน พล.อ.วรพงษ์กล่าวติดตลกว่า “บางทีทางตรงรถมันติด มันก็ต้องเข้าซอย ก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์ บางทีไปเส้นทางนี้รถมันติดก็อ้อมไปเส้นทางอื่น บางทีไปเส้นทางปกติไปไม่ได้ รถติด ก็แล้วแต่จังหวะ” ถามต่อว่า คิดว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญมีการแบ่งฝ่ายกันจนทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างกันขึ้นหรือไม่ พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ความคิดที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ ไม่อยากไปก้าวก่าย ขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำงานของ สปช. ซึ่งวิธีการทำงานมีความแตกต่างกัน ขอให้ได้ out put-out come ออกมาก็แล้วกัน


ตร.บุกชิงตัวประกัน ก่อการร้าย‘ซิดนีย์’วิสามัญหลังยืดเยื้อ 16 ชม.
ตร.บุกชิงตัวประกัน ก่อการร้าย‘ซิดนีย์’วิสามัญหลังยืดเยื้อ 16 ชม.
คนร้ายถืออาวุธบุกเดี่ยวเข้าจี้ตัวพนักงานและลูกค้าร้านช็อกโกแลต คาเฟ่กลางเมืองซิดนีย์ เป็นตัวประกันตั้งแต่เช้าวันจันทร์(15)จนกระทั่งตอนกลางคืนเหตุการณ์ยังคงไม่คลี่คลาย โดยมีตัวประกันหนีรอดได้ 5 คน คาดยังถูกจับอีกกว่าสิบคน พร้อมบังคับให้ชูธงอิสลามติดกระจกของร้าน ส่งสัญญาณถึงภัยก่อการร้ายที่เข้าสู่ใจกลางเมืองใหญ่แล้ว ตร.ต้องปิดล้อม หลังคนร้ายขู่บึ้มหลายจุด ด้านกงสุลไทยในซิดนีย์ ยันไม่มีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน ขณะที่นร.ไทยปลอดภัยดีทุกคน “ประยุทธ์” ไม่หวั่น “ไอซิส” เข้าไทย ระบุมีมาตรการป้องกัน ชี้ไทยไม่ใช้คู่ขัดแย้งโดยตรง ล่าสุด ตร.บุกเข้าชิงตัวประกัน คนร้ายถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น