xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ฝาก ผบ.หน่วยนั่ง สนช. อย่าให้กระทบงานหลัก-จ่อตั้งสมาชิก คสช.เพิ่มพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ภาพจากแฟ้ม)
ผบ.ทบ.ประชุมผู้บังคับกองพันทั่วประเทศครั้งแรกหลังยึดอำนาจ ขอบคุณกำลังพลทุกคนทำงานหนัก วอนเชื่อมั่นแก้ไขปัญหาชาติย้ำ 3 ภารกิจหลัก ปกป้องอธิปไตย รักษาความมั่นคงภายใน หนุนนุนภารกิจของ คสช. และรัฐบาล แนะให้สมดุลกัน เตือนระวังในช่วงการใช้กฎอัยการศึก ยกบิ๊กทหารคุม 5 กลุ่มงาน 1 กกล.รส.เปรียบเหมือนรัฐบาลปลดล็อกปัญหา ขับเคลื่อนงานประเทศ ฝาก ผบ.หน่วยนั่ง สนช.ตั้งใจทำงาน อย่าให้กระทบงานหลัก จ่อตั้งสมาชิก คสช.เพิ่มพรุ่งนี้ให้ครบ 15 คน เดินหน้ารณรงค์ “12 ค่านิยมหลักของคนไทย” ใช้สื่อกองทัพประโคม

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทั่วประเทศ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความรู้สึกดีใจที่ได้พบปะกับผู้บังคับหน่วย ตลอดจนถึงผู้บังคับกองพัน ภายหลังจากที่กองทัพบกมีส่วนสนับสนุนการทำงานของ คสช. ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่ คสช.ได้เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลาย และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณผู้บังคับหน่วย และกำลังพลทุกคนที่ได้ทำงานหนักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ฝากข้อห่วงใยไปให้กับกำลังพลที่ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ และดูแลประเทศชาติให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และยังคงต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความห่วงใยต่อกำลังพลที่ได้ปฏิบัติงานหนักทั้งในเรื่องของชายแดน และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และทำงานด้วยความปลอดภัยมีผลงานที่เป็นประจักษ์ต่อประชาชน และขอให้เชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชาที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ และขอบคุณทหารที่ช่วยกันตรากตรำทำงาน เพื่อประเทศชาติประชาชน สำหรับภารกิจที่จะต้องรับผิดชอบมีอยู่ด้วยกัน 3 ภารกิจหลัก คือ 1. ภารกิจทั่วไปของกองทัพ ในการดูแลปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ 2. การรักษาความมั่นคงภายใน พร้อมทั้งการสนับสนุนการทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และ 3. การสนับสนุนภารกิจของ คสช. และรัฐบาล

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับว่าขอให้ทุกหน่วยได้ปฏิบัติงานใน 3 ส่วนให้เกิดความสมดุลกัน ส่วนงานด้านความมั่นคงของประเทศให้ใช้กฎหมายปกติในการดำเนินการโดยมีหน่วยงานหลักทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ส่วนกองทัพบกก็ให้การสนับสนุน สำหรับการใช้กฎอัยการศึกนั้นขอให้ทุกหน่วยระมัดระวัง และรอบคอบการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์โลกที่มีผลกระทบต่อคนไทยที่อยู่ในต่างแดน โดยให้ไปศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ เพื่อเอามาเป็นตัวอย่างใช้ศึกษาให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ ยังเล่าให้ผู้บังคับหน่วยได้รับทราบถึงการทำงานของ คสช.ตั้งแต่ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้ว่าการดำเนินการในระยะที่ 1 นั้น คสช.ได้เข้ามาขับเคลื่อนและบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งถือว่าแผนการดำเนินการในระยะที่ 1 เรียบร้อย และกำลังเข้าสู่ระยะที่ 2 ที่มีองค์ประกอบในเรื่องสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งเรียบเรียงตามความสำคัญ ซึ่งการทำงานในระยะที่ 2 ทาง คสช.จะเน้นดูแลในเรื่องงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก และกองทัพบกยังมีความจำเป็นจะต้องสนับสนุนงานเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความราบรื่น

“โดยที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานรับผิดชอบใน 5 กลุ่มงาน กับ 1 กองกำลังรักษาความสงบเรียงร้อย ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ได้ปลดล็อคและขับเคลื่อนประเทศชาติ และเปรียบเสมือนการทำงานในฐานะรัฐบาล ทั้งนี้ในส่วนของผู้บังคับหน่วยที่ได้เข้าไปทำหน้าที่เป็น สนช.จะต้องมีความตั้งใจ เพราะ สนช.จะมีการประชุมสัปดาห์ละ 3-4 วัน จะต้องให้ความสำคัญ พร้อมทั้งศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ และจะต้องไม่กระทบกับงานหลักของกองทัพบก” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้ทหารทุกหน่วยก่อตั้งกลุ่มมวลชนคนทำความดีเพื่อเสริมเสริมความสามัคคี ลดความขัดแย้ง เพี่อให้เกิดความยั่งยืน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม รวมถึงการส่งเสริมให้คนทำความดีเพื่อแผ่นดินสังคมและบ้านเมือง จะได้ลดความบาดหมางซึ่งกันและกัน สำหรับการเพิ่มสมาชิก คสช. จากเดิม 8 คน ให้ครบจำนวน 15 คนตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว โดย พล.อ.ประยุทธ์จะคัดเลือกผู้บังคับบัญชาระดับสูงในทุกเหล่าทัพ โดยจะหารือกันในที่ประชุม คสช.ในวันอังคารที่ 6 ส.ค.นี้ ในเวลา 15.00 น.

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหารจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งการผลิตเพื่อใช้และเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายการลดใช้สารเคมีในการผลิต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความยั่งยืน โดยเร่งให้ดำเนินการตั้ง “ศูนย์ผลิตปุ๋ยอินทรีย์” ในค่ายทหารให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันขอให้เดินหน้าโครงการปลูกป่าอาเซียนในพื้นที่ชายแดนด้วยการปลูกไม้ประจำถิ่นเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน อันจะนำมาซึ่งจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่าของประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียน

รองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์มอบให้ทุกหน่วยทหาร กำลังพล และครอบครัว ยึดถือและปฏิบัติตามหลักค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการที่หัวหน้า คสช.ประกาศไว้ เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมอันดีงามให้กับสังคมไทย นอกจากนี้ในทุกกิจกรรมที่หน่วยทหารของกองทัพบกเข้าไปมีส่วนร่วม เช่น การฝึกอบรมในหน่วยทหาร การส่งทหารเป็นวิทยากร จะรณรงค์เสริมสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการ รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ และความเชื่อมโยงขององค์กรหลักที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ทั้ง 5 องค์กร ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบในโอกาสที่เหมาะสม

ที่สำคัญ ผบ.ทบ.มีนโยบายให้หน่วยทหารจนถึงระดับกองพันสนับสนุนกำลังพลให้เป็นกำลังพลต้นแบบที่มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และให้รณรงค์ขยายผลไปยังภาคส่วนต่างๆ ในโอกาสที่มีการจัดกิจกรรม การประชุมร่วมหรือการประสานสัมพันธ์กับทุกภาคส่วน นอกจากนี้ให้สอดแทรกค่านิยมหลัก 12 ประการ ไว้ในหลักสูตรทางทหาร เพื่อให้ผู้รับการศึกษานำไปประพฤติปฏิบัติ และเผยแพร่ต่อ รวมทั้งการใช้สื่อวิทยุ และโทรทัศน์ในเครือกองทัพบกรณรงค์เผยแพร่ค่านิยมหลัก 12 ประการอย่างกว้างขวางด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น