xs
xsm
sm
md
lg

ต้านคสช.โผล่กลางกรุง ผบ.ทบ.สั่งล่ามือใบปลิว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มือมืดโปรยใบปลิวเกลื่อนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต้าน คสช. "วินธัย" ซัดบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้พื้นที่สกปรก แนะอยากเสนอความคิดเห็นก็เปิดช่องทางไว้ให้แล้ว "อุดมเดช" สั่งล่าไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังโปรยใบปลิว หวั่นเลียนแบบขยายวงกว้าง ส่วนที่เชียงราย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เรียกประชุม ตร.ทุกท้องที่ สั่งเร่งหาตัวคนพ่นสีสเปรย์ ข้อความ-สัญลักษณ์ ต่อต้านรัฐบาล-คสช.รอบค่ายทหาร และที่หน้า ม.แม่ฟ้าหลวง ต้อนรับ "บิ๊กป๊อก" ที่ไปประชุม

เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึง กรณีมีผู้ไม่หวังดีโปรยใบปลิวโจมตีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงเมื่อเช้ามืดวานนี้ ว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการแสดงออกที่ไม่สร้างสรรค์ มีเนื้อหาในลักษณะการกล่าวหาและบิดเบือน และทำขึ้นโดยใช้อารมณ์ส่วนบุคคลในมุมมองอคติ สำหรับผลกระทบจะทำให้บ้านเมืองสกปรก และไม่ความสวยงาม และไม่น่าจะเกิดประโยชน์ใดๆ ต่อสังคมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าผู้เห็นต่างที่ยังไม่เข้าใจ คสช. คงพยายามหาโอกาสในการแสดงออกในรูปแบบต่างๆ จึงอยากขอให้คำนึงถึงเป้าประสงค์ ที่สังคมส่วนใหญ่ต้องการด้วย อีกทั้งเชื่อว่าส่วนใหญ่เวลานี้ประชาชนทั่วไป ต้องการให้ประเทศพัฒนาและเดินไปข้างหน้า โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกัน ดังนั้น หากผู้เห็นต่างมีความตั้งใจจริงในการเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ก็ยังมีช่องทางที่เหมาะสมในระบบมากมายที่สามารถจะกระทำได้

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 05.00 น. วานนี้ พบผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีขาว สวมเสื้อสีดำและกางเกงยีนส์ ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณตระกร้าหน้ารถมีกระดาษสีขาว ขับออกมาจากแยกคอกวัว ก่อนจะวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นโปรยใบปลิว ก่อนจะขับรถหลบหนีไปทางแยกคอกวัว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนตะนาว ตรงไปยังศาลเจ้าพ่อเสือ เลี้ยวขวาเข้าตรอกเสถียร และไปทางรร.39 ก่อนที่จะหายไป

ทั้งนี้ข้อความในใบปลิวดังกล่าว มีลักษณะเชิงโจมตีการทำงานของ คสช. และต่อต้านรัฐประหาร โดยเป็นการเขียนด้วยลายมือ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มนักศึกษามารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยมีกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ คอยรักษาความปลอดภัย ซึ่งคาดว่าคืนนี้จะเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ มาดูแลรักษาความปลอดภัย

**ผบ.ทบ.หวั่นเลียนแบบลุกลาม

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของคสช. และรัฐบาลว่า ได้รับรายงานแล้ว และสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งถือเป็นข้อคิดเห็นของคนที่ยังไม่เข้าใจต่อการทำงานของรัฐบาล แต่อยากฝากไปว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องที่ผ่านมา จริงๆ แล้วการดำเนินงานของรัฐบาล เป็นไปตามขั้นตอนตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ได้ระบุไว้ เพราะฉะนั้นทุกส่วนน่าจะเข้าใจ และช่วยกันประคับประคองเหตุการณ์ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่ต้องให้ความสนใจว่า มีความคิดเห็นอะไร อย่างไร จากการตรวจสอบบางจุด ก็เป็นเรื่องของนักศึกษา ตรงนี้ก็ต้องดูว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องลึกลงไปหรือไม่

"ถ้าหากเป็นเยาวชน นิสิต นักศึกษา ก็ฝากไปยังผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ได้ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ถือว่าเป็นวัยที่บริสุทธิ์ เพราะนิสิต นักศึกษา อยู่ในวัยที่น่าจะได้รับการชี้แจง คำแนะนำ เพราะผมอยากให้น้องๆ นักศึกษา มีความเข้าใจที่ถูกต้อง อยากให้ช่วยกันประคับประคองให้การดูแลชาติของรัฐบาล เป็นไปตามขั้นตอน และสุดท้ายเราก็จะมีรัฐบาลที่ถูกต้องในโอกาสต่อไป สมกับที่ทุกคนได้หวังไว้ ทางรัฐบาล ทหาร และผมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก อยากให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งเป็นความปราถนาดี ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง ต้องการให้เกิดการต่อต้าน ที่ค่อยเป็นค่อยไป และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นอยากให้กลับไปคิดดูว่า ท่านกำลังทำให้ประเทศชาติไม่สามารถยืนหยัดในประชาคมโลกได้ และประเทศไทยจะถอยหลังไปอีก ในส่วนนี้ก็คงต้องมีการติดตาม สืบสวน สืบหา และใครก็ตามที่อยู่ในข่ายที่จะทำความผิดในด้านกฏหมาย ก็ต้องดำเนินการ" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

เมื่อถามว่า ในส่วนของภาพยนต์ “ฮังเกอร์เกมส์” ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในขณะนี้ จนทำให้นักศึกษานำมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก ถือเป็นการแสดงออกเล็กน้อย แต่ก็ไม่เหมาะสม และจะเป็นการเลียนแบบอย่างไรต่อไป ต้องช่วยกันดูแล ทำความเข้าใจ เดินหน้าด้วยดี อย่าให้สะดุด และขยายวงกว้างออกไป ก็จะเกิดความไม่เรียบร้อย

เมื่อถามว่า มีข้อมูลว่าการโปรยใบปลิว มีคนอยู่เบื้องหลัง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ว่า จะมีเช่นนั้นหรือไม่ ก็อยากจะขอร้องว่า อย่าทำเลย เพราะตนต้องเข้ามาดูแลไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กก็ตาม เพราะตนให้ความสนใจ และต้องดูแลในรายละเอียดต่อไป
เมื่อถามต่อว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดการลอกเลียนแบบจากพื้นที่หนึ่ง ไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จึงขอร้องกันให้ทำความเข้าใจ รัฐบาลได้ประคับประคองสถานการณ์ จนทุกคนรู้สึกว่า ประเทศมีความปกติทุกอย่าง แล้วจะทำให้ความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นมาอีกทำไม

เมื่อถามว่านายกฯ เตรียมจะลงพื้นที่ภาคเหนือ มีการดูแลความปลอดภัยอย่างไร เพราะ มีการพ่นสีสเปรย์ ต่อต้านรวมถึงการชู 3 นิ้วในระหว่างที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้าร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ที่ จ.เชียงราย พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ได้กำชับไปยังพล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ดูแลความเรียบร้อยแล้ว

** พ่นสีต้านคสช.ต้อนรับ"บิ๊กป๊อก"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ย.ผ่านมาได้มีผู้นำสีไปพ่นบริเวณถนนรอบค่ายเม็งรายมหาราช ที่ตั้งของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) และหน่วยทหารอื่นๆอีกหลายหน่วย โดยข้อความส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณถนนรอบค่ายเม็งรายมหาราช ประมาณ 7 จุด เมื่อมีผู้ไปพบเห็นข้อความ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ต่อมาจึงมีเจ้าหน้าที่ออกมาทำความสะอาดและลบข้อความดังกล่าวทิ้ง

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กว่า 100 นาย ที่ได้ปฏิบัติการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และตรวจสอบการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล ในช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะไปร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ มีกำหนดเดินทางไปปาฐกถาพิเศษเรื่อง"กระทรวงมหาดไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค" ในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ซึ่งมีพิธีเปิดที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.ท่าสุด อ.เมืองฯ จ.เชียงราย โดยมีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวสุนทรพจน์เปิดการสัมมนาในหัวข้อ"เปลี่ยนหัวคิด ก้าวไปสู่ชัยชนะ" ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะแสดงปาฐกถา และในวันที่ 23 พ.ย. การแถลงสรุป "ยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และแนวโน้มเศรษฐกิจ 5 ภาค" และการปาฐกถาพิเศษเรื่อง" ความร่วมมือระหว่างหอการค้าฯ-กับการท่องเที่ยว" โดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี จะแสดงปาฐกถาพิเศษ "การขับเคลื่อนประเทศไทย"

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้กระทำการดังกล่าวทั้ง 2 จุด คาดว่า ได้ออกกระทำการตั้งแต่เช้ามืดหรือกลางคืน จึงจะมีการสอบสวนและตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวต่อไป

**ตร.เชียงรายยังมืดแปดด้าน

วานนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ผบก.ภ.เชียงราย ได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ของจ.เชียงราย ที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.เชียงราย เพื่อสั่งการให้ออกติดตามหาข่าวและหาหลักฐานติดตามจับกุมผู้ก่อความไม่สงบ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคสช. โดยพล.ต.ต.วีระวุฒิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐาน เพื่อติดตามหาตัวผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน โดยเฉพาะการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียงจุดที่พบข้อความ รวมทั้งขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนการหาข่าวทั่วไป ให้ทุกพื้นที่ได้ออกติดตามความเคลื่อนไหวด้วย เพื่อป้องกันเหตุในอนาคต

พล.ต.ต.วีระวุฒิ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจ และชี้แจ้งเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศไปในทิศทางเดียวกัน ควบคู่ไปกับการกวาดล้างสิ่งผิดกฏหมาย เหตุอาชญากรรม และการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติด ซึ่งแต่ละพื้นที่จะต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ด้วย

อย่างไรตาม ในการประชุมครั้งนี้ไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า บุคคล หรือกลุ่มคนใดเป็นผู้ลงมือพ่นสีสเปรย์ทำสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช.ในวันและเวลาดังกล่าว แต่คาดว่าลงมือกันในเวลากลางคืน ก่อนที่เช้ามืดวันที่ 22 พ.ย. ที่เป็นวันจัดการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 32 สำหรับกลุ่มคนที่เคยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดง ต่างถูกเรียกตัวไปรายงานตัวต่อกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (กกล.รส.) จังหวัดหวัดทหารบกเชียงรายไปแล้วหลายคน บางคนถูกควบคุมตัวเพื่อปรับทัศนคติ 7 วัน และบางคนถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาที่กระทำมาก่อนหน้านี้ ทำให้แทบไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม บางกลุ่มถึงขั้นประกาศสลายสีเสื้อไปแล้ว แต่ก็ยังพบว่าระยะที่ผ่านมา มีบางกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหาร ผ่านสื่อสาธารณะ หรือโซเชียลมีเดียอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

**รองนายกฯอ้าง3 นิ้ว ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์

ด้านนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม กล่าวถึงปฏิกิริยาของกลุ่มนักศึกษาหลายแห่งแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว ต่อต้านการรัฐประหาร ในช่วงที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องการแสดงออกของกลุ่มคน คิดว่าไม่เกี่ยวกับสถานศึกษา แต่เป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปกตินัก ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร เรากำลังพยายามไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับถาวรเพื่อจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามประชาธิปไตยปกติ ดังนั้น เวลาจะประท้วงหรือแสดงความไม่พอใจอะไร ควรดูให้รอบคอบ ไม่ให้เกิดความปั่นป่วนหรือความโกลาหลในสังคมเหมือนกับก่อนรัฐประหาร แต่ละคนต้องช่วยกันคุม เหมือนกับเรือเพิ่งผ่านพายุมา ต้องช่วยกันดู อย่าให้ล่ม
เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องปรากฏการณ์ลอกเลียนแบบในสถานศึกษาหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า สถานศึกษาเป็นสถานที่ที่มีคนหนุ่มคนสาวจำนวนมาก คงไม่เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา พอเขามีความรู้สึกอย่างไร จึงแสดงออกมา มีเท่านั้นเอง อย่าไปตีความอะไรมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญญาชนอยากให้เสนอความเห็นอย่างสร้างสรรค์

อย่างไรก็ตาม การแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว สำหรับตนหมายถึง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เรื่องสัญลักษณ์แล้วแต่ว่า แต่ละคนจะคิดกันไป ไม่ใช่อะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ จะประสานไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้ช่วยชี้แจงทำความเข้าใจหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ทาง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งท่านก็คงอาจจะดำเนินการได้ หากเรื่องชักจะบานปลาย ส่วนกรณีนักศึกษา 5 คน ที่แสดงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่จ.ขอนแก่น จะดรอปเรียนนั้น ยอมรับว่าเป็นห่วงในระดับหนึ่ง

** "ปณิธาน"ห่วงกระแสต่อต้าน

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีผู้แสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร เช่น ชู 3 นิ้ว หรือเขียนข้อความ ว่า ที่ประชุมรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงกังวลว่า จะมีผู้อยู่เบื้องหลังการแสดงออกดังกล่าว หรือจะมีผู้ที่ไม่หวังดี นำการแสดงออกไปขยายผลเพื่อให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นในรอบการทำงานด้านความมั่นคงต่อจากนี้อีก 6 เดือน จึงต้องระวังประเด็นที่นำไปสู่การเผชิญหน้า

นอกจากนั้น ยังมอบหมายให้หน่วยงานในภูมิภาคเข้าไปดูแลพื้นที่และรายงานผลทำงาน รวมถึงการตรวจสอบโครงการที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการในจังหวัดต่างๆ มายังส่วนกลางทุกสัปดาห์ ก่อนที่คณะทำงานจะรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกๆ 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามและตรวจค้นผู้ที่โพสต์รูปที่สื่อถึงการต่อต้านรัฐประหารบนสังคมออนไลน์ ถึงบ้านพัก และรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเรียกไปปรับทัศนคติ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เข้าใจว่าเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าประชาชนถูกควบคุมตัวจากการแสดงออกต้านรัฐประหาร.
กำลังโหลดความคิดเห็น